“ฮาคูโฮโด” เผยผลสำรวจล่าสุด พบคนไทยความสุขลดลง พยายามเอาตัวรอดจากเศรษฐกิจ เน้นรายได้จากหลายช่องทาง แต่ไม่ลืมครอบครัว เสนอแบรนด์ควรให้ความสำคัญกับครอบครัว ความปลอดภัย และมั่งคั่ง
• ฮาคูโฮโด เปิดผลสำรวจใหม่ล่าสุด พบว่าค่าความสุขของคนไทยลดลง เนื่องจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดอย่างรุนแรงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ประกอบกับเศรษฐกิจในปัจจุบันอยู่ในภาวะที่ฝืดเคือง
- Apr 11 2022
- 152
- 5114 Views
กรุงเทพฯ ประเทศไทย,เมษายน 2565 – สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) หรือ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (THAILAND)รวมกับบริษัทในเครือฯ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส (ประเทศไทย) Hakuhodo First (Thailand) เผยผลสำรวจการคาดการณ์พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทยประจำเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 พบว่า การแพร่ระบาดของโควิดทำให้ ค่าความสุขของคนไทยนั้นลดลง คนไทยให้ความสำคัญกับสินค้าที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวและสุขภาพ พร้อมใส่ใจความมั่งคั่งและความปลอดภัยมากขึ้น พร้อมให้ข้อเสนอแนะแก่แบรนด์ต่าง ๆ ในการเร่งทำการตลาดเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว อาทิ ชวนคลายเครียดด้วยกิจกรรมใหม่ ๆ เน้นเสริมความสัมพันธ์กับครอบครัวแต่ยังปลอดภัยหลบโควิด หรือเสนอโปรโมชันช่วงซัมเมอร์ที่แปลกใหม่ ที่สามารถส่งความรักความห่วงใยถึงกันได้มากขึ้น
ผลสำรวจประจำเดือนเมษายน
พ.ศ. 2565เผยให้เห็นถึงภาพรวมของค่าความสุขของคนไทยที่ลดน้อยลงเมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองซึ่งสร้างความกังวลใจให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก
ส่งผลให้คนไทยหันมาใส่ใจในเรื่องของความปลอดภัยความมั่งคั่ง
และการจับจ่ายใช้สอยอย่างระมัดระวัง
คุณชุติมา
วิริยะมหากุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน
(ประเทศไทย) กล่าวว่า “จริง ๆ
แล้วคนไทยนั้นชอบช้อป แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ต่างๆ ตอนนี้ ทำให้สินค้าหลายๆ อย่างมีราคาสูงขึ้น
ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค ทำให้คนไทยระมัดระวังเรื่องของการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
และซื้อของที่ไม่จำเป็นลดลง”
แนวโน้มความต้องการในการใช้จ่ายจากผลสำรวจการคาดการณ์พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทยประจำเดือนเมษายน
พ.ศ. 2565พบว่า รายการสินค้าที่ผู้บริโภคไทยให้ความสำคัญมากที่สุดในช่วงนี้ได้แก่
อาหาร ของใช้ในชีวิตประจำวัน และโทรศัพท์มือถือ ตามลำดับ
สาเหตุเกิดจากการเตรียมตัวให้พร้อมต้อนรับช่วงเทศกาลสงกรานต์
เพื่อสังสรรค์กับครอบครัว เน้นซื้อของที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน
และยังคงให้ความสำคัญกับการซื้อของต่าง ๆ เพื่อคนในครอบครัว
“แม้จะมีข้อจํากัดจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แต่คนไทยยังคงให้ความสำคัญกับความสำคัญกับครอบครัวและเครือญาติ
อย่างการรวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองในวันปีใหม่ไทย และการไหว้บรรพบุรุษ แต่จะถูกปรับเปลี่ยนวิธีมาเป็นการเฉลิมฉลองด้วยวิธีที่ปลอดภัยอย่างการฉลองที่บ้าน
แทนการออกไปนอกสถานที่ ทำให้ผลสำรวจออกออกมาสอดคล้องกับพฤติกรรมการซื้ออาหารกักตุนไว้ที่บ้านช่วงสงกรานต์” คุณดวงแก้ว ไชยสุริวิรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ฮาคูโฮโด
เฟิร์ส (ประเทศไทย) กล่าวเสริม
อย่างไรก็ตาม
สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย)
กลับพบอีกประเด็นหนึ่งที่แบรนด์ควรให้ความสำคัญ ได้แก่ ประเด็นด้านสงคราม การเมือง
เศรษฐกิจ การลงทุน และอาชญากรรม ที่ส่งผลให้สินค้าอุปโภคและบริโภคมีราคาสูงขึ้น
ทำให้คนไทยมองหาความมั่งคั่งมากกว่างานที่มั่นคง
เพื่อให้มีรายได้ที่มากขึ้นชดเชยกับค่าใช้จ่าย
และต้องวางแผนการจับจ่ายให้รัดกุมมากขึ้น ลดการเดินทางและการท่องเที่ยว
แต่ยังคงใส่ใจครอบครัวด้วยการซื้อของให้ญาติผู้ใหญ่ในวันสำคัญเพื่อสื่อความห่วงใยแม้ตัวห่างไกลกัน
เพื่อให้แบรนด์สามารถทำการตลาดได้สอดคล้องกับสถานการณ์ช่วงซัมเมอร์นี้คุณพรนภัส สุลัยมณี นักวางแผนกลยุทธ์ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส (ประเทศไทย) ได้ให้คำแนะนำว่า
1. แบรนด์ควรชวนคลายเครียดด้วยกิจกรรมใหม่ๆ เน้นเสริมความสัมพันธ์กับครอบครัวแต่ยังปลอดภัยหลบโควิดเพราะเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาของครอบครัว
ที่แบรนด์สามารถเข้าไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เปลี่ยนบรรยากาศการเฉลิมฉลองกับครอบครัว
สนับสนุนการอุปโภคและบริโภคสินค้าภายในบ้านที่ดีต่อสุขภาพและจิตใจเป็นหลัก เพื่อชดเชยข้อจำกัดด้านการเดินทางท่องเที่ยว
หรือ กลับบ้านไปหาครอบครัวในช่วงโควิดโอไมครอนนี้
2. เสนอโปรโมชันช่วงซัมเมอร์ที่แปลกใหม่
พร้อมสนับสนุนการส่งความรักความห่วงใยถึงกัน เพื่อต้อนรับช่วงเวลาที่สำคัญของครอบครัว
อย่างการส่งมอบความรักความห่วงใยให้กับครอบครัวหรือคนที่เรารักแม้อยู่ห่างไกลกัน
“สถานการณ์เช่นนี้ถือเป็นความท้าทายของทุกๆ
ฝ่ายในการที่จะต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ แม้ว่าโควิด- 19 จะทำให้เราไม่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหนไกล แต่เรายังสามารถแสดงความห่วงใยให้คนที่เรารักและกระชับความสัมพันธ์กับสมาชิกในครอบครัวหรือคนสำคัญในชีวิตของเราได้
สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) เราเล็งเห็นถึงช่องว่างนี้
และหวังว่าแบรนด์ต่างๆ จะนำข้อเสนอแนะนี้ไปปรับใช้กับแผนการตลาดของตน เพื่อให้สามารถรับมือกับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดเข้มข้นสู่เศรษฐกิจฝืดเคือง
และเพิ่มความสุขให้คนไทยในไตรมาสต่อไปได้” คุณพรนภัส
สุลัยมณี กล่าวปิดท้าย
###
เกี่ยวกับสถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด
อาเซียน (ประเทศไทย)
สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด
อาเซียน (ประเทศไทย) หรือ Hakuhodo
Institute of Life and Living ASEAN (THAILAND) ทำการศึกษาเกี่ยวกับ"การคาดการณ์พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทย"ทุก ๆ สองเดือน
โดยผลสำรวจการคาดการณ์พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทยประจำเดือนเมษายน
พ.ศ. 2565 เป็นผลสำรวจจากการรวบรวมข้อมูลจากวันที่ 21กุมภาพันธ์ ถึง วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2565โดยมุ่งเน้นเกี่ยวกับแนวโน้มและพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยในอนาคต
ผ่านการทำแบบสอบถามเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ จากประชากรเพศชายและหญิงจำนวน 1,200 คน
อายุระหว่าง 20-59 ปี จาก 6 ภูมิภาค
ทั่วประเทศ
Hakuhodo
Institute of Life and Living ASEAN คือศูนย์วิจัยแห่งใหม่ของกลุ่มฮาคูโฮโดในภูมิภาคอาเซียน
ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2014 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือบริษัทต่างๆ
ภายในประเทศสมาชิกภูมิภาคอาเซียนในเรื่องของข้อมูลการตลาด
รวมทั้งสังเกตไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น
โดยการวิจัยของฮาคูโฮโดจะเป็นการวิจัยที่มุ่งเน้นการศึกษา Sei-katsu-shaหรือ ผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคม (Living person) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของปรัชญาของฮาคูโฮโด
ที่ไม่เพียงแค่อธิบายผู้คนในฐานะผู้บริโภคที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
แต่อธิบายถึงความเป็นบุคคลของผู้บริโภคที่มีชีวิต จิตใจ ไลฟ์สไตล์ แรงบันดาลใจ
และความฝันที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
ติดตามผลสำรวจเพิ่มเติมได้ที่
Hakuhodo Institute of
Life and Living ASEAN (THAILAND)
https://www.facebook.com/hakuhodohillasean
สื่อมวลชนติดต่อ:
คุณปาลิตา ใจปลื้ม Palita@midas-pr.com โทร 087 503 9913
คุณนภเศรษฐ์ ผลจันทร์ Noppaset@midas-pr.com โทร 063 416 0211