logologo

Easy Branches ให้คุณแบ่งปันโพสต์แขกของคุณภายในเครือข่ายของเราในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อเข้าถึงลูกค้าทั่วโลก เริ่มแบ่งปันเรื่องราวของคุณวันนี้!

Easy Branches

34/17 Moo 3 Chao fah west Road, Phuket, Thailand, Phuket

Call: 076 367 766

info@easybranches.com
ไอที

รีวิว Redmi Note 14 Pro+ 5G กล้อง 200MP พร้อม AI อัจฉริยะ ภาพสวยคมชัดทุกสภาวะ

Redmi Note 14 Pro+ 5G เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นท็อปสุดในซีรีส์ Redmi Note 14 ที่มาพร้อมกับสเปคและฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย The post รีวิว Redmi Note 14 Pro+ 5G กล้อง 200MP พร้อม AI อัจฉริยะ ภาพสวยคมชัดทุกสภาวะ appeared first on .

โดย: whatphone.net

  • Jan 11 2025
  • 0
  • 5305 Views
รีวิว Redmi Note 14 Pro+ 5G กล้อง 200MP พร้อม AI อัจฉริยะ ภาพสวยคมชัดทุกสภาวะ
รีวิว Redmi Note 14 Pro+ 5G กล

Redmi Note 14 Pro+ 5G เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นท็อปสุดในซีรีส์ Redmi Note 14 ที่มาพร้อมกับสเปคและฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย โดยเน้นไปที่ประสิทธิภาพที่ทรงพลัง ดีไซน์ที่สวยงาม และกล้องถ่ายภาพคุณภาพสูง ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าคุ้มราคา แต่จะมีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้างนั้น เรามาแกะกล่องดูกันเลย

Redmi Note 14 Pro+

แกะกล่องลองเล่น Redmi Note 14 Pro+ 5G

เมื่อเปิดกล่องผลิตภัณฑ์ สิ่งแรกที่สังเกตเห็นคือตัวเครื่องถูกห่อหุ้มด้วยพลาสติกป้องกัน มีการระบุคุณสมบัติหลักที่โดดเด่น ประกอบด้วยระบบกล้อง Pro-grade AI อัจฉริยะความละเอียด 200 ล้านพิกเซล หน้าจอความละเอียด 1.5K ที่รองรับอัตรารีเฟรช 120Hz พร้อมเทคโนโลยีถนอมสายตา, กระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass Victus 2 ขับเคลื่อนด้วยชิป Snapdragon 7s Gen 3 มาพร้อมระบบชาร์จเร็ว HyperCharge กำลังไฟ 120W และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5110 mAh ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีมาให้ก็มีดังนี้

  • Redmi Note 14 Pro+ 5G สี Lavender Purple
  • อแดปเตอร์ HyperCharge 120W 
  • สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-A to USB-C
  • เคสซิลิโคน
  • ฟิล์มกันรอยแบบติดมาจากโรงงาน
  • คู่มือการใช้งาน+ใบรับประกัน
  • เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด

Redmi Note 14 Pro+

อุปกรณ์ในกล่องกล่องก็มีมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเคสซิลิโคน ฟิล์มกันรอยที่ติดมาพร้อมจากโรงงาน อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ TurboCharge 67 วัตต์ก็มีมาให้ครบ แกะกล่องออกมาก็สามารถใช้งานได้ทันที ไม่ต้องหาซื้ออุปกรณ์กันรอยเพิ่มเติมเหมือนบางแบรนด์ที่เริ่มติดอแดปเตอร์ออกจากกล่องแล้ว

Redmi Note 14 Pro+ 5G สี Lavender Purple ดีไซน์พรีเมี่ยม บางเฉียบเพียง 8.85 มม.

Redmi Note 14 Pro+ 5G มาพร้อมการออกแบบที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความหรูหรา โทรศัพท์รุ่นที่นำมารีวิวนี้เป็นสี Lavender Purple ที่มีเอกลักษณ์ด้วยโทนสีม่วงอ่อนสบายตา วัสดุที่ใช้เป็นหนังวีแกนประดับด้วยตะเข็บคู่เป็นแนวยาว ให้สัมผัสที่นุ่มนวลเมื่อถืออยู่ในมือ ข้อดีของวัสดุนี้คือไม่เก็บรอยนิ้วมือและไม่เป็นรอยขีดข่วนได้ง่ายเหมือนรุ่นที่ใช้วัสดุกระจก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสีอื่น ยังมีให้เลือกอีก 2 สี ได้แก่ Midnight Black และ Frost Blue ให้เลือกอีกด้วย

Redmi Note 14 Pro+

Redmi Note 14 Pro+

กระจกหน้าจอถูกอัพเกรดวัสดุปกป้องด้วย Corning Gorilla Glass Victus 2 ซึ่งเป็นกระจกนิรภัยระดับพรีเมียมที่มีคุณสมบัติทนทานต่อการขีดข่วนและการกระแทก ตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ให้ความละเอียดระดับ 1.5K (2712 x 1220 พิกเซล) รองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision และอัตรารีเฟรชที่ 120 Hz พร้อมความสว่างสูงสุดถึง 3000 nits ให้ความลึกสีแบบ 12-bit และอัตราความคมชัด 5,000,000:1 

หน้าจอยังมาพร้อมเทคโนโลยี PWM dimming ความถี่ 1920Hz รองรับ HDR10+ และได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ทั้งด้านแสงสีฟ้าต่ำ (Low Blue Light) การปรับแสงตามเวลา (Circadian Friendly) และการลดการกะพริบของหน้าจอ (Flicker Free) ส่วนบนของหน้าจอถูกออกแบบแบบ DotDisplay ที่มีกล้องหน้า ลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ ซ่อนอยู่อย่างลงตัว ขณะที่ด้านล่างของจอแสดงผลได้ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้จอ

Redmi Note 14 Pro+

Redmi Note 14 Pro+

ด้านหลังตัวเครื่องสี Lavender Purple มาพร้อมดีไซน์เรียบหรู โดดเด่นด้วยชุดกล้องที่ได้รับการออกแบบใหม่ วางตำแหน่งไว้ตรงกลางทำให้ดูสมมาตรขึ้น ประกอบด้วยกล้องหลัก 3 เลนส์และไฟแฟลช LED แม้ว่าโมดูลกล้องจะมีความนูนจากตัวเครื่องค่อนข้างมาก แต่ก็มาพร้อมเคสซิลิโคนในกล่องที่ช่วยปกป้องได้เป็นอย่างดี

Redmi Note 14 Pro+

Redmi Note 14 Pro+

ด้านข้างของตัวเครื่องได้รับการออกแบบให้มีขอบโค้งมนด้วยความบางเพียง 8.85 มิลลิเมตร ทำให้จับถนัดมือ โดยด้านซ้ายถูกออกแบบให้เรียบเกลี้ยงไม่มีปุ่มกดใดๆ ขณะที่ด้านขวามีการจัดวางปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเปิด/ปิดเครื่องอย่างเป็นระเบียบ

ที่ด้านบนมีติดตั้งอุปกรณ์ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นช่องไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา ถัดมาเป็นลำโพงแยกซ้ายขวาที่ทำงานร่วมกับลำโพงที่อยู่ด้านล่าง และสุดท้ายกับพอร์ตอินฟราเรด หรือ IR Blaster ที่หาได้ยากในสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ โดยการทำงานจะใช้ร่วมกับแอพฯ Mi Remote ที่ติดตั้งมาพร้อมในเครื่อง 

ที่ด้านล่างของตัวเครื่องไล่จากด้านซ้ายมีช่องใส่ถาดซิมการ์ด 2 ซิม เป็นแบบประกบด้านบน และด้านล่าง ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ หรือหากไม่สะดวกที่จะใช้ซิมการ์ด ก็สามารถใช้ eSIM ก็ได้เช่นกัน ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟนรับเสียงสนทนา, ช่องเสียบสายชาร์จแบบ USB-C และลำโพงสปีกเกอร์โฟน เมื่อวางในแนวนอนฟังเพลง หรือชมภาพยนตร์ก็จะให้มิติเสียงแยกซ้ายขวาได้อย่างชัดเจน

กล้อง AI คมชัดระดับมืออาชีพ ความละเอียดสูงสด 200MP

กล้องหลักของ Redmi Note 14 Pro+ 5G มาพร้อมความละเอียดสูงถึง 200 ล้านพิกเซล บนเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.4 นิ้ว พร้อมชุดเลนส์ 7 ชิ้น รูรับแสง f/1.65 และระบบกันสั่น OIS ใช้เทคโนโลยี Tetra pixel ที่รวม 16 พิกเซลเป็น 1 พิกเซล (16-in-1 pixel binning) ให้ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น

ระบบกล้องของ Redmi Note 14 Pro+ 5G มาพร้อมฟีเจอร์ AI ที่หลากหลาย ได้แก่:

AI Film ช่วยเพิ่มลูกเล่นและฟิลเตอร์สำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอในแบบภาพยนตร์

AI Beautify ฟีเจอร์ปรับแต่งภาพบุคคลอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้ภาพถ่ายอย่างเป็นธรรมชาติ

AI Erase Pro* เทคโนโลยีลบวัตถุหรือสิ่งรบกวนที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้อย่างแม่นยำ

AI Image Expansion* ฟีเจอร์ขยายภาพอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มพื้นที่รอบๆ วัตถุหลักในภาพได้อย่างกลมกลืน

แต่สำหรับในบางฟีเจอร์อย่าง AI Erase Pro และ AI Image Expansion อาจจะต้องรออัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งมีกำหนดอัพเดทช่วงวันที่ 31 มกราคมนี้

Redmi Note 14 Pro+

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้องมุมกว้าง 8MP รูรับแสง f/2.2 และกล้องมาโคร 2MP รูรับแสง f/2.4 ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 20MP รูรับแสง f/2.2 ระบบกล้องยังรองรับฟีเจอร์การถ่ายภาพขั้นสูง เช่น Dynamic shots, Motion tracking focus, Lightning Burst และการบันทึกวิดีโอพร้อมกันสองกล้อง (Dual video)

Redmi Note 14 Pro+

และด้วยเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ยังสามารถซูมภาพแบบไม่สูญเสียรายละเอียดได้ถึง 4 เท่า (4x Lossless Zoom) เทียบเท่ากับการซูมแบบออฟติคอลได้เลย ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น กล้องของรุ่นนี้ยังมีระบบกันสั่นแบบ OIS (Optical image stabilization) ซึ่งเป็นระบบกันสั่นระดับ Hardward ที่ช่วยให้ภาพไม่สั่นไหว ทั้งการถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอ นอกจากกล้องที่มีประสิทธิภาพแล้ว ระบบยังทำงานร่วมกับ Xiaomi Imaging Engine ซึ่งเป็นระบบประมวลผลภาพถ่ายพิเศษที่ทำให้ภาพออกสวยงาม และเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น สำหรับกล้องหน้า และกล้องทั้ง 3 ตัวของ Redmi Note 14 Pro+ 5G มีสเปคดังนี้

กล้องหน้า

  • กล้องเลนส์ Wide ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2

Redmi Note 14 Pro+

กล้องหลัง

  • กล้องเลนส์ Wide ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.65 ขนาดใหญ่ 1/1.4 นิ้ว, 7 ชิ้นเลนส์ ระบบกันสั่น OIS
  • กล้องเลนส์ Ultra wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
  • กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4

Redmi Note 14 Pro+

Redmi Note 14 Pro+ 5G มีโหมดถ่ายภาพให้เลือกมากมาย ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน เริ่มจากโหมดความละเอียดสูง 200MP เหมาะสำหรับภาพที่ต้องการความละเอียดสูงเป็นพิเศษ เก็บรายละเอียดได้คมชัด ต่อมาคือโหมด Pro ที่ให้คุณควบคุมการตั้งค่ากล้องได้เองแบบมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการปรับรูรับแสง ระยะโฟกัส หรือค่าความไวแสง (ISO) นอกจากนี้ยังมีโหมดอื่นๆ เช่น โหมดกลางคืนสำหรับถ่ายภาพในที่แสงน้อยให้สว่างและคมชัด โหมดพาโนรามาสำหรับภาพมุมกว้าง โหมดเอกสารสำหรับสแกนเอกสาร โหมดสโลว์โมชั่น,โหมด Long Exposure สำหรับถ่ายภาพแสงไฟเป็นเส้น และโหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคลพร้อมเอฟเฟกต์หน้าชัดหลังเบลอ โดยปรับระดับความเบลอได้ตั้งแต่ f/1.0 (เบลอมากสุด) ถึง f/16 (เบลอน้อยสุด) และปรับความเนียนของผิวหน้าได้ถึง 100 ระดับ เ

Redmi Note 14 Pro+

โหมดการถ่ายวิดีโอก็สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K 30 เฟรมต่อวินาที หรือความละเอียด 1080p ก็สามารถถ่ายได้ที่ 60 เฟรมต่อวินาที มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS ซึ่งเป็นระบบกันสั่นในระดับ Hardware ที่ตัวเลนส์ 

ตัวอย่างภาพถ่ายซูมภาพแบบออฟติคอลซูมระยะ 1X, 2X, 4X แบบไม่เสียรายละเอียด และ 10X แบบดิจิตอลซูมตามลำดับ

  

ตัวอย่างภาพถ่ายอื่นๆ อยู่ท้ายรีวิว

เร็ว แรง เสถียร ด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 7s Gen 3

Redmi Note 14 Pro+ 5G เป็นรุ่นท็อปสุดในซีรีส์ มาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 7s Gen 3 ที่โดดเด่นในด้านความแรง เสถียรภาพ และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ชิปเซ็ตนี้ผลิตด้วยสถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตร พร้อมแกนประมวลผล Octa-core ความเร็ว 2.4 GHz และรองรับเครือข่าย 5G

สำหรับเครื่องที่นำมาทดสอบ มาพร้อม RAM LPDDR4X ขนาด 12 GB และมีฟีเจอร์ Memory Extension ที่สามารถเพิ่ม RAM ได้อีก 12 GB โดยดึงพื้นที่จาก ROM ทำให้มี RAM รวมสูงสุดถึง 24 GB ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลภายในก็ให้มาแบบจุใจถึง 512 GB ทำให้สามารถจัดเก็บภาพถ่าย วิดีโอ และข้อมูลต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกเพิ่มเติมได้

Redmi Note 14 Pro+

สำหรับรุ่นนี้ได้เปลี่ยนมาใช้ระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS เวอร์ชั่น 1.0.2 โดยมีพื้นฐานการทำงานจาก Android เวอร์ชั่น 14 รองรับการใช้งาน Google Mobile Service เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Google Maps หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น, เกมต่างๆ พร้อมอัพเดทความปลอดภัยในอนาคตด้วย

สำหรับเกมเราได้ทดสอบเล่นเกม 3D หนักๆ ที่เราใช้ทดสอบเป็นประจำอย่าง PUBG Mobile สามารถปรับความละเอียดได้สูงสุดที่ระดับ Ultra HDR และเลือกปรับเฟรมเรทได้ถึงระดับสูงสุด Ultra มีโหมด Game Turbo ที่จะช่วยจัดการทรัพยากรในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผล และหน่วยความจำให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล สามารถปิดการแจ้งเตือนทุกอย่าง, บันทึกหน้าจอขณะเล่นเกม และเปลี่ยนเสียงพูดของเราขณะเล่นเกมได้อีกด้วย 

ผลการทดสอบด้วยแอพฯ Antutu 3D Benchmark เวอร์ชั่น 10.4.2 ทำคะแนนได้สูงสุด 743,201 คะแนน แ

Redmi Note 14 Pro+

ใช้งานได้อย่างมั่นใจด้วยกระจก Gorilla Glass Victus 2 กันน้ำ กันฝุ่นมาตรฐาน IP68

ตัวเครื่อง Redmi Note14 Pro+ 5G มาพร้อมมาตรฐานการป้องกันฝุ่นและน้ำระดับ IP68 ที่สามารถกันน้ำได้ที่ความลึก 1.5 เมตร นานถึง 30 นาที และป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้หน้าจอยังได้รับการปกป้องด้วยกระจกนิรภัย Corning Gorilla Glass Victus 2 ซึ่งเป็นกระจกรุ่นล่าสุดที่มีความทนทานต่อการขีดข่วนและการกระแทกได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์

Redmi Note 14 Pro+

บทสรุปรีวิว Redmi Note 14 Pro+ 5G ในความเห็นของ What Phone

หลังจากที่ใช้งานมาสักระยะพบว่า Redmi Note 14 Pro+ มาพร้อมกับความน่าประทับใจในหลายด้าน เริ่มจากดีไซน์ที่สวยงาม ฝาหลังของสี Lavender Purple ใช้วัสดุหนังวีแกนไม่เหมือนใคร และใช้วัสดุกระจก Gorilla Glass Victus 2 คุณภาพสูง จอแสดงผลคมชัด สีสันสวยงาม พร้อมคุณสมบัติถนอมสายตา ให้ประสบการณ์ความบันเทิงทั้งภาพและเสียงอย่างเต็มที่ ในด้านการถ่ายภาพ ได้รับกล้องความละเอียดสูงถึง 200 ล้านพิกเซล ให้ภาพที่คมชัด สีสันสมจริง โดยเฉพาะภาพ Portrait ที่ดูเป็นธรรมชาติ ในส่วนของประสิทธิภาพการใช้งานนั้น ตัวเครื่องมีความแรงและเสถียร พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานและรองรับการชาร์จเร็ว รวมถึงรองรับ Google Mobile Service อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยราคาเปิดตัว 14,990 บาท ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับสเปคและฟังก์ชั่นที่ได้รับ

สรุปสเป็ค Redmi Note 14 Pro+ 5G

  • ขนาด 162.53 x 74.67 x 8.85 มม. น้ำหนัก 205.13 กรัม
  • รองรับเครือข่าย 4G LTE และ 5G
  • ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ SIM1+SIM2 หรือ eSIM+SIM1
  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1220 x 2712 พิกเซล
  • จอแสดงผลรองรับ Dolby Vision, Refresh rate 120 Hz
  • กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass Victus 2
  • หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 7s Gen 3 Octa-core ความเร็ว 2.5 GHz
  • หน่วยประมวลผลภาพ 3D Adreno 810
  • ระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 1.0.6 บนพื้นฐาน Android 14
  • หน่วยความจำ RAM 12+12 GB LPDDR4X, ROM 512 GB
  • ระบบปลดล็อคด้วยสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และปลดล็อคด้วยใบหน้า
  • กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้องหลัง 3 เลนส์
    • กล้องเลนส์ Wide ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.65 ขนาดใหญ่ 1/1.4 นิ้ว, 7 ชิ้นเลนส์
    • กล้องเลนส์ Ultra wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
    • กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
  • ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K 30fps, 1080p 60fps
  • แบตเตอรี่ 5110 mAh ชาร์จเร็วด้วยอแดปเตอร์ HyperCharge 120 วัตต์
  • การเชื่อมต่อ WiFi ความถี่ 2.4 และ 5 GHz, Bluetooth 5.4, NFC
  • ลำโพง 2 ตัว ระบบเสียงสเตอริโอ รองรับ Dolby Atmos
  • กันน้ำ กันฝุ่นมาตรฐาน IP68
  • มีให้เลือก 3 สี Midnight Black, Lavender Purple และ Frost Blue
  • ราคาเปิดตัว xx,xxx บาท

การวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

 

  • Redmi Note14 Pro+ 5G รุ่นความจุ 12GB+512GB มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Lavender Purple, Frost Blue และ Midnight Black พร้อมให้ลูกค้าสั่งจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 11 – 17 มกราคม 2568 โดยวางจำหน่ายในราคา 14,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าสั่งซื้อ Redmi Note 14 Pro+ 5G ในระหว่างวันที่ 11 – 17 มกราคม 2568 รับฟรี Redmi Note 14 Series x BamBam Exclusive Gift Set และประกัน VIP Service มูลค่ารวม 13,790 บาท
  • Redmi Note14 Pro 5G รุ่นความจุ 12GB+256GB มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Lavender Purple และ Coral Green โดยวางจำหน่ายในราคา 11,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 14 Pro 5G ในระหว่างวันที่ 11 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 รับฟรี Redmi Watch 5 Active และประกัน VIP Service มูลค่ารวม 11,290 บาท
  • Redmi Note 14 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Lavender Purple และ Coral Green7 โดยรุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 7,999 บาท และรุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 9,999 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 14 5G ในระหว่างวันที่ 11 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 รับฟรี กระเป๋าล้อลาก Redmi Note 14 Series และประกัน VIP Service มูลค่ารวม 7,690 บาท
  • Redmi Note 14 รุ่นความจุ 8GB+256GB มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Mist Purple และ Lime Green7 โดยวางจำหน่ายในราคา 5,999 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Note 14 ในระหว่างวันที่ 11 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 รับฟรี กระเป๋าล้อลาก Redmi Note 14 Series และประกัน VIP Service มูลค่ารวม 5,690 บาท

ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า

ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง

The post รีวิว Redmi Note 14 Pro+ 5G กล้อง 200MP พร้อม AI อัจฉริยะ ภาพสวยคมชัดทุกสภาวะ appeared first on .

ที่เกี่ยวข้อง


แบ่งปันหน้านี้

โพสต์ของแขกโดย Easy Branches

all our websites

image