ผศ.ดร.ศิริเดช คำสุพรหม คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) หรือ DPU เปิดเผยว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในหลายๆประเทศที่ได้รับการยอมรับว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของโลก และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งภาครัฐ และภาคเอกชน หน่วยงานต่างๆ ได้มีการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว สำหรับการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวนั้น เราต้องยอมรับว่าอาจจะทำได้ในช่วงเวลาที่จำกัด ซึ่งไม่นานเท่ากับการเข้าศึกษาต่อในประเทศไทย ดังนั้น การจัดตั้งวิทยาลัยนานาชาติ ของ DPU ส่วนหนึ่งเพื่อส่งเสริมให้ประเทศเกิด Education and Travel ด้วย
“DPU เป็นอีกหนึ่งสถาบันการศึกษาที่พร้อมจะเป็นแรงขับเคลื่อนเพื่อการปรับเปลี่ยนสู่ธุรกิจยุคใหม่ ซึ่งมหาวิทยาลัยไทยมีศักยภาพไม่ได้ด้อยไปกว่าประเทศอื่นๆ และ DPU หวังเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเกิด Education and Travel โดยการพัฒนาหลักสูตรและสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก ควบคู่กับการดึงจุดเด่นทั้งในการท่องเที่ยว การบริการ หรือทางการแพทย์ และการศึกษา เพื่อให้นักศึกษาต่างชาติได้มาศึกษาและมาอยู่ในประเทศมากขึ้น เพราะเมื่อนักศึกษาต่างชาติได้มาใช้ชีวิตในไทยจะทำให้เกิดการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน การท่องเที่ยว และในอนาคตอาจจะทำให้เกิดการลงทุน หรือการทำธุรกิจในประเทศร่วมด้วย”ผศ.ดร.ศิริเดช กล่าว
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์มีเป้าหมายในการยกระดับให้มีความเป็นนานาชาติมากขึ้น โดยปัจจุบัน นอกจากพัฒนาหลักสูตรแล้ว ยังมุ่งเน้นสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ จากประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นต้น
ผศ.ดร.ศิริเดช กล่าวต่อไปว่า ในปีการศึกษา 2566 นี้ ซึ่งเป็นปีแรกที่จะมีการเปิดวิทยาลัยนานาชาติ โดยเบื้องต้นจะมีการเปิด 2 หลักสูตร 3 สาขา ได้แก่ 1. หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษธุรกิจ และสาขาวิชาภาษาจีนธุรกิจ 2. หลักสูตรบริหารธุรกิจ สาขาวิชาธุรกิจระหว่างประเทศ โดยตั้งเป้าเปิดรับจำนวน 100-200 คน โดยนักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาเรียน หรือนักศึกษาไทยที่สมัครเข้าเรียนในหลักสูตรนานาชาติ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ เมื่อจบการศึกษาจะได้รับปริญญา 2 ใบ โดยเรียนที่ DPU ประเทศไทย
“เศรษฐกิจของโลกมีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตในฝั่งตะวันออกเพิ่มขึ้น ดังนั้น ประเทศไทยเองก็ควรปรับตัวให้เข้ากับเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลง เมื่อก่อนคนจะไปเรียนฝั่งตะวันตกมาก แต่จะดีหรือไม่ถ้าเรากระตุ้นและส่งเสริมให้นักศึกษามาเรียนฝั่งตะวันออกเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันประเทศในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นจีน อินเดีย อินโดนีเซียล้วนแต่มีพลเมืองจำนวนมาก จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่ควรดึงดูดนักศึกษากลุ่มนี้ให้มาเรียนที่ประเทศไทย เนื่องจากประเทศของเรามีสถานที่ท่องเที่ยวและการบริการติดอันดับโลก” คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ กล่าว
นอกจากนี้ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้มีการสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศต่างๆ โดยในหลักสูตรนานาชาติของ DPU ทั้งคณาจารย์ รวมถึงการเรียนการสอนในหลักสูตร ได้รับการยอมรับมาตรฐานจากมหาวิทยาลัยทั้ง 2 ฝั่ง คือ ทั้งของDPUและมหาวิทยาลัยที่เรามีความร่วมมือกัน ฉะนั้น ในปี 2566 วิทยาลัยนานาชาติ DPU จะมีนักศึกษาต่างชาติมาเรียนเพิ่มขึ้น และไม่ใช่นักศึกษาจีนเพียงอย่างเดียว อีกทั้ง เมื่อมาเรียนที่วิทยาลัยนานาชาติแล้ว ภายหลังจบการศึกษา นักศึกษาสามารถไปทำงานในประเทศนั้นๆ ได้ อย่างเช่น ประเทศจีน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ถือเป็นมหาวิทยาลัยแรกๆ ที่รัฐบาลและมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศจีนให้การยอมรับคุณวุฒิ ปริญญา โดยมีการมอบทุนการศึกษาให้มาเรียนที่ DPU อีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจในหลักสูตรต่างๆ ของ วิทยาลัยนานาชาติ DPU สามารถติดต่อสอบถาม โทรศัพท์ 02-954-7300 หรือ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dpu.ac.th