ต่างประเทศ
เวียดนามเลือก 'พลเอกเลือง เกือง' แห่งกองทัพบกเป็นปธน.คนใหม่
รัฐสภาเวียดนามเลือกพลเอกเลือง เกือง แห่งกองทัพบก เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ในความพยายามสร้างเสถียรภาพทางการเมืองหลังแรงสั่นสะเทือนจากการปรับเปลี่ยนตำแหน่งผู้นำระดับสูงหลายคนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา พลเอกเกือง วัย 67 ปี เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแทน โต
รัฐสภาเวียดนามเลือกพลเอกเลือง เกือง แห่งกองทัพบก เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ในความพยายามสร้างเสถียรภาพทางการเมืองหลังแรงสั่นสะเทือนจากการปรับเปลี่ยนตำแหน่งผู้นำระดับสูงหลายคนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
พลเอกเกือง วัย 67 ปี เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแทน โต แลม ผู้ซึ่งได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเมื่อเดือนพฤษภาคม และได้รับแต่งตั้งให้ควบตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทรงอำนาจมากกว่า ในเดือนกรกฎาคม ภายหลังการอสัญกรรมของ เหงียน ฟู จ่อง เลขาธิการพรรคฯ คนก่อน
พลเอกเกืองได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรคทั้ง 440 คนที่เข้าร่วมการประชุมรัฐสภาในวันจันทร์ จากนั้นเขาได้กล่าวสุนทรพจน์ระหว่างปฏิญาณตนรับตำแหน่ง โดยยืนยันว่าจะเพิ่มศักยภาพทางทหารของกองทัพเพื่อปกป้องความมั่นคง และใช้นโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระและเข้าได้กับทุกฝ่าย
ก่อนหน้านี้ เกืองดำรงตำแหน่งสำคัญในสำนักเลขาธิการของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม โดยอยู่ในลำดับที่ 5 ของผู้นำสูงสุด รองจากเลขาธิการพรรค ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และประธานรัฐสภา ตามลำดับ
นอกจากนี้เขายังเป็นสมาชิกกรรมการโพลิตบูโร ซึ่งเป็นกลุ่มผู้นำที่มีอำนาจการตัดสินใจสูงสุดของเวียดนาม
สำหรับตำแหน่งประธานาธิบดีนั้นแม้จะมีอำนาจบริหารไม่มากนักภายใต้ระบบการเมืองของเวียดนาม แต่ก็ถือเป็นตัวแทนของประเทศในการประชุมระดับสูงต่าง ๆ กับบรรดาผู้นำโลก
ผู้ติดตามการเมืองเวียดนามบางคนเชื่อว่า การที่ โต แลม ตัดสินใจสละตำแหน่งประธานาธิบดีนั้น อาจเป็นสัญญาณของการประนีประนอมอำนาจการปกครองภายในพรรค หลังจากที่เกิดความวุ่นวายในชนชั้นผู้นำตลอด 17 เดือนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากมาตรการปราบปรามคอร์รัปชันที่นำไปสู่การลาออกของประธานาธิบดีสองคนและประธานรัฐสภาอีกหนึ่งคน
โดยการเปลี่ยนแปลงในระดับผู้นำของเวียดนามจะเกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2026 เมื่อบรรดาผู้นำสูงสุดต่างหมดวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปีอีกครั้งในอีก 2 ปีข้างหน้า ที่มา: รอยเตอร์