กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ ฮามาส เผยวิดีโอตัวประกันชาวอเมริกันเชื้อสายอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ ที่ขอให้ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าช่วยเหลือในการปล่อยตัวให้เป็นอิสระ ระหว่างที่สถานการณ์ในกาซ่ายังมีการโจมตีอย่างต่อเนื่อง รอยเตอร์รายงานว่า ยาเอล อเล็กซานเดอร์ แม่ของเอดาน อเล็กซานเดอร์ ตัวประกันชาวอเมริกันเชื้อสายอิสราเอล กล่าวว่าเธอตกใจกับคลิปวิดีโอความยาว 3.30 นาที ที่เผยให้เห็นบุตรชายในวัย 20 ปีที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไป ในสภาพซีดเซียว นั่งหันหน้าเข้ากำแพงอยู่ในที่มืด โดยชายผู้นี้ได้ระบุตัวตนและกล่าวถึงครอบครัวของเขา นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล และว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ แม่ของตัวประกันรายนี้ กล่าวที่เทลอาวีฟว่าวิดีโอดังกล่าว “มอบความหวังให้เรา แต่ได้แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากของเอดานและตัวประกันคนอื่น ๆ และการที่พวกเขาร้องขอและอ้อนวอนให้เราช่วยเหลือพวกเขา” พร้อมเรียกร้องให้ผู้นำอิสราเอลยุติสงครามในกาซ่า และทำข้อตกลงกับฮามาสเพื่อปล่อยตัวประกันที่เหลือ ด้านนายกฯ อิสราเอล เนทันยาฮู กล่าวในแถลงการณ์ว่า วิดีโอดังกล่าวเป็นสงครามจิตวิทยาอันโหดร้ายและว่าได้โทรศัพท์พูดคุยกับครอบครัวของอเล็กซานเดอร์ โดยย้ำกับพวกเขาว่าอิสราเอลทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อนำตัวประกันกลับบ้าน ขณะที่ทีมเปลี่ยนผ่านอำนาจของทรัมป์ไม่ได้ตอบกลับรอยเตอร์ที่ขอความเห็นในเรื่องดังกล่าวในช่วงเวลาที่รายงานข่าวนี้ ทั้งนี้ เอดาน อเล็กซานเดอร์ ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไประหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นทหาร เมื่อ 7 ต.ค. 2023 ในการโจมตีของฮามาสทางตอนใต้ของอิสราเอล โดยทางการเทลอาวีฟยังเชื่อว่ามีตัวประกัน 101 คนยังคงมีชีวิตอยู่ในกาซ่าใต้การควบคุมของฮามาส ส่วนความคืบหน้าด้านการเจรจาหยุดยิงในกาซ่า ผู้นำฮามาสเยือนอียิปต์ในวันเสาร์ เพื่อหารือหนทางในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันเพื่อแลกกับการส่งคืนนักโทษปาเลสไตน์ที่อิสราเอลจับตัวไป ซึ่งถือเป็นพัฒนาล่าสุด หลังจากรัฐบาลกรุงวอชิงตันเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่ามีความพยายามผลักดันดีลหยุดยิงในกาซ่าขึ้นมาอีกครั้ง ฌอน ซาเว็ตต์ โฆษกสภาความมั่นคงประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า “เรามีโอกาสสำคัญในการบรรลุข้อตกลงเพื่อปล่อยตัวประกัน ยุติสงคราม และเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในกาซ่า” และว่าคณะทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีการปล่อยตัวประกันชาวอเมริกันให้ได้ พร้อมย้ำว่า “ข้อตกลงอยู่ในการพิจารณาแล้ว” ยูเอ็นเตรียมระงับการส่งความช่วยเหลือไปกาซ่า เหตุกลุ่มติดอาวุธดักปล้น หน่วยงานผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ของยูเอ็น ระบุในวันอาทิตย์ว่าจะระงับการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในเส้นทางสายหลักเข้าฉนวนกาซ่า เนื่องจากภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธที่เข้าปล้นขบวนรถบรรทุกขนส่งของหน่วยงานระหว่างประเทศ ฟิลิปเป ลาซซารินี หัวหน้าสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) เผยว่าเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยัง เคเรม ชาลอม อันตรายเกินไปในฝั่งกาซ่า เนื่องจากมีกลุ่มติดอาวุธเข้าปล้นรถบรรทุกความช่วยเหลือเกือบ 100 คันบนเส้นทางดังกล่าว เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน และเข้าปล้นสิ่งของบรรเทาทุกข์อีกครั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมทั้งกล่าวโทษการฝ่าฝืนกฎหมายและการรักษาความสงบเรียบร้อยที่มาจากนโยบายของอิสราเอล ด้านทางการอิสราเอลยังไม่ได้ให้ความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าวของหน่วยงานผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ของยูเอ็น โดยระบุเพียงว่า อิสราเอลเปิดทางให้ส่งความช่วยเหลือเข้าไปกาซ่าอย่างเพียงพอ และกล่าวหา UNRWA และหน่วยงานด้านมนุษยธรรมอื่น ๆ ที่ล้มเหลวในการจัดส่งสิ่งของเหล่านี้เสียเอง ณ เวลานี้ ด่านเคเรม ชาลอม เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างอิสราเอลและกาซ่าเส้นทางเดียวที่เหลืออยู่ในการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในดินแดนปาเลสไตน์ หลังจากด่านราฟาห์ถูกปิดไปเมื่อเดือนพฤษภาคม สำหรับสถานการณ์ล่าสุดในกาซ่า ผู้สื่อข่าวเอพี รายงานการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ในมูวาซี คร่าชีวิต 6 ราย รวมทั้งมีเด็ก 6 ขวบ และ 8 ขวบเสียชีวิต เมื่อวันอาทิตย์ ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่แพทย์ในโรงพยาบาลนาสเซอร์ ในกาซ่า นอกจากนี้ ยังมีการโจมตีทางตอนใต้ของราฟาห์ ซึ่งติดกับชายแดนอียิปต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย แต่กองทัพอิสราเอลระบุว่าไม่ทราบเรื่องการโจมตีของทั้ง 2 พิกัดนี้ และว่าอิสราเอลมุ่งโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธเท่านั้น อีกด้านหนึ่ง มีรายงานจรวดของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนมุ่งหน้าถล่มตอนกลางอิสราเอล แต่กองทัพเทลอาวีฟระบุว่าได้สกัดอาวุธดังกล่าวได้ก่อนจะถึงเป้าหมายในอิสราเอล ที่ผ่านมา สหรัฐฯ กาตาร์ และอียิปต์ ใช้เวลาในช่วงปีที่แล้วในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซ่า แต่ต้องสะดุดอยู่หลายครั้งจากการที่อิสราเอลปฏิเสธข้อเสนอฝั่งฮามาสในการถอนทหารทั้งหมดจากดินแดนปาเลสไตน์ ซึ่งคณะทำงานไบเดน กล่าวว่าจะผลักดันดีลหยุดยิงอีกครั้งในช่วงสัปดาห์สุดท้ายที่ดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ด้านว่าที่ปธน.ทรัมป์ ได้ให้คำมั่นในการยุติสงครามในตะวันออกกลาง โดยไม่ได้ระบุว่าจะเป็นไปในรูปแบบใด ที่มา: เอพี, รอยเตอร์