GWM ชวนสตาร์ท EV รับลมหนาว กับ 5 ทริคก่อนออกทริปขึ้นเหนือ
ประชาสัมพันธ์ ● หน้าหนาวปลายปี 2567 นี้ ใครยังไม่มีแพลนสตาร์ทรถออกไปเที่ยว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ขอชวนคนไทยออกไปเที่ยวไทยด้วยกัน ตามรอย 3 จังหวัดภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน เตรียมตัวออกเที่ยวแบบคุ้มหลายต่อ ทั้งโปรโมชันเด็ดสุดคุ้มผ่าน
ประชาสัมพันธ์
● หน้าหนาวปลายปี 2567 นี้ ใครยังไม่มีแพลนสตาร์ทรถออกไปเที่ยว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ขอชวนคนไทยออกไปเที่ยวไทยด้วยกัน ตามรอย 3 จังหวัดภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน เตรียมตัวออกเที่ยวแบบคุ้มหลายต่อ ทั้งโปรโมชันเด็ดสุดคุ้มผ่านแคมเปญ “สุขทันที ปลายปีเที่ยวไทย” จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กับสินค้าและบริการท่องเที่ยวจากผู้ประกอบการมากกว่า 200 ราย พร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 45% และความคุ้มอีกด้านผ่านการเลือกใช้รถพลังงานไฟฟ้า 100% ที่จะช่วยเติมเต็มเส้นทางความสุขเพื่อคนสายกรีนด้วยมลพิษที่เป็นศูนย์ รวมถึงช่วยประหยัดค่าพลังงานงาน เปลี่ยนค่าน้ำมันให้เป็นค่าอาหารมื้อหรู หรือจะแวะคาเฟ่ฮอปปิ้งได้หลายที่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของคนยุคใหม่ ก่อนออกเดินทางรับลมหนาวพร้อมวิวที่แวดล้อมด้วยภูเขาและธรรมชาติตระการตา เกรท วอลล์ มอเตอร์ ขอแนะนำ 5 วิธี เตรียมตัวก่อนออกทริปกับรถยนต์ไฟฟ้าคู่ใจ ช่วยให้ทุกทริปราบรื่น ไร้อุปสรรค ปลอดภัยในทุกที่นั่ง
● ทริคที่ 1: เช็กให้ชัวร์ ดูให้ครบ กับ 5 จุดเช็คลิสต์สำคัญก่อนออกทริป – ก่อนสตาร์ทรถออกเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ต้องเช็กให้ชัวร์ กับ 5 สิ่งสำคัญ ช่วยเพิ่มความมั่นใจ เพราะ well begun is half done แค่เริ่มต้นดีก็ถือว่าทริปนี้สำเร็จไปแล้วครึ่งทาง
● แบตเตอรี่: หัวใจสำคัญสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ฉะนั้นก่อนออกทริปควรตรวจสอบแบตเตอรี่ให้ดี สิ่งที่ควรระวัง คือ ไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือน้อยกว่า 20% บ่อยครั้ง เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไวกว่ากำหนด และไม่ควรชาร์จเร็ว (DC Fast Charging) บ่อยเกินไป เนื่องจากการชาร์จเร็วจะใช้กระแสไฟฟ้าที่สูงกว่าปกติ ทำให้ความร้อนสะสมในแบตเตอรี่ ผลลัพธ์คือแบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพไวไม่ต่างจากการทิ้งให้แบตเหลือน้อยกว่า 20% รวมถึงไม่ควรจอดรถยนต์ไฟฟ้าไว้กลางแจ้งบ่อย เพราะแสงแดดที่ร้อนจัดจะทำให้แบตเตอรี่ได้รับความร้อนสูง ส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นลงตามมาด้วย หากไม่แน่ใจในสภาพการทำงานของแบตเตอรี่ แนะนำให้นำรถไฟฟ้าเข้าศูนย์เพื่อเช็กสภาพความพร้อมของแบตเตอรี่ก่อนออกเดินทาง
● ยางรถยนต์: ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ยางรถยนต์เป็นสิ่งแรกที่ได้สัมผัสกับพื้นถนนในทุกสภาพเส้นทาง จะทางเรียบ ขรุขระ หรือน้ำนอง ควรเช็กลมยางรถยนต์ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อความปลอดภัยตลอดทุกการเดินทาง สำหรับรถยนต์ที่มีขนาดเล็ก ควรเติมลมยางประมาณ 25-30 PSI สำหรับรถยนต์ที่มีขนาดกลาง ควรเติมลมยางประมาณ 30-35 PSI และสำหรับรถกระบะที่เน้นการท่องเที่ยว ผจญภัย ไม่เน้นการบรรทุกของที่มีน้ำหนักเยอะ ควรเติมลมยางประมาณ 35-40 PSI การเติมลมยางตามที่แนะนำนี้จะช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุ เพื่อการออกทริปที่เป็นไปอย่างสนุกและราบรื่น
● เบรก: ก่อนออกเดินทางทริปยาวหรือโรดทริป ควรวางแผนนำรถเข้าศูนย์ล่วงหน้า เพื่อให้แน่ใจว่าระบบต่าง ๆ ของรถยนต์ไฟฟ้าทำงานได้เป็นปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบเบรก การมีระบบเบรกที่ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือหากสังเกตว่าการแตะเบรกขณะขับขี่ดูให้ผลลัพธ์แปลกไปจากทุกครั้ง ควรนำรถยนต์ไฟฟ้าเข้าไปเช็กสภาพเบรกที่ศูนย์บริการรถ เพราะหากสภาพเบรกลดลง อาจเพราะเกิดความเสียหายได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น ระบบเบรกเกิดการสึกหรอ หรือลูกสูบเบรกมีปัญหา
● แอร์: หากเครื่องปรับอากาศทำงานได้ไม่เป็นปกติ อาจจะทำให้การเดินทางมีอุปสรรคโดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถในระยะทางไกล และอาจทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารเกิดความเมื่อยล้าขณะเดินทางและเสียสมาธิในการขับขี่ ฉะนั้นควรเช็กแอร์ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง และควรวอร์มรถยนต์ไฟฟ้าก่อนเดินทางไกล เพื่อเช็กและเพื่อเป็นการเลี่ยงปัญหาดังกล่าว
● สัญญาณไฟ: ในการเดินทางที่ตะโกนบอกผู้ขับขี่คันอื่น ๆ บนท้องถนนไม่ได้ ไฟหน้าและไฟท้ายจึงเป็นสิ่งสำคัญในการส่งสัญญาณแทนคำพูด เช่น การเลี้ยวซ้าย-ขวา การตบไฟให้สัญญาณ หรือแม้แต่สัญญาณไฟฉุกเฉินหากเกิดปัญหาขึ้นกระทันหัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาขณะออกทริปเดินทาง จำเป็นต้องเช็กไฟต่าง ๆ ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว และไฟฉุกเฉินให้ดี เพื่อให้ทุกเส้นทางการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น ไร้ปัญหาขณะขับขี่
● ทริคที่ 2: จำกัดความเร็วขณะขึ้น-ลงเขา และไม่บรรทุกของหนักขึ้นดอย – ความเร็วที่เหมาะสมสำหรับการขึ้น-ลงภูเขา ในการขับรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นภูเขาควรมีความเร็วอยู่ที่ประมาณ 50-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และการขับรถยนต์ไฟฟ้าลงภูเขาควรมีความเร็วอยู่ประมาณที่ 30-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วที่ค่อนข้างปลอดภัยและช่วยให้เบรกไม่ทำงานหนักจนเกินไป รวมถึงเว้นระยะจากคันหน้าประมาณ 30-50 เมตร เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินอื่น ๆ ที่ไม่คาดคิด ทั้งนี้ สำหรับน้ำหนักของสัมภาระในการบรรทุกของเพื่อออกทริปในเส้นทางดังกล่าวควรพิจารณาตามความเหมาะสมของรถแต่ละรุ่นเพื่อไม่ให้หนักเกินไป เพราะน้ำหนักที่เยอะจะส่งผลต่อประสิทธิภาพของการเร่งของเครื่องยนต์
● ทริคที่ 3: หมั่นสังเกตแผงหน้าปัดแจ้งเตือนขณะขับขี่ – สิ่งที่อันตรายไม่ต่างจากการละสายตาบนท้องถนนขณะขับขี่ คือ การละสายตาและละความสนใจจากสัญญาณต่าง ๆ ที่ขึ้นมาบนแผงหน้าปัดรถ โดยปกติสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ขึ้นมาจะมีสีอยู่ 3 ระดับ ได้แก่ สีเขียว สีส้มหรือสีเหลือง และสีแดง คล้ายสัญญาณไฟจราจร แต่ละสีบ่งบอกถึงความเร่งด่วนในแต่ละระดับ ซึ่งสีเขียวหมายถึงปลอดภัย สีส้มหรือสีเหลืองหมายถึงเริ่มไม่ปลอดภัย และสีแดงหมายถึงอันตราย นอกเหนือจากสีแล้วผู้ขับขี่ควรรู้ควายหมายของสัญลักษณ์ที่จำเป็น เช่น สัญลักษณ์พร้อมขับขี่ สัญลักษณ์การปิดประตูรถไม่สนิท สัญลักษณ์แจ้งเตือนแรงดันลมยาง และสัญลักษณ์แจ้งเตือนความจุแบตเตอรี่ การสังเกตสัญลักษณ์เหล่านี้จะช่วยให้การเดินทางพักผ่อนวันหยุดนี้ปลอดภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตลอดการเดินทาง
● ทริคที่ 4: ทุกการเบรกเหมือนได้แลกพ้อยท์ ได้พลังงานกลับคืนด้วยระบบ Regenerative Breaking – สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจะมีระบบเบรก 2 ระบบ ได้แก่ ระบบเบรกธรรมดา และระบบเบรก Regenerative Breaking โดยผู้ใช้งานสามารถประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้ เพียงเลือกใช้ระบบ Regenerative Breaking โดยสังเกตสัญลักษณ์ของระบบเบรกนี้จากแผงหน้าปัดได้ ซึ่งระบบเบรกนี้เป็นการเหยียบเบรกที่สร้างพลังงานจลน์ และการเบรกนั้นจะถูกส่งกลับไปเป็นพลังงานที่แบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ทุกแรงที่เหยียบไปไม่เสียเปล่า อีกทั้งยังสามารถกู้คืนพลังงานได้มากถึง 70% ที่เกิดจากกระบวนการเบรก ช่วยยืดอายุชิ้นส่วนเบรกรถยนต์ เมื่อออกทริปในเส้นทางภูเขาสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับระบบเบรก Regenerative Breaking คือ การไม่ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100% แต่ควรชาร์จให้อยู่ประมาณที่ 80-90% เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
● ทริคที่ 5: วางแผนให้ดี ปักหมุดสถานีชาร์จรอไว้เลย – สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าการวางแผนที่ดี คือ การดูสถานีชาร์จไว้ล่วงหน้า ในทุก ๆ การเดินทางควรตรวจสอบจุดชาร์จให้ชัดเจน และจองสถานีชาร์จไว้ล่วงหน้า เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ สามารถจองสถานีชาร์จได้ง่าย ๆ ในแอปพลิเคชัน GWM THAILAND เมื่อโหลดแอปฯ เรียบร้อยแล้วสามารถทำการจองได้ ดังนี้
- เข้าแอปพลิเคชัน GWM THAILAND
- เลือกเมนู ‘รีโมท’ จากนั้นเลือก ‘แผนที่จุดชาร์จ’
- ค้นหาที่อยู่ที่ต้องการไปใช้บริการ
- กด ‘จอง’ ไอคอนที่สองด้านล่างซ้ายมือ
● แอปพลิเคชันนี้สามารถชำระได้ทั้งแบบเติมเงินและผ่านบัตรเครดิต ทำให้ลดการยุ่งยากในการออกทริป ประหยัดเวลาในการเดินทาง
● ถ้าพร้อมแล้วก็ออกไปรับลมหนาว จะไปคนเดียว หรือยกแก๊งค์ก็สนุก ปลอดภัย ประหยัด และรักษ์โลก กับรถไฟฟ้าคู่ใจในวันหยุดยาวปีใหม่นี้ หากใครยังไม่มีแพลนไปไหน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ชวนออกมาทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานใหม่ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ สามารถไปสัมผัสและทดลองขับได้ที่ GWM พาร์ทเนอร์ สโตร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ และโปรโมชัน Thailand International Motor Expo ครั้งที่ 41 ยังเปิดให้ผู้ที่สนใจเลือกรับดีลพิเศษและสิทธิประโยชน์อีกมากมายเพื่อฉลองปลายปี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 นี้ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ GWM แอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ www.gwm.co.th หรือสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ GWM Contact Center โทร. 02-668-8888 ●
The post GWM ชวนสตาร์ท EV รับลมหนาว กับ 5 ทริคก่อนออกทริปขึ้นเหนือ appeared first on motortrivia.