เปิด ’10 อาชีพมาแรง’ ที่ไม่ตกยุคและตลาดต้องการตัวเป็นอย่างมาก
ยุคนี้เป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายและเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเข้ามาดิสรัปต์ของเทคโนโลยีในหลากหลายวงการ ไม่เว้นกระทั่ง ‘โลกของการทำงาน’ อย่างที่จะเห็นได้ว่า ทักษะและความรู้ด้านเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับการทำงานไม่น้อย รวมถึงเปลี่ยนภูม
ยุคนี้เป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายและเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเข้ามาดิสรัปต์ของเทคโนโลยีในหลากหลายวงการ ไม่เว้นกระทั่ง ‘โลกของการทำงาน’ อย่างที่จะเห็นได้ว่า ทักษะและความรู้ด้านเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับการทำงานไม่น้อย รวมถึงเปลี่ยนภูมิทัศน์ของตลาดแรงงาน จากอาชีพที่เคยโดดเด่นเป็นที่ต้องการของตลาด แต่ตอนนี้อาจจะไม่ใช่เช่นนั้นอีกต่อไป
บทความนี้เราจึงอยากพาไปดูว่า จากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ส่งผลให้สายงานอาชีพใดมาแรง กลายเป็น ‘อาชีพแห่งอนาคต’ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานบ้าง
10 อาชีพมาแรงในอนาคต ประกอบด้วย
1.Software Developer
เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น แน่นอนว่า Software Developer จึงเป็นอาชีพที่ตลาดต้องการเป็นอันดับต้น ๆ เพราะธุรกิจหรือองค์กรส่วนใหญ่จำเป็นต้องมีเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของตัวเอง เพื่อเป็นช่องทางสื่อสาร ตลอดจนเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะถูกนำมาใช้สร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้าของตนเอง
สำหรับทักษะที่อาชีพนี้ต้องมีติดตัวไว้ อย่างเช่น Coding Language, Machine Learning, Analytical Skills และ Mathematics และ Statics เมื่อทำงานไปสักระยะ Software Developer อาจต่อยอดไปสู่สายงานอย่าง Programmer Analysts ได้เช่นกัน
ฐานเงินเดือนโดยประมาณ : 25,000-140,000 บาท/เดือน
2.AI & Machine Learning Engineer
หากพูดถึงโลกอนาคต ณ เวลานี้คงหนีไม้พ้นเรื่องของ AI ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และเป็นผลให้ AI Engineer และ Machine Learning Engineer เป็นอาชีพมาแรงที่ตลาดแรงงานในอนาคตต้องการตัวสูง โดยอาชีพนี้ จะอาศัยความเชี่ยวชาญในการด้านการผลิตและการเรียนรู้เครื่องจักรกล เพื่อเป็นการร่วมกันผลิตผลงานโดยมนุษย์และ AI ให้ออกมามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ทักษะที่อาชีพนี้จำเป็นต้องมี เช่น Coding และ Computer Skill, Marketing Skill, Machine Learning หรือ Mathematics และ Statics ฯลฯ ส่วนเส้นทางการต่อยอดในสายอาชีพนั้น สามารถเติบโตไปสู่การเป็น Machine Learning Engineer หรือ Data Engineer ได้ในอนาคต
ฐานเงินเดือนโดยประมาณ : 60,000-80,000 บาท/เดือน
3.Data Analysts
ยุคปัจจุบัน เป็นโลกของ Big Data ที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้การทำการตลาด หรือการทำธุรกิจเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยวางแผนในการดำเนินด้านกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำและชนะคู่แข่ง จึงไม่น่าแปลกใจที่อาชีพ Data Analysts จะเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน
สำหรับหน้าที่ของ Data Analyst คือต้องวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็น Insights เพื่อตอบรับเรื่องของการวางกลยุทธ์ วิเคราะห์เรื่องยอดขาย ผสานกับการดูแลเรื่องต้นทุนในธุรกิจของบริษัท รวมไปถึงรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่มี เพื่อนำมาใช้ส่งเสริมการทำงานของฝ่ายการตลาด ฝ่ายจัดการธุรกิจ หรือแผนกที่เกี่ยวข้องกับซัพพลายเออร์
ทักษะของสายอาชีพนี้ที่ต้องมี ได้แก่ Mathematics และ สถิติ, Analytical Skill, Communication Skill, Storytelling, Microsoft Excel และ SQL รวมไปถึงการเข้าใจเรื่องของกระบวนการธุรกิจ ในอนาคตหากอยากเติบโตสายอาชีพนี้ก็สามารถพัฒนาไปยังตำแหน่ง Business Development หรือ Static Analysis ได้เช่นกัน
ฐานเงินเดือนโดยประมาณ : 40,000-80,000 บาท/เดือน
4.Data Scientists
อีกหนึ่งอาชีพที่มาแรง ได้แก่ Data Scientists ที่มองเผิน ๆ อาจคล้ายกับ Data Analyst แต่ความจริงมีความแตกต่างกันอยู่ โดย Data Scientists จะเปรียบเหมือน ‘นักวิทยาศาสตร์ที่ทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูล’ ก่อนจะนำข้อมูลไปสรุปผลออกมาเป็นรายงานที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปต่อยอดในส่วนต่าง ๆ ของธุรกิจ ทั้งการทำตลาด หรือการวางแผนธุรกิจ
หลัก ๆ อาชีพนี้จะทำหน้าที่ 2 ส่วน คือ การวิเคราะห์ผสานโมเดลการทำนายผล และวิเคราะห์เพื่อพัฒนากระบวนการทำงานให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ตลอดจนให้คำปรึกษาและข้อมูลที่แม่นยำแก่ทุกฝ่ายสำหรับนำไปต่อยอดในการกระตุ้นยอดขาย หรือสร้างแคมเปญโปรโมตสินค้าและบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่าเม็ดเงินที่ลงทุนไปมากที่สุด
ทักษะที่ Data Scientists ต้องมีคือ Mathematics และ Statics, Machine Learning, Software Engineering, Data Analysis, Data Visualizations รวมไปถึงการเข้าใจด้านการดำเนินธุรกิจ เป็นต้น ส่วนการต่อยอดในอาชีพสามารถพัฒนาไปยังอาชีพ Data Engineer หรือ Programmer
ฐานเงินเดือนโดยประมาณ : 35,000-80,000 บาท/เดือน
5.Digital Marketing
อาชีพ Digital Marketing เข้ามาบทบาทมากในทำการตลาดในโลกยุคดิจิทัล โดยผู้ที่ทำอาชีพนี้ จะต้องมีความรู้ด้าน Digital Marketing รวมไปถึงสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นได้ เพื่อนำไปใช้ต่อยอดหรือโปรโมตธุรกิจให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้มากขึ้น อีกทั้งยังต้องทำหน้าที่ในการคิดคอนเทนต์ หรือเนื้อหาต่าง ๆ ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัลต่าง ๆ ได้ด้วย
อาชีพนี้ จึงต้องมีทักษะ เช่น Marketing Skill, Technical Skill, Creative Data Analytic Skill, Digital Presentation Skill, Content Creator Skill, E-Commerce, SEO/SEM, Graphic Designer รวมไปถึงความรู้ในการใช้ Tools หรือเครื่องมือออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อโปรโมตและดึงข้อมูลด้านการตลาดออนไลน์ เป็นต้น
ฐานเงินเดือนโดยประมาณ : 30,000-80,000 บาท/เดือน
6.Digital Marketing Analyst
Digital Marketing Analyst จะเป็นอาชีพที่ผสมผสานระหว่าง Data Analyst และ Digital Marketing เข้าไว้ด้วยกัน โดยหน้าที่หลักคือ จะต้องหาข้อมูล Insight เกี่ยวกับตัวผู้บริโภคและลูกค้าของธุรกิจ รวมถึงทำรีเสิร์ชเกี่ยวกับเทรนด์การตลาดในธุรกิจที่ดูแล และนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ ก่อนการทำการตลาดออนไลน์ และทำหน้าที่เสนอแผนงานให้ฝ่าย Sales & Marketing หรือ ฝ่าย Business Development ของบริษัทเพื่อร่วมกันพัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับทักษะที่ Digital Marketing Analyst ควรมี ได้แก่ Data Analytical Skill, Data Visualization, Marketing Skill, Communication Skill, Presentation Skill ตลอดจนการใช้ Tools ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Digital Marketing
ฐานเงินเดือนโดยประมาณ : 50,000-80,000 บาท/เดือน
7.Business Operations
อาชีพ Business Operations จะเน้นการสื่อสารและพัฒนาภายในองค์กรเป็นหลัก โดยจะทำหน้าที่ในการดูแลระบบการทำงานภายในองค์กร คอยจัดการขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ ให้เป็นไปอย่างราบรื่นมีประสิทธิภาพมากที่สุด และป้องกันการเกิดปัญหาภายในองค์กรให้น้อยที่สุด เพราะหากภายในบริษัทมีระบบรากฐานที่ดี ก็จะช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้อาชีพนี้มาแรง เป็นที่ต้องการของตลาด
ผู้ที่ต้องการก้าวสู่สายอาชีพนี้ ต้องมีทักษะ เช่น Business Development, Project Management, Communication Skill หรือ Presentation Skill ฯลฯ และในอนาคต Business Operations ยังสามารถต่อยอดด้านอาชีพไปเป็น Project Manager และ Business Development ได้ด้วย
ฐานเงินเดือนโดยประมาณ : 30,000-50,000 บาท/เดือน
8.Organization Development
แม้ AI จะเข้ามามีบทบาทในโลกการทำงานมากขึ้น แต่เรื่องของการบริหารมนุษย์นั้น ยังไงมนุษย์ด้วยกันเองก็สามารถทำหน้าที่ได้ดีกว่า AI แน่นอน ดังนั้นสายงานด้าน Organization Development จึงไม่มีทางตกเทรนด์ และเป็นอาชีพที่ต้องการในอนาคตต่อไป
สำหรับทักษะที่จำเป็นต้องมีหากอยากจะอยู่ในสายอาชีพนี้ ก็คือ Human Resources, Project Management, Communication Skill, Training Skill หรือ Business Development ฯลฯ
ฐานเงินเดือนโดยประมาณ : 40,000-60,000 บาท/เดือน
9.Cybersecurity
ยุคนี้โลกของเราไม่เพียงต้องเจอการระบาดของโรคภัยแล้ว แต่ยังต้องเผชิญกับการระบาดของมิจฉาชีพออนไลน์หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีกด้วย Cybersecurity จึงเป็นอีกอาชีพที่มาแรง แถมในตอนนี้ยังขาดแคลนในตลาดแรงงานทั่วโลกอีกด้วย
โดยทักษะที่จำเป็นที่ต้องมีสำหรับอาชีพ Cybersecurity ได้แก่ ทักษะ Programming หรือ Coding ความรู้ด้านระบบอินเทอร์เน็ต วิศวกรคอมพิวเตอร์ ทักษะด้านซอฟต์แวร์และการใช้เครื่องมือ Cybersecurity ทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ฯลฯ
ฐานเงินเดือนโดยประมาณ : 60,000-100,000/เดือน
10.Content Creator
Content Creator เป็น ‘อาชีพมาแรงแห่งยุค’ เพราะจะเห็นได้ว่า เป็นอาชีพที่คนต้องการทำและมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากมายในปัจจุบัน ทั้งคนที่ทำอาชีพนี้กันอย่างจริงจัง หรือทำเป็นอาชีพเสริม ซึ่งหากทำแล้วปัง ก็สามารถหารายได้แบบเป็นกอบเป็นกำได้ไม่ยาก
สำหรับทักษะหลัก ๆ ที่ Content Creatorจำเป็นต้องมี ได้แก่ Writing Skill, Copywriting Skill, การพูด, การดำเนินรายการ, การทำกราฟิก, การตัดต่อวิดีโอ, Motion Effect, Marketing Skill, Communication Skill ฯลฯ ซึ่งอาชีพนี้สามารถต่อยอดหรือเติบโตไปเป็น Content Manager, Content Marketing หรือ Creative Director ได้ในอนาคต
ฐานเงินเดือนโดยประมาณ : 25,000-50,000 บาท/เดือน
ที่มา : Jobsb