ต่างประเทศ
สหรัฐฯ กังวลกระแสโจมตีระลอกใหม่จากผู้ฝักใฝ่รัฐอิสลาม
หน่วยงานรักษากฎหมายและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงสหรัฐฯ กังวลมาสักพักแล้วว่า จะมีผู้ฝักใฝ่กลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (Islamic State – IS) จะเริ่มทำการโจมตีร้ายแรง ก่อนเกิดเหตุสะเทือนขวัญที่คนร้ายขับรถพุ่งใส่ฝูงชนและกราดยิงจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย
หน่วยงานรักษากฎหมายและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงสหรัฐฯ กังวลมาสักพักแล้วว่า จะมีผู้ฝักใฝ่กลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (Islamic State – IS) จะเริ่มทำการโจมตีร้ายแรง ก่อนเกิดเหตุสะเทือนขวัญที่คนร้ายขับรถพุ่งใส่ฝูงชนและกราดยิงจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 รายในนิวออร์ลีนส์ เมื่อรุ่งสางของวันขึ้นปีใหม่
สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) ยืนยันในรายงานเมื่อวันพุธว่า แชมซัด-ดิน จับบาร์ ผู้ก่อเหตุที่เป็นพลเมืองอเมริกันจากรัฐเท็กซัส มีธงของกลุ่ม IS ในรถกระบะที่ใช้โจมตีครั้งนี้
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวในช่วงค่ำของวันพุธด้วยว่า FBI ตรวจพบว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้ที่ถูกวิสามัญฆาตกรรมระหว่างยิงปะทะกับตำรวจ ได้ดำเนินการบางอย่าง “ไม่กี่ชั่วโมงก่อนก่อเหตุ(ที่นิวออร์ลีนส์)” เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อกลุ่มก่อการร้ายนี้ด้วย
ไบเดนเปิดเผยว่า จับบาร์ซึ่งเคยทำงานในกองทัพสหรัฐฯ เป็นเวลาหลายปี “โพสต์คลิปวิดีโอทางสื่อสังคมออนไลน์ที่บ่งชี้ว่า (การกระทำของเขา)ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกลุ่มไอซิส” และว่า “สถานการณ์นั้นยังไม่นิ่งอย่างมาก ... หน่วยงานรักษากฎหมายและฝ่ายข่าวกรองยังคงเดินหน้าสืบหาผู้ที่อาจเกี่ยวข้อง ผู้ร่วมกระบวนการหรือผู้สมรมรู้ร่วมคิดคนอื่น ๆ อยู่”
การสืบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้ได้ขยายวงไปถึงการออกหมายจับสถานที่หลายแห่งในนิวออร์ลีนส์และรัฐอื่น ๆ และปฏิบัติการร่วมระหว่าง FBI และหน่วยงานรักษากฎหมายต่าง ๆ ที่สี่แยกแห่งหนึ่งในนครฮิวสตัน รัฐเท็กซัส รวมทั้งมีการสอบสวนว่า การโจมตีที่นิวออร์ลีนส์นั้นเกี่ยวกับข้องเหตุการณ์รถไซเบอร์ทรัคระเบิดที่หน้าโรงแรมทรัมป์ในลาสเวกัสในคืนวันพุธด้วยหรือไม่
รายงานข่าวระบุว่า ผลการสืบสวนเหตุการณ์โจมตีที่นิวออร์ลีนส์ในเบื้องต้นสอดคล้องกับข้อมูลวิธีการก่อเหตุที่ผู้ฝักใฝ่กลุ่ม IS มักใช้มาโดยตลอด
แอรอน เซลิน จากสถาบัน Washington Institute for Near East Policy ผู้เชี่ยวชาญด้านลัทธิจิฮัด กล่าวว่า รูปแบบการก่อเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเหมือนกับวิธีที่กลุ่มรัฐอิสลามดำเนินการมาสักพักหนึ่งแล้วซึ่งก็คือ การขับรถพุ่งเข้าใส่ฝูงชนนั่นเอง
เซลินบอกกับวีโอเอด้วยว่า “ทุกวัน พวกนั้นจะออกมาผลักดันให้กลุ่มผู้สนับสนุนหรือผู้อาจต้องการเข้าเป็นสมาชิก หรือใครสักคนทำการบางอย่างในนามตน”
เหตุการณ์โจมตีรุนแรงครั้งแรกที่ใช้รถเป็นอาวุธในที่สาธารณะซึ่งเจ้าหน้าที่สรุปว่า มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม IS เกิดขึ้นที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ในปี 2016 เมื่อชายชาวฝรั่งเศสเชื้อสายตูนิเซียวัย 31 ปีรายหนึ่งที่เพิ่งหย่าร้างกับภรรยาและมีอาการป่วยด้วยโรคซึมเศร้าขับรถพุ่งเข้าใส่ประชาชนที่กำลังร่วมงานฉลองวันรำลึกการทลายคุกบัสตีย์ (Bastille) ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 80 คน
ไม่กี่เดือนต่อมา ชายชาวตูนิเซียวัย 24 ปีขับรถบรรทุกพุ่งใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาสในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 คน โดยเขาได้โพสต์คลิปวิดีโอประกาศความจงรักภักดีของตนต่อกลุ่ม IS ก่อนก่อเหตุด้วย
นอกจากนั้น กลุ่ม IS ยังออกมาประกาศความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์รถบรรทุกพุ่งใส่ประชาชนในนิวยอร์กเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2017 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คนด้วย
แม้กลุ่ม IS จะถูกกดดันจากมาตรการต่อต้านการก่อการร้ายอย่างหนักจนต้องล่าถอยออกจากการดำเนินการต่าง ๆ ในพื้นที่เดิม ๆ เช่น ซีเรียและอัฟกานิสถาน ผู้นำกลุ่มนี้ยังคงเดินหน้าผลักดันสมาชิกและผู้ฝักใฝ่ให้ก่อเหตุรุนแรงตามจุดต่าง ๆ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ระบุไว้ในเอกสารการประเมินภัยคุกคามด้านความมั่นคงล่าสุดเมื่อเดือนกันยายนของปีที่แล้ว ให้ระวังกลุ่ม IS รวมทั้งกลุ่มก่อการร้ายอื่น ๆ เช่น อัลเคดา ที่ “ยังคงมีความตั้งใจที่จะก่อเหตุหรือจูงใจให้มีการโจมตี(ภายในสหรัฐฯ)” พร้อมประกาศการเตือนภัยคุกคามด้านความมั่นคงในสหรัฐฯ ไว้ที่ระดับ “สูง” ด้วย
ผู้อำนวยการ FBI คริสโตเฟอร์ เรย์ เป็นอีกคนที่ออกมากล่าวอย่างต่อเนื่องว่า จำนวนคดีเกี่ยวกับการก่อการร้ายในสหรัฐฯ ที่ทางสำนักงานดูแลมีอยู่มากมาย โดยในแต่ละปี มีการสืบสวนคดีที่เชื่อว่าเชื่อมโยงกับกลุ่ม IS ถึงราว 1,000 คดีในพื้นที่ 50 รัฐของประเทศ
ข้อมูลที่รวบรวมโดย ซีมัส ฮิวส์ นักวิจัยอาวุโสจาก National Counterterrorism Innovation, Technology and Education Center (NCITE) ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา มีการดำเนินคดีกับบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่า ดำเนินกิจกรรมอันเกี่ยวเนื่องกับกลุ่ม IS แล้วถึงกว่า 250 คน โดยส่วนใหญ่จบลงด้วยการรับสารภาพผิดหรือไม่ก็ถูกตัดสินว่ามีความผิด
ฮิวส์บอกว่า มีเพียงคดีเดียวเท่านั้นที่อัยการของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แพ้คดีเมื่อเข้าสู่ชั้นศาล
ในกรณีนี้ของเหตุการณ์ที่นิวออร์ลีนส์นั้น กลุ่ม IS ยังไม่ได้ออกมาประกาศความรับผิดชอบใด ๆ แต่ แอรอน เซลิน จากสถาบัน Washington Institute for Near East Policy เชื่อว่า การก่อเหตุนี้ได้ปั่นกระแสตื่นตัวอย่างมากในกลุ่มผู้สนับสนุนองค์กรก่อการร้ายนี้ผ่านสื่อสังคมออนไลน์แล้ว
ที่มา: วีโอเอ