หากจะพูดถึงขวัญใจชาวเน็ตที่มาแรงแซงทุกโค้ง นาทีนี้คงต้องยกให้ ‘หมูเด้ง’ ลูกฮิปโปแคระเพศเมีย วัย 2 เดือนกว่า แห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี ที่ความเด้งดึ๋งหนึบหนับไปจับใจผู้คนทั่วโลก ถึงขนาดที่ว่า สำนักข่าวต่างประเทศและนิตยสารต่างประเทศชื่อดัง ยังต้องเอาเรื่องของหมูเด้งไปนำเสนอ

เกิดมาเพื่อเป็นขวัญใจมหาชน

ความดังของหมูเด้ง อาจเรียกได้ว่าเริ่มจากชื่อเลยก็ว่าได้ เพราะก่อนหน้านั้นทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ก็ได้ตั้งโพล ออนไลน์ เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ได้เข้ามาร่วมกันโหวตชื่อให้กับลูกฮิปโปะแคระกัน โดยมี 3 ชื่อคือ หมูเด้ง หมูแดง และ หมูสับ ท้ายที่สุด ชื่อ หมูเด้ง ที่ได้รับผลโหวตกว่า 20,000 คนบนโซเชียล ก็ชนะไปในที่สุด

แน่นอนว่าบรรดาลูกสัตว์เกิดใหม่นั้นน่ารักมาก พี่เลี้ยงอย่าง เบนซ์ ที่เดิมก็ทำช่อง TikTok และเพจ ‘ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง’ เพื่อลงรูปและคลิปความน่ารักของ ขาหมู ฮิปโปตัวแรกที่ได้เลี้ยงมา ตั้งแต่ทำอาชีพ Zookeeper (ผู้ดูแลสัตว์) ให้ผู้ติดตามได้ดูกันในช่วงที่ว่างจากงาน เพราะการแพร่ระบาดของโควิด นอกจากนั้นเบนซ์ยังอวดความน่ารักและปั้นสัตว์ตัวอื่นๆ ในสวนสัตว์ อาทิ คุณแฟลช (สต็อตสองนิ้ว) กะปิ (คาปิบาราหน้านิ่ง) และป๋องแป๋ง (กวางดาวสายชิล) ให้นักท่องเที่ยวได้คลายเหงากันด้วย 

กระทั่งสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย นักท่องเที่ยวก็กลับมาเยี่ยมชมสวนสัตว์ดังเดิม เบนซ์ก็ทำหน้าที่พี่เลี้ยงไปพร้อมๆ กับสร้างคอนเทนต์ของบรรดาสัตว์ต่างๆ ในสวนสัตว์มาเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีแก๊งลูกฮิปโปเกิดใหม่ ทั้งหมูตุ๋น, หมูหวาน ที่ได้รับความเอ็นดูจากนักท่องเที่ยวกันไม่น้อย จนการมาถึงของ หมูเด้ง ที่ไม่ใช่แค่ได้รับความนิยมในประเทศไทยเท่านั้น แต่หมูเด้งยังกลายเป็นที่รู้จักของผู้คนแทบจะทั่วโลกอีกด้วย  

จากมีมตลกในโซเชียล สู่ กระแสความน่ารักที่ไม่ว่าใครก็ขอพูดถึง

ด้วยความหนุบหนับ น่ารักน่าชัง บวกกับพลังอันล้นเหลือ ที่วิ่งเล่นดีดดิ้งหยอกกับเบนซ์ได้แทบทั้งวัน จนมีแฟนคลับนำคลิปและภาพถ่ายของหมูเด้งไปเผยแพร่ จนเกิดแฮชแท็ก #หมูเด้งจะเด้งกี่โมง และได้รับความนิยมทั้งใน X (Twitter) และ TikTok เป็นอย่างมาก นำมาสู่การแคปรูปและคิลปหมูเด้งมาเล่นเป็น มีม (Meme) ซึ่งเป็นรูปภาพ หรือ คลิปวิดีโอสั้นๆ ที่เป็นมุกตลกลอกเลียนสถานการณ์ คน สัตว์ รวมถึงสิ่งของ สะท้อนความคิดและมุมมองต่างๆ โดยไม่ต้องใช้เวลาอธิบายให้ยืดยาว 

ซึ่งมีมมักถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายบนโลกออนไลน์ เพราะสามารถสื่อความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ต้องการพาดพิงถึงได้ง่ายและรวดเร็ว อาทิ รูปหมูเด้งวิ่งหนีพี่เลี้ยง ซึ่งบริบทนี้ชาวเน็ตนำมาใช้ล้อเลียนในสถานการณ์การทำงาน ที่เวลาเลิกงานจะรีบวิ่งหายกลับบ้าน หรือ มีมโมนาลิซ่าอุ้มหมูเด้ง เป็นต้น ก่อนจะไวรัลไปทั่วโซเชียล จนศิลปินนักวาดชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ที่ได้นำหมูเด้งไปวาดเป็นแฟนอาร์ตต่างๆ ในผลงานของตัวเอง เช่น นักวาดต่างชาติท่านหนึ่ง วาดเป็นคอมิกส์เป็นสถานการณ์ที่หมูเด้งวิ่งหนีไดโนเสาร์ พร้อมหน้าตาที่เหมือนมีมที่หลายๆ คนนำมาเล่นกันในโซเชียล นั่นเอง

ความฟีเวอร์ของหมูเด้งก็รันไปถึงวงการสื่อต่างประเทศ ที่พากันทำข่าวลูกฮิปโปแคระตัวนี้ด้วยเช่นกัน ทั้ง นิตยสาร TIME , สำนักข่าว CNN , สำนักข่าว BBC , สำนักข่าว The Guardian , สำนักข่าว The Independent , The Straits Times , Forbes , People , The Economic Times ของมาเลเซีย ,

Malay Mail , The Telegraph , CNBC , KBS News ของเกาหลีใต้, สำนักข่าวญี่ปุ่น ได้ลงพื้นที่ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียวเพื่อมาทำข่าวหมูเด้งโดยเฉพาะ หมูเด้งยังไปโพล่ในขึ้นจอยักษ์มิชิแกน สนามกีฬาใหญ่สุดในอเมริกา รวมถึง F1 หรือ การแข่งรถฟอร์มูลวัน ยังทำบัตร VIP รอหมูเด้งไปเยือน ด้วย

นอกจากนั้น ยังมีสถิติว่า ข้าวขาหมู กลายเป็นอาหารที่มียอดสั่งใน Line Man พุ่งแรง 50% ภายใน 1 สัปดาห์ รวมถึงมีร้านคาเฟ่ก็นำรูปหมูเด้ง มาทำเป็นเค้กด้วยเหมือนทั้งหน้าตา และสีสันเลยทีเดียว หมูเด้งยังไปโผล่ในโซเชียลมีเดียของคนดังต่างชาติอีกด้วย เช่น หนิงหนิง ศิลปินเกาหลีวง aespa ที่ได้แชร์ภาพความน่ารักลงสตอรี่ไอจี จนแฟนๆ คอมเมนต์เชียร์ ว่ามาคอนเสิร์ตที่ไทยรอบนี้ ต้องได้แวะไปเยี่ยมหมูเด้งด้วยนะ รวมถึง B.I หรือ คิมฮันบิน อดีตหัวหน้าวง iKON บอยกรุ๊ปจากเกาหลี ที่ปัจจุบันแยกมาเป็นนักแต่งเพลงและศิลปินเดี่ยว ก็ได้พูดถึงหมูเด้งในไลฟ์ที่พูดคุยกับแฟนคลับด้วยเช่นกัน 

และด้วยความน่ารักน่าชังของหมูเด้งที่มีแก้มสีชมพูสดใส ทำให้หมูเด้งลามไปยังวงการแต่งหน้า โดยมี “Mei Pang” บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังชาวแคนาดา ได้แปลงโฉมตัวเองมาแต่งหน้าลุคส์หมูเด้งออกมาสวยเป๊ะใช้งานได้จริง และยังรันวงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น มีคนแต่งเพลงให้ ไหนจะไปโพล่เป็นสติ๊กเกอร์ไลน์ วงการสัก ที่ถ้าไม่รักไม่ชอบจริงคงไม่มีใครกล้าสักลงร่างกาย รวมถึงวอลเปเปอร์หมูเด้งที่มีคนใจดีทำแจกให้ใช้กันฟรี

ปรากฏการณ์คนเขาสวนสัตว์มากขึ้น ต่อยอดสู่สินค้าเพื่อคนรักหมูเด้ง

ด้านสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี ที่เป็นสวนสัตว์ที่หมูเด้งอยู่ ก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เห็นได้จากการที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมหมูเด้งและสัตว์อื่นๆ กันมากขึ้น ข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เผยว่าตั้งแต่วันที่หมูเด้งเกิด คือ 10 กรกฎาคม ถึง 26 กันยายน 2567 มียอดผู้เข้าชมสวนสัตว์เปิดเขาเขียว รวม 276,427 คน แบ่งเป็นเด็กจำนวน 34,100 คน ผู้ใหญ่ 155,508 คน ต่างชาติ (ผู้ใหญ่) 6,166 คน เด็ก (ต่างชาติ) 1,268 คน โครงการให้บริการให้ความรู้ 39,506 คน โครงการทัวร์สวนสัตว์ 39,281 คน และ ผู้เข้าชมสวนสัตว์ตอนกลางคืน 598 คน ส่งผลให้สวนสัตว์มีรายได้เพิ่มมากขึ้น

ทำให้สวนสัตว์ต้องปรับกลยุทธ์ดูแลหมุนเวียนนักท่องเที่ยว ให้ได้ชมหมูเด้งและสัวต์ต่างๆ กันอย่างทั่วถึง โดยจะให้เข้าชม รอบละ 3-5 นาที จำนวน 30-50 คน ต่อรอบ และมีการจำหน่ายบัตรรายปี จ่ายครั้งเดียวเที่ยวได้ครั้งละ 4 คนไม่จำกัดจำนวนครั้งในระยะเวลา 1 ปี เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวที่สวนสัตว์บ่อยๆ และทางสวนสัตว์ฯ ยังมีการแพร่ลิงก์ให้ชมน้องหมูเด้งได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทาง www.zoodio.live เพื่อเอาใจพี่เลี้ยงออนไลน์ให้ชื่นชมความน่ารักกันได้ทั้งวันทั้งคืน 

จากปรากฏการณ์หมูเด้งนี้ ก็ต่อยอดให้ทางสวนสัตว์ฯ ทำสินค้าที่เกี่ยวกับหมูเด้ง อย่าง เสื้อยืดลายน้องหมูเด้ง ที่ล็อตแรกมี 700 ตัว ราคาตัวละ 329 บาท และมียาดมสมุนไพรลายหมูเด้ง และกางเกง ก็มียอดจองเข้ามาอย่างล้นหลาม ซึ่งทางสวนสัตว์ฯ ก็กำลังดำเนินการจดเครื่องหมายการค้า และลิขสิทธิ์ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา เกี่ยวกับหมูเด้งด้วย รวมถึงมีการร่วมมือกับแบรนด์รองเท้าดังอย่าง นันยาง เปิดตัวรองเท้าช้างดาว รุ่น หมูเด้ง อิดิชั่น ที่มี 2 สีให้เลือก คือ สายสีน้ำตาล (พื้นสีชมพูอ่อนและสีน้ำตาล) และ สายสีชมพูอ่อน (พื้นสีน้ำตาลและสีชมพูอ่อน)

ทั้งนี้ก่อนหน้าที่กระแสหมูเด้งจะฟีเวอร์ขนาดนี้ ก็มี ‘หมีเนย’ มาสคอตน้องหมีจากร้าน ButterBear ที่สร้างปรากฏการณ์ห้างแตกและโกอินเตอร์ถึงขนาด GUCCI แบรนด์ระดับโลกเชิญไปร่วมงานเยี่ยมชมนิทรรศการ Gucci Visions ณ EM GLASS, G Floor, Emsphere มาแล้ว ถือเป็นที่น่าติดตามต่อว่า หมูเด้ง จะไปสุดที่ตรงไหนและมีเรื่องเซอร์ไพรส์อะไรเหล่าแฟนคลับอีกบ้าง