รัสเซียเปิดเผยในวันศุกร์ว่าสามารถยึดครองหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้กับเมืองโปครอฟสค์ที่เป็นชุมทางขนส่ง และอีกแห่งใกล้กับเมืองอุตสาหกรรมคูราโคฟ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางตะวันออกของยูเครน เอเอฟพีรายงานว่า หลายเดือนที่ผ่านมา กองทัพมอสโกรุกคืบเข้ามาทางตะวันออกของยูเครน พยายามกดดันและสร้างความได้เปรียบเหนือกองทัพกรุงเคียฟที่ต้องปกป้องพื้นที่กว้างใหญ่ด้วยอาวุธที่น้อยกว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในการแถลงข่าวประจำวันว่า กำลังพลสามารถ “ปลดปล่อยที่มั่น” ที่ชื่อซูคี ยาลี และพุสทินกา ทางพื้นที่ตะวันออกของดอแนตสก์  ซูคี ยาลี ตั้งอยู่ 13 กม. ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองคูราโคฟ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมที่รัสเซียพยายามปิดล้อม ส่วนพุสทินกาตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองโปครอฟสค์ที่เป็นชุมทางถนนและรางรถไฟที่ส่งกำลังสนับสนุนให้ทหารยูเครนที่สู้รบในแนวหน้า สงครามที่เข้าสู่ปีที่สามระหว่างรัสเซียและยูเครนทวีความดุเดือดขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังกองทัพกรุงเคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลจากสหรัฐฯ และอังกฤษยิงลึกเข้าไปในแดนรัสเซีย ตามมาด้วยการยิงจรวดความเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่กลับมาจากรัสเซีย ยูเครนพยายามอยู่ในจุดที่ได้เปรียบให้มากที่สุดก่อนที่สหรัฐฯ จะเปลี่ยนผู้นำเป็นโดนัลด์ ทรัมป์ ในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ ทรัมป์ประกาศว่าจะจบสงครามรัสเซียและยูเครนอย่างรวดเร็ว จนสร้างความกังวลว่าแนวทางนี้อาจออกมาในรูปแบบการบังคับให้รัฐบาลกรุงเคียฟต้องยอมเสียดินแดนที่รัสเซียยึดไป ในวันศุกร์ โดรนของยูเครนโจมตีเมืองโอเลชกีที่รัสเซียยึดครองอยู่ในวันศุกร์ ผู้ว่าการเมืองที่ได้รับแต่งตั้งมาจากกรุงมอสโกกล่าวว่ามีประชาชนเสียชีวิตสามราย และบาดเจ็บหนักอีกสามคน วลาดิเมียร์ ซาลโด ผู้ว่าการตอนใต้ของแคว้นเคอร์ซอนที่รัสเซียแต่งตั้งมา เผยแพร่ภาพหลังการโจมตี ที่นอกอาคารมีร่างมนุษย์ที่คลุมด้วยผืนผ้าอยู่ตามท้องถนน โดยเรียกการจู่โจมดังกล่าวว่า “การโจมตีด้วยโดรนกามิกาเซ่อย่างไร้มนุษยธรรม” ซาลโดกล่าวว่ายูเครนมุ่งเป้าไปที่ศูนย์กระจายสิ่งของบรรเทาทุกข์ และกล่าวหาว่ามุ่งเป้าไปที่พลเรือนเป็นการเฉพาะ รัฐบาลกรุงเคียฟยังไม่ให้ความเห็นในประเด็นนี้ แต่ระบุว่าไม่ได้เล็งเป้าการโจมตีพลเรือนในพื้นที่ทั้งหลายที่รัสเซียยึดครอง ก่อนรัสเซียเข้ายึดครอง โอเลชกีมีประชากรราว 20,000 คน ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำดนิโปร ที่เป็นด่านหน้าของสงครามระหว่างสองชาติในสงครามครั้งนี้ ที่มา: เอเอฟพี