หากใครเป็นคอซีรีส์เกาหลีคงเคยเห็นไก่ทอดกล่องสีเหลือง โลโก้สีเขียว ที่ตัวเอกสั่งมารับประทานคู่กับเบียร์กันบ่อย ๆ นั่นคือ สินค้าจาก ”ร้านเพลิคาน่า (Pelicana)“ ตำนานไก่ทอด 40 ปี ผู้บุกเบิกไก่ทอดคลุกซอสของเกาหลี

ส่วนในแง่แบรนด์ดิ้ง เพลิคาน่า ก็ถือว่ามีชื่อเสียงระดับที่ถามคนเกาหลีคนไหนก็รู้จัก จนได้ฉายา “King of Chicken” แถมมีสาขามากสุดในเกาหลีกว่า 1,245 สาขา และหากรวมแฟรนไชส์อีก 16 ประเทศทั่วโลกจะมีมากกว่า 3,000 สาขา

เพลิคาน่า ชูราคาย่อมเยากว่าไก่ทอดเซ็กเมนต์เดียวกัน 30-40%

“อรรถวุฒิ นิธิกอบกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพลิคาน่า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ถือสิทธิ์มาส     เตอร์แฟรนไชส์แบรนด์เพลิคาน่าในไทย กล่าวว่า ตลาดไก่ทอดในไทยมีมูลค่า 30,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง

เซ็กเมนต์ “ไก่ทอดเกาหลี” ก็เป็นร้านอาหารที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ จากกระแส K-Wave แต่ส่วนใหญ่มักเข้าถึงยาก ทานได้ไม่บ่อยนัก เพราะมีราคาสูง

เพลิคาน่า เน้นราคาเข้าถึงง่าย ผู้บริโภคสามารถทานได้ถี่ขึ้น ในราคาเริ่มต้น 99 บาท ไปจนถึง 450 บาท แต่ถ้าชุดเซตใหญ่จะอยู่ที่ราคา 500-700 บาท “ถือว่าราคาย่อมเยากว่าร้านไก่ทอดเกาหลีด้วยกันเองถึง 30-40%” เพื่อจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ตั้งแต่ Gen Z วัยเรียน และกลุ่ม First Jobber รวมไปถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวเอเชีย

ส่วนเมนูไก่ทอด ชูจุดเด่นรสชาติเหมือนไปทานที่เกาหลี ด้วยตัววัตถุดิบซอสนำเข้าจากประเทศต้นตำรับ 100% มีให้เลือกมากถึง 10 รสชาติ อาทิ ซอสเผ็ด ซอสฮันนี่ ซอสซิกเนเจอร์ ซอสสโมกี้ฮ็อท ซอสมาโย รวมถึงมีอาหารเกาหลีอื่น ๆ เพิ่มเติม อาทิ ต๊อกบกกี ซุปกิมจิ ชีสบอล เบอร์เกอร์ไก่ทอด

แต่ยังให้ความสำคัญกับเมนูโลคอลที่นำมาผสมผสานกับความเป็นเกาหลี เช่น เมนูข้าวมันไก่ทอดเกาหลี รวมไปถึงอนาคตอาจทำทั้งไก่ทอดรสชาติใหม่ เช่น เขียวหวาน น้ำพริกหนุ่ม เป็นต้น

เปิดสาขาแรกที่สยาม ตั้งเป้า 3 ปี ขยาย 20 แห่ง ทำยอดขาย 500 ล้านบาท

เบื้องต้น เพลิคาน่า เปิดสาขาแรกแล้วที่ อาคารสยามสเคป ชั้น 3 ย่านสยามสแควร์ และแผนระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2568 – 2570) จะขยายสาขา 20 แห่ง ดังนี้

• ปี 2568 ลงทุน 50-80 ล้านบาท เปิด 5 สาขาใหม่ คาดทำยอดขาย 100 ล้านบาท
• ปี 2569 ลงทุน 50-80 ล้านบาท เปิด 10 สาขา คาดทำยอดขาย 300 ล้านบาท
• ปี 2570 คาดทำยอดขาย 500 ล้านบาท (ยังไม่ระบุจำนวนสาขาและงบลงทุนชัดเจน)

รวมไปถึงการทำสาขา CLOUD Kitchen รับเฉพาะเดลิเวอรีใน กทม. เพื่อขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุม

ร้านอาหารเกาหลีเปิดในไทยเยอะ แต่ก็ล้มหายพับเสื่อกลับบ้านมาก

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาร้านอาหารเกาหลี โดยเฉพาะเซ็กเมนต์ไก่ทอด เปิดตัวในไทยค่อนข้างมาก แต่ก็ล้มหายตายจากไปบางส่วนเช่นกัน จากการแข่งขันของธุรกิจร้านอาหารที่ดุเดือด และเปิดกว้างให้ทั้งแบรนด์ไทยและต่างชาติ

จุดนี้ ”อทิต ปัญทเศรษฐ์“ ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด เพลิคาน่า ให้ความเห็นว่า พฤติกรรมผู้บริโภคไทยมี 2 แบบ คือ ไม่ชอบไปเลย ก็เกลียดไปเลย

จุดอ่อนของแบรนด์ไก่ทอดเกาหลีเวลามาไทย จะเป็นเรื่องความไม่คุ้นชินรสชาติ และรสสัมผัส เช่น ซอสหวานจนเกินไป หรือแป้งแข็งไป เป็นต้น จึงต้องมีการทำการตลาดอย่างหนักเพื่อให้เข้ากับอินไซด์คนไทยมากที่สุด

รวมไปถึงการเซตเมนูขึ้นมาเช่นกัน ที่ต้องทำให้ต่างจากเกาหลี เพราะไทยเน้นกินแบบ Personal ชุดอาหารจึงต้องเซตสำหรับทานเดี่ยว ต่างจากวัฒนธรรมการรับประทานไก่ทอดในเกาหลีที่จะทานรวมหมู่มากกว่า จึงนิยมสั่งเป็นตัว ๆ

ขณะที่การทำการตลาดกับคนไทยยุคนี้ จะไม่ใช้การทุ่มสื่อ แต่จะใช้กลยุทธ์การบอกเล่าแบบปากต่อปาก (Word of Mouth) ด้วย Social Media, Viral Marketing & PR เพื่อเข้ากลุ่มลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

จากแผนทั้งหมดนี้คาดว่าเพลิคาน่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีจากประเทศไทย