ผศ.ดร.วิโรจน์ ลิ้มไขแสง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวว่า สภา มทร.อีสาน มีมติให้กำหนดนโยบายเรื่องการพัฒนา มทร.อีสาน สู่การเป็น Green University แบบเต็มตัวไว้ว่า ผู้บริหาร คณาจารย์ และบุคลากร ของ มทร.อีสาน ทุกคน ต้องสื่อสารให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจเรื่อง Green University พร้อมปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีในการร่วมมือกันพัฒนาระบบต่าง ๆ อันจะนำไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว เพราะหากทุกคนตระหนักในด้านการรักษ์สิ่งแวดล้อมและเข้าใจตรงกันก็จะทำให้มหาวิทยาลัยขับเคลื่อน Green Universityไปได้อย่างเป็นระบบ อาทิเช่น เรื่องของสาธารณูปโภค ภูมิทัศน์ อาคารสถานที่ และสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ในที่นี้รวมไปถึงสภาพอากาศและสภาพจิตใจของผู้อาศัยต้องดีขึ้นอย่างสอดคล้องกัน และสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้เป็นแบบอย่างแก่ชุมชนในละแวกใกล้เคียงได้ โดยสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ มทร.อีสาน ต้องไม่เป็นผู้ก่อมลพิษที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสังคม
ด้าน อาจารย์ภาณุมาศ เรืองทิพย์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองกลาง ได้เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานในการมุ่งพัฒนามหาวิทยาลัยสีเขียวตามนโยบายของท่านอธิการบดี ซึ่งในปี 2561 ซึ่งเป็นปีแรกที่ มทร.อีสาน เข้าร่วมการจัดอันดับการประเมินมหาวิทยาลัยสีเขียว ภายใต้ชื่อว่า UI Green Metric World University Ranking จัดอันดับโดย มหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย โดยมีมหาวิทยาลัยจากทั่วโลกทั้งหมด 719 แห่ง ร่วมรับการประเมิน ซึ่งในครั้งนั้น มทร.อีสาน อยู่ในอันดับที่ 26 ของประเทศไทย และอันดับที่ 529 ของโลก มีผลคะแนนรวมทั้งสิ้น 3,925 คะแนน ซึ่งนับว่าเป็นก้าวแรกของความสำเร็จ และยังเป็นแรงผลักดันในการพัฒนา มทร.อีสาน สู่มหาวิทยาลัยสีเขียวในปีนี้อีกด้วย โดยจากผลการประเมินในปีที่ผ่านมานั้น มทร.อีสาน ได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์ถึงส่วนต่าง ๆ ที่จะสามารถพัฒนาขึ้นได้ในปีนี้ และกำหนดเป้าหมายใหม่ในการทำคะแนนให้ได้มากยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าไว้ที่ 4,000 คะแนน ทั้งนี้ผลปรากฎว่า ในปี 2562 จากการจัดอันดับข้างต้น มทร.อีสาน สามารถพัฒนามหาวิทยาลัยให้ดีขึ้นเกินกว่าปี 2561 ถึง 450 คะแนน อีกทั้งยังทะลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ถึง 375 คะแนน โดยทำคะแนนไปได้ทั้งสิ้น 4,375 คะแนน มีผลการจัดอันดับโลกอยู่ที่ 506 จากทั้งหมด 780 แห่ง และติดอันดับที่ 29 ของประเทศ เมื่อสังเกตจากภาพรวมของอับดับโลกก็แสดงให้เห็นได้ว่า มทร.อีสาน มีการพัฒนาก้าวหน้าไปมากด้วยเช่นกัน โดยกระโดดขึ้นมาถึง 23 อันดับ ซึ่งผลดังกล่าวออกมาอยู่ในอันดับที่น่าพอใจ และสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาว มทร.อีสาน ได้ไม่น้อย โดย มทร.อีสาน ยังมีเป้าหมายที่จะพัฒนามหาวิทยาลัยให้เป็น Green University ได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นต่อไป พร้อมเป็นศูนย์กลางให้คำปรึกษาและแนะนำแก่ชุมชนในการนำความรู้ไปปรับใช้เพื่อพัฒนาพื้นที่สีเขียวของตนเองด้วยครับ