ปัตตานี อาเซียน มอลล์ จัดเลี้ยงละศีลอดแก่เด็กกำพร้า จากชุมชนในตำบลบานา และตำบลตันหยงลุโละ และชาวบ้านร่วมกว่าร้อยคน ดาโต๊ะ จามาล มูฮัมมัดอามีน ประธานกรรมการบริหารอาเซียน มอลล์ ปัตตานี ย้ำ ความสำคัญของภาษามลายูที่เยาวชนควรเพิ่มทักษะเพื่ออนาคตที่ดี และพร้อมหนุนปัตตานี อาเซียน มอลล์ เป็นประตูสินค้าฮาลาลสู่อาเซียน

ในเดือนรอมฏอนที่มุสลิมต่างถือศีลอดเป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่ก่อนรุ่งสางถึงพระอาทิตย์ตก ถึงเวลาละศีลอดในแต่ละวัน ในสถานการณ์ปกติก่อนหน้านี้ จะมีการจัดละศีลอดในแต่ละหน่วยงาน องค์กร ชุมชน ทั้งเดือน หากเมื่อมีสถานการณ์โควิดต่อเนื่องมา 2-3 ปี การจัดละศีลอดเหล่านี้ก็ลดลงมาก หรือจัดกันในจำนวนคนร่วมงานน้อย

ห้างปัตตานี อาเซียน มอลล์ จัดเลี้ยงละศีลอด ตามมาตรการในสถานาการณ์โควิดแก่น้อง ๆ กำพร้า จำนวน 50 คน โดยมีดาโต๊ะยามาล โมฮัมหมัด ยามีน ประธานบริหารบริษัท ยูนิตี้กรุ้ป (1436) ฝ่ายมาเลเซีย ดร.แวดือราแม มะมิงจิ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ร่วมละศีลอดและมอบปัจจัยในครังนี้ด้วย

ดาโตะ จามาล มูฮัมมัดอามีน ประธานกรรมการบริหารอาเซียน มอลล์ ปัตตานี กล่าวว่า อาเซียนมอลล์ให้ความสำคัญกับทุกด้าน ในเดือนรอมฏอนได้จัดเลี้ยงละศีลอดแก่พี่น้องมุสลิมหลายกลุ่ม รวมทั้งเด็กกำพร้าที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน พร้อมฝากให้เยาวชนเห็นความสำคัญของภาษามลายู

“อาเซียน มอลล์ ให้ความสำคัญกับทุกด้าน เป็นห้างที่มีความฮาลาลในทุกกระบวนการ เป็นการลงทุนเพื่อสังคมบนที่ดินวากัฟที่เช่าเป็นเวลา 30 ปี หลังจากนั้น จะเป็นวากัฟของทุกคน มั่นใจในศักยภาพของพื้นที่และสินค้าต่าง ๆ ของที่นี่ ได้เห็นสินค้าท้องถิ่นที่หลากหลาย ทรัพยากรทั้งทางบกและทางทะเล ที่จะปรับและยกระดับขึ้นมาให้ได้มาตรฐาน

คนในสามจังหวัดชายแดนใต้ เป็นคนที่มีความสามารถในการพูดสองภาษา คือ ภาษามลายู และภาษาไทย ซึ่งในภูมิภาคนี้มีคนพูดภาษามลายูประมาณ 300 ล้านคน เราพูดมลายูได้ แต่ไม่สามารถพูดภาษามลายูกลางได้ การเรียนภาษามลายูจึงสำคัญมาก รวมทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาอื่น ๆ อย่ามองว่าเราพูดมลายูได้แล้วก็หยุดเรียนรู้ภาษาอื่น ภาษาทุกภาษามีความสำคัญ เพื่อการพัฒนาตัวเอง การสื่อสาร และการทำธุรกิจ

ที่นี่จะเป็นที่สำคัญ เพราะจะเป็นศูนย์กลางขยายธุรกิจไปสู่อาเซียนต่อไป เรามาลงทุนในไทยเพราะมีภาษาพูดที่เหมือนกัน จากความสำเร็จของที่นี่ จะช่วยให้คนปัตตานีมีงานทำ มีธุรกิจในอนาคตอีกมากมาย เราไม่ได้มองว่ามาลงทุนแต่เพียงจุดนี้ แต่มองว่าเป็นประตูที่สามารถแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงกับนักธุรกิจนอกพื้นที่ได้ด้วย เพราะมุสลิมมีอยู่ทั่วประเทศ อีกทั้ง นักธุรกิจชาวจีน ชาวไทย เราก็เปิดโอกาสให้เข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนได้อย่างไม่จำกัด มั่นใจว่า เมื่อห้างฮาลาลแห่งแรกนี้สำเร็จแล้ว จะดึงนักลงทุนพันธมิตรจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย และ นานาชาติ เข้ามาลงทุนด้านอื่น ๆ ในนราธิวาส ยะลา มากขึ้น เปิดพื้นที่ให้ความมั่นใจมากยิ่งขึ้น เป็นการมองในระยะยาวถึงผู้บริโภคในอนาคต”

Ammad Fadzlan Bin Yusof ผู้จัดการทั่วไปปัตตานี อาเซียน มอลล์ บอกว่า ด้วยประสบการณ์ในการบริหารซุปเปอร์มาร์เก็ตมา 9 แห่งในมาเลเซีย ตั้งใจบริหารให้ที่นี่สำเร็จเช่นเดียวกัน

“ทำไมเราถึงเลือกปัตตานี เพราะ 90 เปอร์เซ็นต์ของคนสามจังหวัดพูดภาษามาเลย์ได้ จึงง่ายต่อการสื่อสารและต่อยอดงาน เราจะเริ่มมีอีเวนท์ทั้งของไทยและต่างประเทศ เพื่อให้คนรู้จักอาเซียน มอลล์ มากขึ้น เร็ว ๆ นี้ ช่วงเดือนเมษา จะจัดอีเวนท์ที่สำคัญที่สุด คือ สินค้าฮาลาล หรือ One Stop Center รวมทั้งจะพัฒนาเพิ่มด้านเภสัช และทุกอย่างที่เป็นที่ต้องการของตลาด เชิญผู้ประกอบการและพนักงานร้านค้าในอาเซียน มอลล์ มาเรียนรู้การทำตลาดออนไลน์ เช่น การเปิดบัญชีลาซาด้า โชปี้ เป็นต้น เราจะเน้นการใช้ฟู้ดแพนด้า ไลน์แมน ในซูเปอร์มาร์เก็ต และเปิดตลาดสินค้าชุมชนและสินค้าของชาวประมงอีกด้วย ด้วยสถานการณ์โควิดทั้งในไทยและมาเลเซียที่ล้วนได้รับผลกระทบเหมือนกัน อาจล่าช้าในการขนส่งสินค้าระหว่างกันแต่เป็นปัญหาที่ต้องจัดการ

สำหรับ Mohd. Zamri Said ผู้จัดการอาเซียนชอป บอกว่า ปัตตานี อาเซียน มอลล์ เป็นธุรกิจวากัฟแห่งแรกในเอเชีย ตอนนี้ฟิลิปปินส์กำลังเอาโมเดลนี้ไปทำเช่นกัน

“เรามีแผนธุรกิจที่จะร่วมมือกับในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยการตกลงความร่วมมือกับ ม.อ.ปัตตานี มีโครงการบิสิเนสแมชชิ่งกับมาเลเซีย กับผู้ผลิตและผู้ซื้อในสามจังหวัด มีการทำข้อตกลงในการทำงานร่วมกันระหว่างสหกรณ์ในมาเลเซียกับสหกรณ์ในพื้นที่สามจังหวัด มีตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์นำเข้ามาในที่นี่ นำผลิตภัณฑ์ของพื้นที่นี้ไปสู่มาเลเซียเพื่อแลกเปลี่ยน เป็นความเชื่อมโยงในการทำงานร่วมมือทางเศรษฐกิจกันระหว่างมาเลเซียและสามจังหวัด มีอาเซียนชอปเป็นศูนย์กลางในการที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ฮาลาลต่าง ๆ จากมาเลเซียและภูมิภาคอาเซียนมานำเสนอ ที่นี่เป็นประตูที่นำสินค้าจากอาเซียนมาสู่ในพื้นที่สามจังหวัดและส่งต่อไปยังพื้นที่อื่น”

ปัตตานี อาเซียน มอลล์ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ขนาด 2 ชั้น ในพื้นที่เช่า 21 ไร่ ในโครงการมะดีนะตุสสลาม หรือปัตตานีจายา ที่มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1,300 ไร่ และเป็นที่ดินวากัฟ (สาธารณกุศล) ทั้งหมด เป็นอีกโครงการลงทุนร่วมระหว่างนักธุรกิจจากประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท เป็นอีกทางเลือกสำหรับพี่น้องชาวไทยและมุสลิมในการเลือกซื้อสินค้า อาหาร ที่ปลอดภัย สะอาด และฮาลาลถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม หลังจากต้องรอห้างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะมานาน ซึ่งจะเกิดการลงทุน การพัฒนาพื้นที่และเป็นห้างใหม่อีกแห่งหนึ่งในภาคพื้นเอเซีย ที่กลุ่มนักธุรกิจทั้งชาวไทยและมาเลเซียให้ความสนใจ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกับคนในพื้นที่ การสร้างธุรกิจนี้ เป็นธุรกิจเกื้อกูลกันไม่ได้มุ่งหวังกำไรเป็นหลัก เน้นให้อยู่ได้ กำไรส่วนหนึ่งช่วยเหลือคนยากจนและเพื่อประโยชน์สาธารณะ

ที่มา : ThaiNews

The post ปัตตานี อาเซียน มอลล์ เลี้ยงละศีลอดเด็กกำพร้าชุมชนรายรอบ ตั้งเป้าเป็นประตูสินค้าฮาลาลสู่เอเชีย appeared first on Thaimuslim.