ต่างประเทศ
ทรัมป์-แฮร์ริสทุ่มสุดเเรงลุยรัฐสมรภูมิ ก่อนปิดฉากการหาเสียง
เหลืออีกเพียงหนึ่งวันก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อังคารที่ 5 พฤศจิกายน ขณะที่โพลล์ต่างชี้ว่า ตัวเเทนพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ และคู่แข่งจากเดโมเเครต คามาลา แฮร์ริส มีคะเเนนความนิยมเท่า ๆ กัน ช่วงโค้งสุดท้าย รองประธานาธิบดีแฮร์ริสเพิ่ง
เหลืออีกเพียงหนึ่งวันก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อังคารที่ 5 พฤศจิกายน ขณะที่โพลล์ต่างชี้ว่า ตัวเเทนพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ และคู่แข่งจากเดโมเเครต คามาลา แฮร์ริส มีคะเเนนความนิยมเท่า ๆ กัน
ช่วงโค้งสุดท้าย รองประธานาธิบดีแฮร์ริสเพิ่งเดินทางไปรัฐมิชิแกน อีกหนึ่งรัฐที่เเข่งขันดุเดือดกับอดีตประธานาธิบดีทรัมป์
เธอพบกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ร้านไก่ทอดวอฟเฟิลที่เมืองดีทรอยต์ และที่โบสถ์ท้องถิ่นของเมืองนี้ Greater Emmanuel Institutional Church of God in Christ แฮร์ริส กล่าวว่า "ดิฉันเห็นประเทศที่ตั้งมั่นที่จะเดินทางสู่บทใหม่ ออกจากความเกลียดชังและแบ่งแยก เพื่อมุ่งหน้าบนเส้นทางใหม่"
แฮร์ริสบอกด้วยว่า การเดินทางหาเสียงของเธอที่ผ่านมาช่วยเปิดโอกาสให้เห็นถึงชาวอเมริกันทั้งจากพรรครีพับลิกันและเดโมเเครตที่ "พร้อมที่จะโน้มเข้าหาเส้นโค้งของประวัติศาสตร์สู่ความยุติธรรม"
อีกด้านหนึ่งทรัมป์ลงพื้นที่รัฐนอร์ธแคโรไลนา เเละเขาบอกกับผู้สนับสนุนว่าตนมั่นในที่จะชนะในวันเลือกตั้ง
"เรานำอยู่มากอย่างสวยงาม สิ่งที่เราต้องทำ...ก็คือการออกไปโหวต โหวต โหวต ในวันอังคาร" เขากล่าว
ทรัมป์ยังพูดด้วยว่าฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของเขากำลังพยายามที่จะขโมยการเลือกตั้งไป
"พวกเขาโกงเลือกตั้ง และคุณทักท้วง และพวกเขาต้องการให้คุณติดคุก ลองคิดดู มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่สุด.... เราจะเข้าไปแก้ไขสิ่งนี้ เราจะต้องชนะเลือกตั้งครั้งนี้" ทรัมป์กล่าว
ที่การปราศรัยครั้งนี้ ทรัมป์พูดชี้ไปถึงความรุนเเรงต่อฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง โดยพุ่งเป้าไปที่สื่อด้วย
แฮร์ริสกล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นมากกว่าการเมืองที่แบ่งขั้ว และมากกว่าการเมืองที่เกี่ยวกับคนที่ต้องการสร้างความเเตกแยกในประเทศ
"ดิฉันขอร้องให้ฟังเสียงประชาชน ที่ไม่เห็นด้วยกับดิฉัน เพราะ คุณคะ ฉันไม่เชื่อว่าคนที่ไม่เห็นด้วยกับฉันเป็นศัตรู อันที่จริง ฉันจะให้พื้นที่คนเหล่านี้ได้เป็นส่วนหนึ่งด้วยกัน เพราะนั่นคือสิ่งที่ผู้นำที่เข้มเเข็งทำ" แฮร์ริสกล่าว
ในเวลานี้ชาวอเมริกันจำนวนกว่า 75 ล้านคน ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ไปทำหน้าที่โหวตเตอร์เมื่อ 4 ปีก่อน
ขณะเดียวกันผลโพลล์ของ New York Times / Siena College ชี้ให้เห็นว่าทรัมป์และแฮร์ริสที่คะเเนนนิยมเท่ากันที่ 48% ที่มา: วีโอเอ