เคลียร์ชัด ประกันรถและ พ.ร.บ. ต่างกันอย่างไร ซื้อประกันรถเพิ่มไว้เพื่อความคุ้มครองที่มากขึ้น
ประกันรถคือประกันภาคสมัครใจ ไม่ว่ารถคันนั้นจะมีหรือไม่มีก็ไม่ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ปัจจุบันประกันรถมีหลายประเภท หลายความคุ้มครอง ราคาแตกต่างกัน ก่อนตัดสินใจซื้อจึงควรดูความคุ้มครองรถยนต์อย่างละเอียด
- Jun 04 2024
- 138
- 8425 Views
เชื่อว่าท่านเจ้าของรถน่าจะคุ้นเคยกับคำว่าประกันรถยนต์ และ พ.ร.บ. เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ พ.ร.บ. ที่รถทุกคันต้องมี ในขณะที่ประกันรถเป็นประกันภาคสมัครใจที่ควรซื้อเพิ่มเพื่อความคุ้มครองที่มากขึ้น แต่ทราบหรือไม่ว่าทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างไร ใครที่ยังสงสัยมาหาคำตอบกันได้เลย
ก่อนจะไปดูความแตกต่างระหว่างประกันรถยนต์และ พ.ร.บ. อยากให้ลองทำความรู้จักว่าทั้งสองอย่างนี้คืออะไร สำหรับ พ.ร.บ. ย่อมาจาก พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งกฎหมายบังคับให้รถทุกคันที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกต้องมี เพื่อเป็นหลักประกันให้รถทุกคันมีความคุ้มครองพื้นฐาน เมื่อดูความคุ้มครองรถยนต์แล้วจะพบว่าคุ้มครองเฉพาะตัวบุคคลแต่จะไม่คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ
ในขณะที่ประกันรถคือประกันภาคสมัครใจ ไม่ว่ารถคันนั้นจะมีหรือไม่มีก็ไม่ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ปัจจุบันประกันรถมีหลายประเภท หลายความคุ้มครอง ราคาแตกต่างกัน ก่อนตัดสินใจซื้อจึงควรดูความคุ้มครองรถยนต์อย่างละเอียด ยิ่งความคุ้มครองสูง ค่าเบี้ยประกันจะสูงขึ้นตามไปด้วย หากไม่แน่ใจว่าควรเลือกอย่างไรแนะนำให้เช็คประกันรถ กับ TQM เสียก่อน เพื่อการซื้อประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการ
ความแตกต่างระหว่างประกันรถยนต์ และ พ.ร.บ.
การบังคับใช้
สิ่งหนึ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือ พ.ร.บ. เป็นข้อบังคับทางกฎหมาย รถคันใดไม่มี พ.ร.บ. มีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท ในขณะที่ประกันรถยนต์เป็นประกันภาคสมัครใจ หากรถคันใดที่ไม่มีจะไม่มีความผิด แต่ถึงอย่างนั้นคนจำนวนมากนิยมซื้อเพิ่มเพื่อความคุ้มครองที่มากขึ้น
ประเภทความคุ้มครอง
พ.ร.บ. รถทุกคันจะมีความคุ้มครองแบบเดียวกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นวงเงินรักษาพยาบาลหรือค่าชดเชยต่าง ๆ แต่หากดูแผนประกันรถยนต์ล่าสุดของประกันรถจะพบว่ามีให้เลือกหลายประเภท เช่น ประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2 หากต้องการทราบว่าประกันรถแต่ละประเภทมีความคุ้มครองอย่างไรบ้างควรปรึกษาหรือสอบถามรายละเอียดประกันรถกับบริษัทประกันก่อนตัดสินใจ
มูลค่าความคุ้มครอง
มูลค่าความคุ้มครองของ พ.ร.บ. สูงสุดไม่เกิน 304,000 บาท ซึ่งรวมทั้งค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยต่าง ๆ แต่สำหรับประกันรถนั้น มูลค่าความคุ้มครองขึ้นอยู่กับกรมธรรม์ที่เลือก ดังนั้น อย่าลืมดูแผนประกันรถยนต์ล่าสุดที่ซื้อจะได้ทราบว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจะมีความคุ้มครองเท่าไหร่บ้าง
ราคา
เมื่อสอบถามรายละเอียดประกันรถแล้วจะพบว่าอีกสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่าแตกต่าง คือ ราคา พ.ร.บ. จะถูกกว่าประกันรถมาก งบประมาณแค่หลักร้อยก็สามารถต่อ พ.ร.บ. ได้ ในขณะที่ประกันรถใช้งบประมาณหลักพัน หากเลือกความคุ้มครองสูง งบประมาณก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
สรุป
ไม่ว่าจะเป็นประกันรถหรือ พ.ร.บ. ต่างเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ โดย พ.ร.บ. เป็นความคุ้มครองพื้นฐานที่รถทุกคันต้องมี ในขณะที่ประกันรถควรทำเพิ่มเพื่อความคุ้มครองที่มากขึ้น ทั้งสองอย่างนี้เป็นตัวช่วยผ่อนหนักเป็นเบา คุ้มครองความเสียหาย ทั้งต่อตัวบุคคลและความเสียหายต่อทรัพย์สิน แต่เพราะประกันรถมีด้วยกันหลายประเภทและหลายราคา อย่างไรก็อย่าลืมเปรียบเทียบประกันรถรวมทุกบริษัท ทั้งในส่วนของค่าเบี้ย ความคุ้มครอง และสิทธิพิเศษ เพื่อการซื้อประกันอย่างคุ้มค่า