ต่างประเทศ
อิสราเอลยืนยันจะไม่ร่วมมือกับหน่วยงานผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ยูเอ็น
กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลยืนยันในวันจันทร์ว่า รัฐบาลเทลอาวีฟได้แจ้งต่อองค์การสหประชาชาติอย่างเป็นทางการแล้วว่า จะไม่ทำงานร่วมมือกับาสำนักงานผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ของยูเอ็น ทันทีที่กฎหมายใหม่เกี่ยวกับเรื่องนี้มีผลบังคับใช้ในต้นปีหน้า คำยืนยันจากอิ
กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลยืนยันในวันจันทร์ว่า รัฐบาลเทลอาวีฟได้แจ้งต่อองค์การสหประชาชาติอย่างเป็นทางการแล้วว่า จะไม่ทำงานร่วมมือกับาสำนักงานผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ของยูเอ็น ทันทีที่กฎหมายใหม่เกี่ยวกับเรื่องนี้มีผลบังคับใช้ในต้นปีหน้า
คำยืนยันจากอิสราเอลมีออกมาหลังรัฐสภาอนุมัติร่างกฎหมายใหม่ที่มีเนื้อหาตัดสายสัมพันธ์กับสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) และสั่งห้ามไม่ให้หน่วยงานนี้เข้ามาปฏิบัติงานในอิสราเอลอีก
แดนนี ดานอน ทูตอิสราเอลประจำยูเอ็น ระบุในแถลงการณ์ว่า “แม้จะมีหลักฐานอยู่มากมายที่เรานำส่งให้กับยูเอ็นที่ยืนยันให้เห็นว่า กลุ่มฮามาสเข้าแทรกซึมเข้าไปใน UNRWA แล้ว ยูเอ็นกลับไม่ทำอะไรเพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้เลย”
อิสราเอลกล่าวหาหน่วยงานนี้ของยูเอ็นมานานแล้วว่า ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนร่วมกับการโจมตีตนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมของปีที่แล้วซึ่งเป็นจุดกำเนิดของสงครามครั้งนี้
แต่ ฟิลิปเป ลาซซารินี หัวหน้า UNRWA กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ทางหน่วยงานยังไม่ได้รับคำตอบสำหรับคำร้องที่ส่งไปหลายครั้งให้กับอิสราเอลเพื่อขอให้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาเพิ่ม
ลาซซารินี กล่าวว่า “UNRWA จึงอยู่ในสถานะที่มีปัญหาและไม่สามารถตอบประเด็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐานได้ ขณะที่ คำกล่าวหาเหล่านี้ยังคงถูกนำมาใช้เพื่อบ่อนทำลายหน่วยงานแห่งนี้ต่อไป”
UNRWA เป็นผู้จัดส่งความช่วยเหลือหลักให้กับชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่าที่ถูกอิสราเอลถล่มโต้ตอบสำหรับการโจมตีของฮามาสเมื่อปีก่อน จนทำให้หลายพื้นที่ของเขตปกครองนี้เสียหายยับเยินและราว 90% ของประชากรจำนวน 2.3 ล้านคนต้องกลายมาเป็นผู้พลัดถิ่น
การที่ฮามาสโจมตีอิสราเอลซึ่งไม่ทันตั้งตัวเมื่อเกือบ 13 เดือนที่แล้วทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คนและมีการจับตัวประกันกลับไปยังกาซ่ากว่า 250 คน ก่อนที่อิสราเอลจะโจมตีโต้กลับตั้งแต่นั้นมา และหน่วยงานสาธารณสุขกาซ่ารายงานว่า มีชาวปาเลสไตน์กว่า 42,400 คนเสียชีวิตไปแล้ว โดยกว่าครึ่งเป็นเด็กและสตรี
ยอดผู้เสียชีวิตเลบานอนทะลุ 3,000 คน
สงครามในตะวันออกกลางทีดำเนินมาเกือบ 13 เดือนระหว่างอิสราเอลและกลุ่มเฮซบอลลาห์ที่ประกาศร่วมรบเพื่อยืนเคียงข้างกลุ่มฮามาส ส่งผลให้มีผู้คนในเลบานอนเสียชีวิตไปแล้วกว่า 3,000 คน ตามการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุขเลบานอนในวันจันทร์ โดยตัวเลขนี้สูงกว่ายอดผู้เสียชีวิตในสงครามครั้งใหญ่ครั้งก่อนเมื่อราว 2 ทศวรรษก่อนกว่าเท่าตัว
ยังไม่มีสัญญาณว่า สงครามนี้จะจบลงเมื่อใด และอิสราเอลกล่าวไว้ว่า จะดำเนินปฏิบัติการใหม่ ๆ เพื่อจัดการกับโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มเฮซบอลลาห์ในฝั่งเลบานอนและในพื้นที่บางส่วนของซีเรียต่อไป ขณะที่ เฮซบอลลาห์ยังเดินหน้าทำการยิงจรวดเข้าใส่ทางเหนือของอิสราเอลต่อไป
กลุ่มติดอาวุธนี้เริ่มยิงจรวดใส่อิสราเอลหลังฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อ 7 ตุลาคมของปีที่แล้ว โดยทั้งสองกลุ่มนี้ต่างเป็นพันธมิตรกับอิหร่าน
ในช่วงเกือบปีแรกของสงคราม การสู้รบนั้นเกิดขึ้นเพียงที่บริเวณชายแดนอิสราเอล-เลบานอนเป็นหลัก จนกระทั่งสถานการณ์เริ่มยกระดับรุนแรงขึ้นในวันที่ 23 กันยายน เมื่ออิสราเอลทำการโจมตีทางอากาศเข้าใส่ทางตะวันออกของเลบานอนและทางใต้ของกรุงเบรุตซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน และประชาชนเกือบ 1.2 ล้านคนต้องกลายมาเป็นผู้พลัดถิ่น
ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์