เรื่อง : AREA 54

●   DS Automobiles ซับ-แบรนด์หรูของซีตรอง เปิดตัวครอสโอเวอร์ SUV ขนาดกลางพลังไฟฟ้ารุ่นแฟลกชิพ DS N°8 (นัมเบอร์ เอท) รถหรูซึ่งนับเป็นรถรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ DS ที่ผลิตขึ้นบนแพลทฟอร์ม STLA Medium ต่อจากรุ่นพี่ในเครือ Stellantis เช่น Alfa Romeo Giulietta, Opel Grandland หรือ Peugeot e-5008 เป็นต้น

●   งานออแบบของ DS N°8 คลี่คลายรูปแบบมาจากรถต้นแบบ DS Aero Sport Lounge concept ในปี 2020 รอบคันเต็มไปด้วยแพคเกจแอร์โรไดนามิคส์ที่หวังผลทางด้านอากาศพลศาสตร์อย่างเต็มที่ เส้นสายรอบคันที่เต็มไปด้วยโค้งมนช่วยให้ตัวรถมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ (cd) เพียง 0.24 เท่านั้น ความยาวรวมอยู่ที่ 4.82 ม. กว้าง 1.90 ม. สูง 1.58 ม. ความยาวฐานล้อ 2.90 ม.

●   จุดเด่นของ DS N°8 คือกระจังหน้าแบบปิดที่โชว์ตราสัญลักษณ์ DS บนแบคดรอปเรืองแสง, ชุดไฟหน้าแบบใหม่ทั้งหมด DS Pixel Vision ทรงเรียวบางจับคู่ไฟ DRL สำหรับวิ่งกลางวันยาวไปจนถึงกันชน, มือเปิดประตูแบบฝังเรียบ Flush door handles, ฝาท้ายแบบลาดเทควบรวมกับสปอยเลอร์หลัง, ด้านข้างมีลูกเล่นเป็นจุดนำสายตาที่เสา C, ชุดไฟท้ายทรงเพรัยวบางล้อกับไฟหน้า และล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว

●   ห้องโดยสารออกแบบได้เรียบหรูและดูดีมาก ไฮไลท์คือพวงมาลัย 4 ก้านทรง X ปาดบน/ล่างหลบต้นขา องศาของก้านพวงมาลัยออกแบบให้ผู้ขับยังคงสามารถจับพวงมาลัยในตำแหน่ง 10 และ 2 นาฬิกาได้ตามปกติ อุปกรณ์มาตรฐานหลักๆ มี Head-up display เทคโนโลยี AR, มาตรวัดดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว จับคู่จอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 16 นิ้ว ทั้งคู่จัดวางแบบลอยตัว

●   คอนโซลกลาง 2 ชั้นแบบลอยตัว, รอบห้องโดยสารดูทันสมัยด้วยชุดไฟแอมเบียนท์ตามจุดต่างๆ, ชุดระบบซาวด์ซิสเต็ม Electra® 3D ของ Focal พร้อมชุดลำโพง 14 ตำแหน่ง, กระจกแบบเก็บเสียง ผลิตจากลามิเนท 2 ชั้น ปิดท้ายด้วยเบาะพร้อมฟังก์ชั่นนวด, ระบบอุ่นเบาะ และระบบระบายอากาศทุกตำแหน่ง ซึ่งสามารถเลือกออปชั่นตกแต่งได้ระหว่างหนัง Alcantara หรือ Nappa

●   ระบบขับเคลื่อนของ DS N°8 แยกเป็นรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 230 แรงม้า (PS) หรือ 245 แรงม้า ทั้ง 2 รุ่นย่อยมีฟังก์ชั่น Boost ช่วยเพิ่มกำลังให้อีก +30 แรงม้าในจังหวะที่ต้องการอัตราเร่งเป็นพิเศษ

●   ส่วนรุ่นท๊อป All-wheel drive ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังรวมทั้งระบบผลิตได้ 350 แรงม้า และสูงสุด 375 แรงม้าเมื่อใช้ฟังก์ชั่น Boost ตัวรถสามารถทำอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ภายใน 5.4 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจะถูกจำกัดเอาไว้ที่ 190 กม./ชม. เพื่อความเหมาะสม

●   ทุกรุ่นย่อยเลือกความจุแบตเตอรี่แพคได้ระหว่าง 74 กิโลวัทท์-ชม. หรือ 97.2 กิโลวัทท์-ชม. ระยะทางในการวิ่งรุ่น FWD อยู่ที่ 572 กม. และ 750 กม. ตามลำดับ ส่วนรุ่น AWD / 97.2 kWh ระยะทางในการวิ่งจะอยู่ที่ 686 กม. ทั้งหมดใช้เทคโนโลยี 400 โวลท์ รองรับการชาร์จด้วยไฟกระแสตรง (DC) สูงสุด 200 กิโลวัทท์ ชาร์จเร็วจาก 20 – 80% ภายใน 27 นาที

●   สำหรับการทำตลาด DS จะเริ่มส่ง N°8 ลงโชว์รูมยุโรปในช่วงกลางปี 2025 ส่วนราคาจำหน่ายยังไม่ระบุครับ ●

2026 DS N°8

The post 2026 DS N°8 รถไฟฟ้ารุ่นแฟลกชิพจากซับ-แบรนด์หรูของ Citroën appeared first on motortrivia.