ต่างประเทศ
ผู้นำโลกร่วมยินดี ‘ทรัมป์’ คว้าชัยเลือกตั้งสหรัฐฯ
ผู้นำโลกแสดงความยินดีกับ โดนัลด์ ทรัมป์ หลังกุมชัยชนะสู่การเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ผ่านพ้นไปในวันอังคาร ทรัมป์ เอาชนะรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต สร้างประวัติศาสตร์ให้กับเขาในการเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนแรก
ผู้นำโลกแสดงความยินดีกับ โดนัลด์ ทรัมป์ หลังกุมชัยชนะสู่การเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ผ่านพ้นไปในวันอังคาร
ทรัมป์ เอาชนะรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต สร้างประวัติศาสตร์ให้กับเขาในการเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกันสมัยใหม่ ที่หวนคืนสู่ทำเนียบขาวได้สำเร็จหลังว่างเว้นไปเป็นเวลา 4 ปีก่อนหน้านี้
ผู้นำโลกทยอยโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ X แสดงความยินดีกับทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งมีนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” (America First) ที่กระทบต่อความสัมพันธ์กับพันธมิตรและคู่ขัดแย้งของอเมริกา ในช่วงการดำรงตำแหน่งผู้นำทำเนียบขาวสมัยแรก
เริ่มที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ที่เป็นพันธมิตรอเมริกาประเทศแรก ๆ ที่ส่งข้อความสนับสนุน และยกย่อง “การกลับมาครั้งประวัติศาสตร์” ของทรัมป์ ซึ่งได้มอบ “ความมุ่งมั่นอันทรงพลังต่อความเป็นพันธมิตรอันยิ่งใหญ่ระหว่างอิสราเอลและอเมริกา”
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ซึ่งออกมาเรียกร้องให้สหรัฐฯ และชาติตะวันตกส่งความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นในการต่อสู้กับการรุกรานของรัสเซีย ได้กล่าวว่า ความมุ่งมั่นของทรัมป์ในการ ‘สร้างสันติภาพผ่านความเข้มแข็ง’ ในกิจการโลก และว่า “นี่คือหลักการที่สามารถนำสันติภาพมาสู่ยูเครนได้”
มาร์ค รุตเทอ เลขาธิการองค์การนาโต้ พันธมิตรการทหารชาติตะวันตกที่ทรัมป์เคยวิจารณ์มาตลอดว่าไม่เข้าจัดการด้านกลาโหมในยุโรปมากพอนั้น ได้แสดงความยินดีต่อทรัมป์ด้วยเช่นกัน โดยระบุว่า “ความเป็นผู้นำของเขา(ทรัมป์)จะเป็นกุญแจในการทำให้พันธมิตรของเราเข้มแข็งอีกครั้ง ผมตั้งตารอคอยที่จะทำงานร่วมกับเขาอีกครั้งในการเดินหน้าสร้างสันติภาพด้วยความเข้มแข็งในองค์การนาโต้”
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง แห่งฝรั่งเศส ได้แสดงความยินดีต่อทรัมป์เช่นกัน โดยกล่าวว่าตน “พร้อมทำงานร่วมกันเหมือนที่เคยเป็นมาถึง 4 ปี ... ด้วยความเชื่อมั่นของคุณและผม”
นายกรัฐมนตรีอังกฤษเคียร์ สตาร์เมอร์ กล่าวว่ารัฐบาลของตนจะยืนหยัด “เคียงบ่าเคียงไหล่” ในการปกป้องคุณค่าของเสรีภาพ ประชาธิปไตย และความมุ่งมั่นที่มีร่วมกัน “ตั้งแต่การเติบโตและความมั่นคง ไปจนถึงด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ผมรู้ว่าความสัมพันธ์อันพิเศษระหว่างอังกฤษและสหรัฐฯ จะยังคงเติบโตในทั้งสองฝั่งของแอตแลนติกในอีกหลายปีต่อจากนี้”
ด้านเออร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป แสดงความยินดีกับทรัมป์ และยกย่อง “ความเป็นหุ้นส่วนที่แท้จริง” ระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ แม้ว่าในยุคทรัมป์สมัยแรกนั้น จะมีความบาดหมางระหว่างอียูและสหรัฐเกิดขึ้น และส่วนหนึ่งมาจากการบังคับใช้มาตรการกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรปก็ตาม
ฝั่งนายกรัฐมนตรีฮังการี วิกเตอร์ ออร์บาน พันธมิตรสายอนุรักษ์นิยมของทรัมป์ เรียกชัยชนะของอดีตผู้นำสหรัฐฯ รายนี้ว่าเป็น “การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน” และว่าเป็น “ชัยชนะที่ต้องการอย่างยิ่ง” บนโลกนี้
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ยังไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ แต่ในสื่อสังคมออนไลน์ X อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ดมิทรี เมดเวเดฟ แสดงความพอใจกับความปราชัยของแฮร์ริส โดยโพสต์ว่า “คามาลาจบแล้ว ... ปล่อยให้เธอหัวเราะเยาะต่อไป”
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโธนี อัลบาเนซี กล่าวว่า “ชาวออสเตรเลียและอเมริกันเป็นมิตรที่ดีและพันธมิตรที่แท้จริง”
ส่วนนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี แสดงความยินดีกับทรัมป์ ผู้ที่โมดีเรียกว่าเป็นเพื่อนของเขาว่า “ระหว่างที่คุณกำลังต่อยอดความสำเร็จจากวาระก่อนหน้า ผมรอคอยที่จะทบทวนความร่วมมือในการเสริมสร้างความสัมพันธ์สหรัฐฯ-อินเดียที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
ประธานาธิบดีเฟอร์ดินาน มาร์กอส จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ ได้ระบุในแถลงการณ์ แสดงความหวังว่า “ความเป็นพันธมิตรที่ไม่มีวันสั่นคลอน” ระหว่างรัฐบาลวอชิงตันและรัฐบาลมะนิลา “จะเป็นขุมพลังที่จะจุดประกายเส้นทางแห่งความเจริญรุ่งเรืองและมิตรภาพในภูมิภาคและทั้งสองฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก”
ปิดท้ายที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย โพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ X ว่า “ดิฉันขอแสดงความยินดีกับท่านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และ สว. เจดี แวนซ์ สำหรับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดิฉันพร้อมทำงานร่วมกับท่าน ในการส่งเสริมความเป็นพันธมิตรระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่มีมาอย่างยาวนานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ที่มา: วีโอเอ