คนเป็นภูมิแพ้ต้องระวัง!! อาจเป็น “โรคริดสีดวงจมูก”
ในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ร่างกายอาจอ่อนแอป่วยเป็นหวัด มีอาการจาม คัดแน่นจมูก ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีความผิดปกติใดๆ แต่หากมีอาการหวัดเรื้อรังเป็นๆหายๆ บ่อยครั้ง อีกทั้งยังมีอาการของไซนัสอักเสบร่วมด้วยอย่านิ่งนอนใจเพราะอาจจะเผชิญกับ โรคริดสีดวงจมู
- May 30 2022
- 141
- 6081 Views
ในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ร่างกายอาจอ่อนแอป่วยเป็นหวัด มีอาการจาม คัดแน่นจมูก ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีความผิดปกติใดๆ แต่หากมีอาการหวัดเรื้อรังเป็นๆหายๆ บ่อยครั้ง อีกทั้งยังมีอาการของไซนัสอักเสบร่วมด้วยอย่านิ่งนอนใจเพราะอาจจะเผชิญกับ โรคริดสีดวงจมูก
ริดสีดวงจมูก (Nasal Polyps) เกิดจากการที่เยื่อบุจมูกอักเสบ บวมขึ้นเรื่อยๆ มีน้ำคั่ง กลายเป็นก้อนในจมูก เหตุผลที่เรียกริดสีดวงจมูกเนื่องจากมีลักษณะเป็นก้อนคล้ายริดสีดวงทวารที่ยื่นออกมาในจมูก อาจมีเพียงก้อนเดียวหรือหลายก้อน เป็นผลมาจากการอักเสบเรื้อรังจากโรคหอบหืด ภูมิแพ้ หรือความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน อาจไม่ทำให้เกิดอาการ แต่หากก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ จะทำให้ผู้ป่วยหายใจลำบาก มีปัญหาในการดมกลิ่น หรือเกิดการติดเชื้อได้ง่าย
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคริดสีดวงจมูก
โรคภูมิแพ้ ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่อาจทำให้เกิดโรคริดสีดวงจมูก ซึ่งมีการอักเสบของเยื่อบุจมูกเรื้อรังเป็นระยะเวลานาน เมื่อมีการอักเสบนานๆ เยื่อบุจมูกจะมีการบวมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในคนที่ไม่รักษาหรือรักษาไม่ถูกต้อง ปล่อยให้มีการอักเสบซ้ำๆ เยื่อบุจมูกก็จะบวมออกมากลายเป็นริดสีดวงจมูก ทั้งนี้การอักเสบเรื้อรังจะมี 2 แบบด้วยกัน คือ เยื่อบุอักเสบจากภูมิแพ้ และเยื้อบุอักเสบชนิดไม่แพ้ ทั้ง 2 อย่างทำให้เกิดริดสีดวงจมูกได้ทั้งนั้น หรือในคนไข้ที่เป็น ไซนัสอักเสบเรื้อรังนาน ๆ เยื่อบุของไซนัสก็จะบวมออกมากลายเป็นริดสีดวงได้ แต่เราจะไม่เรียกริดสีดวงไซนัส
อาการของคนที่เป็นริดสีดวงจมูก
ถ้าขนาดไม่โตมากคนไข้อาจจะไม่มีอาการอะไร แต่ถ้าเยื่อบุจมูกบวมมาก ๆ อากาศผ่านจมูกไม่ได้ คนไข้จะมีอาการคัดแน่นจมูก นอกจากนี้จมูกยังมีหน้าที่รับกลิ่น เมื่อไหร่ก็ตามอากาศไม่สามารถเข้าไปในจมูกถึงเซลล์ประสาทรับกลิ่นได้ก็จะทาให้คนไข้มีปัญหาเรื่องการรับกลิ่นเสียไป หรือไม่ได้กลิ่น อย่างที่บอกริดสีดวงจมูกจะเกิดร่วมกับโรคภูมิแพ้และการอักเสบเรื้อรัง นอกจากอาการคัดจมูกแล้ว คนไข้อาจจะมีอาการคัน จาม น้ำมูกไหล ร่วมด้วย หรือถ้าริดสีดวงจมูกไปอุดรูเปิดของไซนัสที่เปิดเข้ามาในโพรงจมูก คนไข้อาจจะมีไซนัสอักเสบร่วมด้วย
จากอาการที่กล่าวมานั้นหากพบว่าตนเองมีอาการร่วมเป็นเวลาตั้งแต่ 10 วันขึ้นไป หรือมีอาการที่รุนแรงมากขึ้น ได้แก่ มีปัญหาด้านการมองเห็นอย่างรุนแรงขยับดวงตาไม่ค่อยได้ หรือมองภาพได้ไม่ชัด รวมไปถึงอาการด้านอื่น ๆ เช่น อาการปวดศีรษะรุนแรงกว่าปกติ หากใครพบว่าตนเองมีอาการเหล่านี้ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยหาก้อนเนื้อในโพรงจมูก ดังนี้
- การใช้กล้องส่อง
- การตรวจด้วยเครื่อง CT Scan
- การทดสอบอาการภูมิแพ้ทางผิวหนัง
- การตรวจเลือดคัดกรองภูมิต้านทาน
วิธีการรักษา
จะขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ ในส่วนของผู้ป่วยเองควรหมั่นสังเกตุตัวเอง อันดับแรกต้องรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ริดสีดวงจมูกโตมากขึ้น ผู้ป่วยจะได้หลีกเลี่ยง เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้อีก ส่วนการรักษาริดสีดวงจมูกทำได้ 2 วิธีคือ เริ่มต้นจากการรักษาโดยใช้ยา หากอาการไม่ดีขึ้นแพทย์จะรักษาด้วยวิธีผ่าตัด โดยมีรายละเอียดดังนี้
การให้ยา ยาหลักในการรักษาที่สำคัญ คือ ยา สเตียรอยด์ มีทั้งชนิดกินและชนิดฉีดพ่นเข้าไปในจมูก ทาให้ริดสีดวงจมูกยุบและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ แต่ยาสเตียรอยด์ชนิดรับประทานใช้นานไม่ได้ จะ ใช้ได้ช่วงสั้นๆ เท่านั้น เพราะฉะนั้นยาหลักในการ รักษาระยะยาวคือยาสเตียรอยด์ชนิดพ่น ซึ่งปลอดภัยกว่า และสามารถพ่นได้นานหลายเดือน หรือหลายปี
การผ่าตัด จะใช้ในกรณีที่ให้ยาเต็มที่แล้วไม่ดีขึ้น ยังมีอาการคัดแน่นจมูก ไม่ได้กลิ่นหรือให้ยา เต็มที่แล้วดีขึ้น แต่ลดยาไม่ได้ พอลดยาลงคนไข้กลับมามีอาการเหมือนเดิม ในกรณีนี้แพทย์จะพิจารณา การผ่าตัดให้กับคนไข้
การดูแลและป้องกันริดสีดวงจมูก
ในการป้องกันริดสีดวงจมูก ทำได้โดยการลดโอกาสเสี่ยงที่จะนำไปสู่การเกิดริดสีดวงจมูกหรือลดการเกิดซ้ำหลังการรักษา โดยมีแนวทางดังนี้
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดในการรักษาโรคภูมิแพ้ และโรคหอบหืด
- ให้ความสำคัญกับการล้างจมูกโดยใช้น้ำเกลือ เพื่อชะล้างสารก่อภูมิแพ้ และลดการระคายเคืองของจมูก
- หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หรือการอักเสบของโพรงจมูก เช่น สารก่อภูมิแพ้ ควันบุหรี่ หรือฝุ่นละออง
- ดูแลเรื่องสุขอนามัย เช่น ล้างมือให้สะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย
จมูกเป็นอวัยวะสำคัญที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย การหายใจเข้าอาจนำเชื้อโรคจากในอากาศเข้าไปด้วย ดังนั้นหลังการรักษาผู้ป่วยควรปฏิบัติตนตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด เมื่อรักษาหายแล้วควรหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นภูมิแพ้ทำให้เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ จนโรคริดสีดวงจมูกกลับมาเกิดซ้ำได้อีก
------------------------------------------------------
บทความโดย : นพ.ปวีณ เพชรรักษ์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านหู คอ จมูก โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC)
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : ศูนย์โสต-ศอ-นาสิก เฉพาะทาง ชั้น 3 โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล
โทร 02-836-9999 ต่อ 3921-2