เจ้าหน้าที่มาเลเซียเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ว่า ได้สกัดเรือสองลำที่บรรทุกชาวโรฮีนจาจากเมียนมาเกือบ 300 คนไม่ให้เข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย สำนักงานควบคุมทางทะเลของมาเลเซีย กล่าวว่า ได้รับข้อมูลว่ามีเรือสองลำที่พยายามจะลักลอบเข้าประเทศในสุดสัปดาห์นี้ หลังจากเมื่อวันศุกร์มีเรือลำหนึ่งที่มีชาวโรฮีนจาโดยสารมาด้วย 196 คน ขึ้นบกที่ชายหาดแห่งหนึ่งบรเกาะลังกาวีทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งผู้ลักลอบเข้าเมืองทั้งหมดถูกเจ้าหนา้ที่ควบคุมตัวไว้แล้ว ทางการมาเลเซียระบุว่า เจ้าหน้าที่พบว่ามีเรืออีกสองลำลอยลำอยู่นอกชายฝั่งลังกาวีเมื่อคืนวันศุกร์ ซึ่งผู้คนบนเรือซึ่งเชื่อว่าเป็นชาวมุสลิใโรฮีนจาจากเมียนมามีสภาพอิดโรย รวมทั้งขาดแคลนอาหารและน้ำ โมฮัมหมัด โรซิล อับดุลลาห์ หัวหน้าสำนักงานควบคุมทางทะเลของมาเลเซีย แถลงว่า ได้มีการจัดส่งความช่วยเหลือให้กับเรือทั้งสองลำนั้น รวมถึงอาหารและน้ำดื่ม ก่อนที่จะประกบเรือทั้งสองลำให้ออกไปจากน่านน้ำของมาเลเซีย โดยมิได้ระบุว่าเรือดังกล่าวจะมุ่งหน้าไปทางไหน  ก่อนหน้านี้ ชาวมุสลิมโรฮีนจาจำนวนมากที่ลี้ภัยไปยังบังกลาเทศ ถูกล่อลวงให้ลงเรือเพื่อไปยังประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยเฉพาะมาเลเซียและอินโดนีเซียที่เป็นประเทศมุสลิม ปัจจุบัน คาดว่ามีชาวโรฮีนจาอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยตามแนวพรมแดนเมียนมา-บังกลาเทศ มากกว่าหนึ่งล้านคน ที่หลบหนีจากความรุนแรงในรัฐยะไข่ของเมียนมา  ในอดีต แม้มาเลเซียยอมรับผู้ลี้ภัยโรฮีนจาจำนวนมากเข้าประเทศเนื่องจากเหตุผลด้านมนุษยธรรม แต่ขณะนี้ทางการกรุงกัวลาลัมเปอร์พยายามจำกัดจำนวนผู้ลี้ภัยเพราะหวาดกลัวว่าจะมีผู้อพยพมากเกินไป จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา คาดว่ามีผู้ลี้ภัยและผู้อพยพชาวโรฮีนจาในเมเลเซียราว 111,410 คน หรือราว 58% ของจำนวนผู้ลี้ภัยทั้งหมดในมาเลเซีย  ที่มา: เอพี