สหรัฐฯ เตรียมมอบความช่วยเหลือด้านอาวุธและยุทโธปกรณ์มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์เพิ่มเติมให้กับยูเครน ก่อนประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะหมดวาระผู้นำประเทศในเร็ว ๆ นี้ แหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ไม่ขอเปิดเผยตัวบอกกับ วีโอเอ ว่า การประกาศมอบความช่วยเหลือล่าสุดอย่างเป็นทางการน่าจะเกิดขึ้นที่ การประชุมกลุ่ม Ukraine Defense Contact Group ที่ฐานทัพอากาศแรมสไตน์ ประเทศเยอรมนี ซึ่ง ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพครั้งสุดท้ายก่อนก้าวลงจากตำแหน่ง ในการประชุมดังกล่าว ออสติน ระบุว่า จุดมุ่งหมายของกลุ่มก็คือ “การรักษาแรงขับเคลื่อน ผลักดันให้เกิดสัมฤทธิ์ผล และส่งข้อความอันชัดเจนว่า ‘ประชาคมโลกจะยืนหยัดแน่วแน่ในการสนับสนุนยูเครน’” ครั้งนี้ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ได้เข้าร่วมการประชุมครั้งที่ 25 ของกลุ่มที่มีสมาชิกจาก 50 ชาติภายใต้การนำของออสตินเพื่อประสานความช่วยเหลือด้านความมั่นคงให้กับยูเครน หลังรัสเซียเปิดฉากรุกรานประเทศเพื่อนบ้านนี้อย่างเต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 เมื่อวันพุธ ซาบินา ซิงห์ รองโฆษกเพนตากอน กล่าวว่า ยูเครนยังคงเอาตัวรอดอยู่ได้ ด้วยแรงสนับสนุนจากสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรอื่น ๆ ผ่านกลุ่ม Ukraine Defense Contact Group ที่มีความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อจุดประสงค์ร่วมเดียวกันซึ่งก็คือการช่วยให้ยูเครนผ่านพ้นภัยสงครามที่ดำเนินมาเกือบ 3 ปีนี้ อย่างไรก็ดี จุดประสงค์ร่วมที่ว่าก็กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนที่รออยู่ เมื่อว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่เคยจะยืนยันชี้ชัดว่า จะคงไว้ซึ่งความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในกลุ่มดังกล่าวเพื่อช่วยยูเครนต่อไปหรือไม่ หลังปธน.ไบเดน ก้าวลงจากตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้ ขณะที่ เจ้าหน้าที่รัฐบาลชุดปัจจุบันและนักวิเคราะห์ด้านการทหารออกมาเตือนว่า ความไม่แน่นอนนี้อาจหมายถึงความพินาศสำหรับกรุงเคียฟ แบรดลีย์ บาวแมน ผู้อำนวยการอาวุโสของ Center on Military and Political Power ที่ Foundation for Defense of Democracies กล่าวว่า ทรัมป์ไม่น่าจะอยากให้ประเด็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมเป็นหนึ่งใน “ประวัติการทำงานของตน” หลังออกมาวิพากษ์วิจารณ์กรณีการรับมือสถานการณ์ในอัฟกานิสถานของรัฐบาลไบเดนอย่างหนักมาตลอด บาวแมนกล่าวว่า “ถ้าเกิดมีการตัดลงอย่างหนักหรือยุติการสนับสนุนของสหรัฐฯ สำหรับยูเครน ก็อาจะเกิดหายนะครั้งใหญ่ในยูเครนได้” ในเวลานี้ ยังมีงบประมาณมูลค่า 3,800 ล้านดอลลาร์ในงบรวมที่รัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติเพื่อช่วยยูเครนและสภาคองเกรสผ่านเป็นกฎหมายมาตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายนที่แล้วเหลืออยู่ แต่เพนตากอนกล่าวว่า ยังไม่สามารถส่งความช่วยเหลือใด ๆ เพื่อไปได้ในช่วงนี้ เพราะต้องการงบเพิ่มจากคองเกรสเพื่อใช้เสริมคลังอาวุธของประเทศก่อน แม้นักวิเคราะห์ทั้งหลายจะมองว่า การจัดตั้งกลุ่ม Ukraine Defense Contact Group คือ ผลงานเด่นชิ้นหนึ่งของออสติน ปัญหาความล่าช้าในการจัดหางบจากคองเกรสและเรื่องการใช้เวลาถกภายในรัฐบาลไบเดนว่าจะส่งอาวุธอะไรให้กรุงเคียฟได้บ้าง กลายมาเป็นประเด็นที่ทำให้ความสามารถในการสู้รบของยูเครนมีปัญหา บาวแมนยกตัวอย่างว่า มีอยู่หลายครั้งที่ยูเครนของอาวุธบางประเภทจากสหรัฐฯ และรัฐบาลไบเดนจะตอบว่า “ไม่ได้” แล้วค่อยบอกว่า “ไม่แน่” ก่อนจะตอบยืนยันว่า “ได้” ซึ่งช่วงเวลาที่มีการขบคิดนานเช่นนั้น เป็นโอกาสที่รัสเซียสามารถรุกคืบเข้ามาในยูเครนได้ ทำให้ชาวยูเครนต้องเสียชีวิตลงมากมาย ซึ่งพิสูจน์ว่า “ความล่าช้านี้มาพร้อมต้นทุนราคาสูงมาก” นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกเข้ามาในยูเครน กลุ่มทำงานที่ประกอบด้วยสมาชิก 50 ชาตินี้ได้นำส่งความช่วยเหลือทางทหารให้ยูเครนไปแล้วเป็นมูลค่ากว่า 126,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ สหรัฐฯ เองให้ความช่วยเหลือไปแล้วราว 66,000 ล้านดอลลาร์ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบันหวังว่า ความช่วยเหลือชุดล่าสุด ร่วมกับส่วนที่กลุ่ม Ukraine Defense Contact Group สัญญาว่าจะให้ น่าจะช่วยให้กรุงเคียฟมีสรรพกำลังแข็งแกร่งพอจะต่อรองกับกรุงมอสโกได้มากขึ้น โดยบอกกับผู้สื่อข่าวว่า อย่างน้อย 80% ของอาวุธและยุทโธปกรณ์ที่สหรัฐฯ สัญญาจะมอบให้ยูเครนจะไปถึงมือกองทัพกรุงเคียฟก่อนไบเดนก้าวลงจากตำแหน่ง       ที่มา: วีโอเอ