logologo

Easy Branches ให้คุณแบ่งปันโพสต์แขกของคุณภายในเครือข่ายของเราในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อเข้าถึงลูกค้าทั่วโลก เริ่มแบ่งปันเรื่องราวของคุณวันนี้!

Easy Branches

34/17 Moo 3 Chao fah west Road, Phuket, Thailand, Phuket

Call: 076 367 766

info@easybranches.com
เศรษฐกิจ

ตํารวจฮ่องกงบุกจับมิจฉาชีพใช้ “Deepfake” หลอกหนุ่มให้รักทั่วเอเชีย สูญเงินกว่า 1.5 พันล้านบาท

ตำรวจฮ่องกงจับกุมมิจฉาชีพหลอกเหยื่อด้วยเทคโนโลยี “Deepfake” ปลอมเป็นสาวสวยหลอกหนุ่มโอนเงินทั่วเอเชีย ความเสียหายกว่า 1.5 พันล้านบาท ตํารวจฮ่องกงได้เข้าจับกุมกลุ่มคนชายหญิงกว่า 27 คน อายุระหว่าง 21 ถึง 34 ปี ที่คาดว่าเป็นมิจฉาชีพใช้เทคโนโลยี Deepfake


  • Oct 21 2024
  • 62
  • 8840 Views

ตำรวจฮ่องกงจับกุมมิจฉาชีพหลอกเหยื่อด้วยเทคโนโลยี “Deepfake” ปลอมเป็นสาวสวยหลอกหนุ่มโอนเงินทั่วเอเชีย ความเสียหายกว่า 1.5 พันล้านบาท

ตํารวจฮ่องกงได้เข้าจับกุมกลุ่มคนชายหญิงกว่า 27 คน อายุระหว่าง 21 ถึง 34 ปี ที่คาดว่าเป็นมิจฉาชีพใช้เทคโนโลยี Deepfake ปลอมเป็นผู้หญิง ในการหลอกวิดีโอคอลกับเหล่าชายหนุ่มผู้แสวงหาความรักจากโลกออนไลน์ โดยมุ่งเป้าเหยื่อไปที่ผู้ชายจากไต้หวันไปจนถึงสิงคโปร์และไกลถึงอินเดีย ก่อนที่จะหลอกล่อเหยื่อให้โอนเงินไปให้หรือบังคับเหยื่อให้ลงทุนผ่านแพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลปลอม  

ตามรายงานของตํารวจฮ่องกงระบุว่า การหลอกลวงโดยใช้ Deepfake ของแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้รักนี้มักมีการจัดการที่มีความเป็นระเบียบสูง โดยแบ่งออกเป็นแผนกที่รับผิดชอบขั้นตอนต่างๆ โดยเริ่มต้นจากปลอมตัวเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ทำทีเป็นส่งข้อความไปผิดเบอร์ จากนั้นมิจฉาชีพจะก็สร้างสถานการณ์ชวนคุยโดยใช้ความจริงใจและอารมณ์ของเหยื่อให้เกิดความรักจนถึงขั้นเริ่มวางแผนอนาคตร่วมกัน จากนั้นจึงทำการหลอกโกงเงิน เป็นต้น

การหลอกลวงของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ดําเนินมาประมาณ 1 ปี กว่าที่ตํารวจจะได้รับรายงานและวางแผนเข้าทำการจับกุมในเวลาต่อมา โดยสามารถยึดโทรศัพท์มือถือมากกว่า 100 เครื่อง เทียบเท่ากับเงินสดเกือบ 26,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 860,000 บาท และนาฬิกาหรูอีกจํานวนหนึ่ง

จากการหลอกลวงของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวสร้างมูลค่าความเสียหายกว่า 46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.5 พันล้านบาท และยังไม่มีรายงานข้อมูลที่แน่ชัดว่าอาชญากรรมนี้แพร่หลายไปมากแค่ไหนในฮ่องกง แต่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องมีการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการหลอกลวงทางโทรศัพท์มาเป็นเวลานาน หลังจากมีผู้สูงอายุตกเป็นเหยื่อจำนวนมากและสร้างความเสียหายสูงจนน่าตกใจ

นอกจากนี้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทออกแบบและวิศวกรรมข้ามชาติของอังกฤษในฮ่องกงก็เคยตกเป็นเหยื่อและสูญเสียเงินกว่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยพนักงานของบริษัทนี้ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงโดยใช้เทคโนโลยี Deepfake ปลอมตัวเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและพนักงานคนอื่นๆ

ในไทยเองก็มีรายงานความเสียหายจากการหลอกลวงด้วย Deepfake เช่นกัน โดยข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า กรณีการใช้ AI Deepfake เพื่อตัดต่อและสวมรอยเป็นใบหน้าคนดังถูกนำไปใช้หลอกเงินเหยื่อมาพักใหญ่แล้ว และไม่ได้มีเพียงแค่บน Facebook แต่ปรากฏทั่วแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ยอดนิยม ทั้ง TikTok และ YouTube ด้วย

มิจฉาชีพที่ดำเนินการหลอกลวงนักลงทุนในลักษณะนี้มักจะตั้งเซิร์ฟเวอร์จะอยู่ในต่างประเทศ ที่ผ่านมาตำรวจมักจับได้เฉพาะกลุ่มบัญชีม้าและกลายเป็นกรณี ‘แมวไล่จับหนู’ ไปเรื่อยๆ หากจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้จะต้องมีการกำหนดผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ

ด้าน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังอยู่ระหว่างศึกษาการออกแนวปฏิบัติว่า หากประชาชนถูกมิจฉาชีพหลอกในกรณีใดบ้างที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ 100% พร้อมร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่างกฎหมายใหม่เพื่อคืนเงินให้ประชาชนที่ถูกหลอกได้เร็วขึ้น ส่วนมาตรการที่ธปท. ได้ออกมาเพื่อจัดการภัยการเงินในช่วงที่ผ่านมา เช่น การกำหนดให้ธนาคารไม่ส่งลิงก์ผ่าน SMS ช่วยให้ประชาชนถูกหลอกลดลง อย่างไรก็ตาม มิจฉาชีพได้เปลี่ยนรูปแบบจากการหลอกว่าส่ง SMS จากธนาคารพาณิชย์ เป็นการส่ง SMS ปลอมเป็นหน่วยงานของรัฐแทน เช่น กรมบัญชีกลาง เป็นต้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วน ต้องช่วยกันให้ความรู้และเฝ้าระวัง รวมถึงกำหนดมาตรการที่ต้องมีการพูดคุยให้ชัดเจน

ที่มา : CNN และ สมาคมธนาคารไทย 

ที่เกี่ยวข้อง


แบ่งปันหน้านี้

โพสต์ของแขกโดย Easy Branches

all our websites

image