เทคโนโลยี ‘มองทะลุ’ สิ่งกีดขวาง เพิ่มศักยภาพให้รถไร้คนขับ
วิสัยทัศน์ที่รอบด้านและไร้ขีดจำกัดอาจไม่ใช่เรื่องที่พบได้ตามนิยายหรือการ์ตูนวิทยาศาสตร์หรือซูเปอร์ฮีโร่เท่านั้น แต่ใกล้ที่จะเป็นความจริงขึ้นในอนาคตอันไม่ไกลนี้แล้ว เพราะความก้าวหน้าในงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งในสหรัฐฯ
การมองทะลุกำแพงและสิ่งกีดขวาง เคยเป็น “พลังพิเศษ” ของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ในจินตนาการ แต่ทุกวันนี้ ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้เริ่มศึกษาการใช้พลังงานแสงเลเซอร์ร่วมกับหลักการสะท้อนแสงจากพื้นผิวของสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่โดยรอบ อย่างเช่น ผนัง เพื่อใช้จับภาพวัตถุที่อยู่นอกวิสัยทัศน์ของกล้อง ซึ่งหากพัฒนาสำเร็จก็จะช่วยยกระดับความสามารถของวิสัยทัศน์การมองอย่างมาก และความก้าวหน้านี้ทั้งยังเป็นสิ่งที่จะถูกนำไปต่อยอดเพื่อใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลายด้วย
กอร์ดอน เวทซ์สไตน์ อาจารย์จากภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด อธิบายว่า เมื่อปล่อยเลเซอร์จากจุดกำเนิดแสงที่มีลักษณะเป็นคลื่นพลังงานสั้น ๆ ไปยังพื้นของกำแพงที่มองเห็นได้ แสงที่ตกกระทบจะกระจัดกระจายไปยังวัตถุที่ถูกซ่อนไว้ด้านหลัง อนุภาคแสงโฟตอน (Photon) บางส่วนจะไปกระทบกับวัตถุ และบางส่วนก็จะเดินทางกลับมายังตำแหน่งของกล้อง
เวทซ์สไตน์ชี้ว่า ระบบจะใช้ระยะเวลาที่อนุภาคแสงโฟตอนเดินทางกลับมาที่กล้องเพื่อคำนวนผลลัพธ์และระบุรูปร่างของวัตถุที่ถูกซ่อนไว้
เทคโนโลยีนี้อาจถูกนำมาใช้พัฒนาระบบการถ่ายภาพไลดาร์ (Light Detection and Ranging – LiDAR) ของรถยนต์ไร้คนขับ เพื่อให้ระบบมีข้อมูลของสิ่งที่อยู่รอบตัวที่ดีมากขึ้น
เวทซ์สไตน์ เชื่อว่า “(ระบบรถยนต์ไร้คนขับ) จะเห็นได้กว้างไกลขึ้น ตัดสินใจได้ดีและแม่นยำขึ้น เราไม่ต้องการให้รถมีวิสัยการมองเห็นเทียบเท่าเพียงแค่มนุษย์ เราอยากเห็นมัน (มอบ) ความปลอดภัยที่มากขึ้นไปอีก”
ความก้าวหน้านี้ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์สำหรับการกู้ภัยได้เช่นกัน
โดยอาจารย์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กล่าวว่า “ลองนึกถึงเหตุแผ่นดินไหว มีผู้ประสบภัยฝังอยู่ข้างใต้ หากมีช่องว่างและเรายิงแสงเลเซอร์เข้าไปได้ ก็จะสามารถสแกนสภาพแวดล้อมแบบสามมิติ ในบริเวณที่มองไม่เห็นอย่างรวดเร็ว และตรวจดูว่าในนั้นมีผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือหรือไม่”
สิ่งที่ท้าทายมากที่สุดซึ่งทีมวิจัยกำลังเผชิญอยู่ คือ การคัดกรองอนุภาคแสงโฟตอนทั้งหมดที่กล้องได้รับกลับมา และประมวลสร้างเป็นภาพของวัตถุขึ้นมาใหม่ ซึ่งจำเป็นต้องใช้อัลกอริธึมที่มีความซับซ้อน และการจะนำไปใช้งานจริงก็ยังต้องอาศัยเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้ามากกว่านี้
เวทซ์สไตน์ อาจารย์ด้านวิศวกรรมไฟฟ้า เผยว่า ยังมีอุปสรรคอีกจำนวนมากที่รออยู่ข้างหน้า แต่เขาเชื่อว่า อย่างน้อย เราได้แสดงหลักการความเป็นไปได้ ของการ “มองทะลุ” สิ่งกีดขวาง ไปยังวัตถุที่ลับสายตา
และในไม่ช้า เราอาจได้เห็นเทคโนโลยีนี้โลดแล่นอยู่ตามท้องถนนเพื่อเพิ่มศักยภาพของรถยนต์ไร้คนขับและมอบความปลอดภัยที่มากขึ้นให้กับผู้ใช้งานทุกคนก็เป็นได้
ที่มา: วีโอเอ
เทคโนโลยี ‘มองทะลุ’ สิ่งกีดขวาง เพิ่มศักยภาพให้รถไร้คนขับ
เทคโนโลยี ‘มองทะลุ’ สิ่งกีดขวาง เพิ่มศักยภาพให้รถไร้คนขับ
เทคโนโลยี ‘มองทะลุ’ สิ่งกีดขวาง เพิ่มศักยภาพให้รถไร้คนขับ เทคโนโลยี ‘มองทะลุ’ สิ่งกีดขวาง เพิ่มศักยภาพให้รถไร้คนขับ
เทคโนโลยี ‘มองทะลุ’ สิ่งกีดขวาง เพิ่มศักยภาพให้รถไร้คนขับ
เทคโนโลยี ‘มองทะลุ’ สิ่งกีดขวาง เพิ่มศักยภาพให้รถไร้คนขับ
Ads Links by Easy Branches
เล่นเกมออนไลน์ฟรีที่ games.easybranches.com
บริการโพสต์ thainews.easybranches.com/contribute
เล่นเกมออนไลน์ฟรีที่ games.easybranches.com
บริการโพสต์ thainews.easybranches.com/contribute