สังคม
ใครจะรอดในยุคที่ ‘เอไอ’ เขย่าตลาดแรงงาน?
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเป็นที่นิยมในวงกว้างมากขึ้น ความก้าวหน้านี้จะสร้างผลกระทบต่อตลาดงานในอนาคต บางคนหวาดกลัวการปลดออกจากงานครั้งใหญ่เนื่องจากถูกแทนที่ด้วย AI ในขณะที่บางราย กลับเห็นอนาคตอันสดใสจากการปรับตัวและดึงเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มศักยภ
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเป็นที่นิยมในวงกว้างมากขึ้น ความก้าวหน้านี้จะสร้างผลกระทบต่อตลาดงานในอนาคต บางคนหวาดกลัวการปลดออกจากงานครั้งใหญ่เนื่องจากถูกแทนที่ด้วย AI ในขณะที่บางราย กลับเห็นอนาคตอันสดใสจากการปรับตัวและดึงเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มศักยภาพของการทำงาน
เป็นเวลานานกว่าศตวรรษ ที่ “ระบบอัตโนมัติ” ส่งผลกระทบต่อคนงานทั่วโลก ทั้งการช่วย “สร้างงาน” และเข้ามา “ทดแทน” แรงงานมนุษย์
ปัจจุบันเริ่มมีการคาดการณ์บทบาทของปัญญาประดิษฐ์ โดยเฉพาะ Generative AI หรือ GenAI ซึ่งเป็นเทคโนโลยี AI ประเภทหนึ่ง ที่เชี่ยวชาญในการสังเคราะห์ข้อมูลใหม่ จากชุดข้อมูลเดิมที่มีอยู่แล้ว ว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อการทำงานของเรา
ซานเจย์ ปัตไนค์ จากสถาบัน Brookings ชี้ว่า GenAI จะเข้ามาสู่การทำงาน ที่ครั้งหนึ่งเคยต้องพึ่งพาเพียงแค่มนุษย์เท่านั้น
เขาอธิบายว่า “เบื้องต้น งานที่เสี่ยงมากที่สุดจะถูกทดแทนด้วย GenAI คืองานระดับเริ่มต้นทั้งหลาย” ยกตัวอย่างเช่น นักวิจัยการตลาด ผู้ช่วยนักวิจัย นักวิเคราะห์ด้านการเงิน เป็นต้น งานเหล่านี้เกิดจากการทำซ้ำและสามารถเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบอัตโนมัติได้ไม่ยาก
ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า ตลาดยังขาดบุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
ซูซาน บีลเลอร์ จากองค์กรไม่แสวงผลกำไร International Federation of Robotics (IFR) มองว่า AI จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ให้กับมนุษย์ เธอยกตัวอย่าง งานช่างเชื่อมโลหะ เป็นตำแหน่งงานที่หายไปจากตลาดเนื่องจากขาดการฝึกอบรม จึงมีการใช้ระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติเข้ามาทดแทน
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ทุกตำแหน่งงาน ที่ AI จะเข้ามาแทนที่ได้
อาบิเกล กิลเบิร์ต จากสถาบันวิจัยอิสระ Institute for the Future of Work กล่าวว่า “ในธุรกิจต่าง ๆ ทักษะด้านการสื่อสาร การคิดเชิงวิพากษ์ และความเป็นผู้นำ ยังเป็นที่ต้องการอย่างมากและมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง” สำหรับตลาดแรงงาน ความสามารถข้างต้นที่ถูกพัฒนามาจากทักษะเชิงศิลป์และมนุษยศาสตร์ ยังเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก
ในทัศนะของนักวิชาการมองว่า AI ไม่ใช่แค่กระแส ที่มาแล้วหายไป แต่จะเป็นเทคโนโลยีที่คงอยู่ หนึ่งในวิธี “เอาตัวรอด” ในยุค AI เข้ามาทดแทนตำแหน่งงาน คือการปรับตัวให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ ในสายงานด้าน AI
ชอว์น ดาลี่ จากมหาวิทยาลัย Niagara รัฐนิวยอร์ก คาดว่าคนที่เข้าใจการทำงานของระบบ จะได้เปรียบอย่างมาก จากความสามารถเดิมที่มีอยู่จะถูกขยายให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เขาบอกว่า จากการใช้เทคโนโลยีสังเคราะห์ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ บางคนจะกลายเป็นผู้สร้างผลงานที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
หนึ่งในสิ่งที่ตอกย้ำว่า AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้น คือการที่รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมเปิดตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับ AI โดยในปีหน้า ทางทำเนียบขาวได้ประกาศเพิ่มการจ้างงานผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จำนวนมากถึง 500 ตำแหน่ง เพื่อรองรับการทำงานให้กับรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่มา: วีโอเอ