ศาลเกาหลีใต้อนุมัติการออกหมายจับประธานาธิบดียูน ซุก ยอล ผู้ถูกถอดถอนและกำลังเผชิญข้อหาก่อกบฏ จากความพยายามประกาศกฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคม ศาลแขวงกรุงโซลออกหมายจับในวันอังคาร ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการจับกุมประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่อยู่ในตำแหน่ง โดยยูนนั้นถูกถอดถอนเมื่อเดือนธันวาคม และถูกระงับสถานะประธานาธิบดีเอาไว้ชั่วคราวในช่วงที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาคดีนี้ นอกจากการถูดถอดถอนแล้ว ยูนยังถูกคณะกรรมาธิการร่วมของรัฐบาลสอบสวนในข้อหาก่อกบฏล้มล้างรัฐบาล และใช้อำนาจในทางมิชอบด้วย โดยก่อนหน้านี้ ยูนถูกเรียกมาตอบคำถามของคณะกรรมาธิการดังกล่าวแล้วสามครั้ง แต่มิได้ปรากฏตัว ทำให้ศาลต้องออกหมายจับในวันอังคาร เจ้าหน้าที่จะมีเวลา 48 ชม. หลังจากที่มีการจับกุมตัวผู้นำเกาหลีใต้ผู้นี้ เพื่อตัดสินใจว่าจะยื่นให้มีการควบคุมตัวเขาไว้ต่อไป หรือปล่อยเป็นอิสระ ตามรายงานของสื่อยอนฮับของเกาหลีใต้ ด้านทนายความของยูนมีคำแถลงว่า การออกหมายจับครั้งนี้ "ผิดกฎหมาย" และจะยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งห้ามการออกหมายจับนี้ พร้อมปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือในกระบวนการสอบสวน ทั้งนี้ หมายจับจะมีผลบังคับใช้ถึงวันจันทร์หน้า แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเริ่มดำเนินการจับกุมเมื่อใด และเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติตามอย่างแข็งกร้าวแค่ไหน จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประธานาธิบดียังคงไม่ยินยอมให้ผู้ตรวจสอบเข้าไปค้นในเขตทำเนียบประธานาธิบดีและบ้านพักของปธน.ยูน ตามคำสั่งของศาลแต่อย่างใด สื่อ Chosun Ilbo ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากในกลุ่มอนุรักษ์นิยมเกาหลีใต้ ตีพิมพ์บทบรรณาธิการในวันอังคาร กดดันให้ปธน.ยูน ปฏิบัติตามหมายจับและคำสั่งของเจ้าหน้าที่สอบสวน และว่า "การขัดขืนหมายจับเป็นการละเมิดกฎหมาย และอาจนำไปสู่การเผชิญหน้า" พร้อมเรียกร้องให้ยูนเจ้าสู่กระบวนการสอบสวนอย่าง "มีศักดิ์ศรี" ภายใต้รัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ ประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่งจะได้รับการคุ้มครองจากการถูกดำเนินคดี ยกเว้นคดีที่เกี่ยวข้องกับการก่อกบฎหรือขายชาติ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ปธน.ยูน ประกาศใช้กฎอัยการศึก แต่ถูกรัฐสภาลงมติคว่ำคำประกาศดังกล่าวภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ยูนยืนยันว่าการประกาศกฎอัยการศึกนั้นเป็นการส่งข้อความไปถึงศัตรูทางการเมืองของเขา ผู้ที่ยูนกล่าวหาว่าฝักใฝ่เกาหลีเหนือ แต่ฝั่งตรงข้ามของเขากล่าวหาว่า ยูนพยายามนำระบอบเผด็จการทหารกลับมาปกครองประเทศ และจำเป็นต้องขับเขาออกจากตำแหน่งให้เร็วที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้มีเวลา 180 วันในการตัดสินว่าจะรับรองการถอดถอนยูนหรือไม่ โดยตุลาการที่เหลืออยู่หกคนจะต้องมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยืนยันการถอดถอนปธน.ยูน เอาไว้ ความวุ่นวายทางการเมืองของเกาหลีใต้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ค่าเงินวอนลดลงไปอยู่ที่จุดต่ำสุดในรอบ 16 ปีเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ก่อให้เกิดความกังวลต่อปัญหาเงินเฟ้อครั้งใหญ่ ที่มา: วีโอเอ