motortrivia

●   ต่อจากการเผยโฉม เครื่องยนต์ Ultra Performance V8 Hybrid เพื่อแทนที่เครื่องยนต์ W12 เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ได้ประกาศยุติรับคำสั่งจองรถที่ใช้งานเครื่องยนต์ V8 ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Bentley Continental GT V8 ตัวถังคูเป้, Bentley Continental GTC V8 ตัวถังเปิดประทุน หรือ Bentley Flying Spur V8 โดยภูมิภาคแรกที่จะได้รับมอบรถรุ่นเครื่องยนต์ V8 เจเนอเรชันปัจจุบันหลังการผลิตลอทสุดท้าย คือ สหราชอาณาจักร, ยุโรป, ตะวันออกกลาง, แอฟริกา, อินเดีย, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ไต้หวัน, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

●   อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ V8 ความจุ 4.0 ลิตร ทวิน-เทอร์โบชาร์จ รุ่นปัจจุบัน จะยังคงใช้งานใน Bentley Bentayga ต่อไปอีกสักพัก ในขณะที่ Bentley Continental GT / GTC V8 และ Bentley Flying Spur V8 ลอทสุดท้ายจะมีให้เฉพาะในออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, นิวซีแลนด์, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน และเวียดนาม ซึ่งการผลิตและส่งมอบจะมีขึ้นภายในเดือนมิถุนายน 2024

●   ทั้งนี้ การยุติรับคำสั่งจอง Continental GT และ Flying Spur ที่ใช้งานเครื่องยนต์ V8 นับเป็นก้าวสำคัญของ กลยุทธ์องค์กร “Beyond100” ซึ่งเบนท์ลีย์จะปูทางให้รถยนต์ทุกรุ่นภายใต้แบรนด์เบนท์ลีย์เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ไฮบริดภายในปี 2024 เช่นเดียวกับ Bentayga Hybrid และ Flying Spur Hybrid ที่ทำตลาดอยู่ ณ เวลานี้ (ชื่อรุ่นไฮบริดของเบนท์ลีย์หมายถึงระบบขับเคลื่อนแบบ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด)

●   สำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายแบบเบนซิน V8 สูบ นับเป็นเครื่องยนต์มีบทบาทอย่างมากในการเป็นต้นกำลังของรถเบนท์ลีย์หลายรุ่นตลอด 75 ปีที่ผ่านมา โดยเครื่องยนต์ L-Series V8 บล็อคแรกได้เริ่มใช้งานใน Bentley S2 ตั้งแต่ช่วงปี 1959 จนถึงปี 1962 เครื่องยนต์บล็อคนี้มีความจุ 6.2 ลิตร กำลังสูงสุดประมาณ 180 แรงม้า และมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเครื่องยนต์ V8 เจเนอเรชั่นล่าสุดนั้น สามารถผลิตกำลังได้มากกว่าถึง 3 เท่าตัว โดยใช้ปริมาตรความจุกระบอกสูบเพียง 2 ใน 3 เท่านั้น

●   นับจากการเปิดตัวเครื่องยนต์ V8 ความจุ 4.0 ลิตรในปี 2012 เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ได้ผลิต Continental GT V8, Continental GTC V8 และ Flying Spur V8 มาแล้วมากกว่า 53,000 คัน ซึ่งทั้งหมดได้ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยช่างฝีมือ ณ โรงงานเบท์ลีย์ในเมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ

●   รถเบนท์ลีย์ยุคปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 มีกำลัง, แรงบิด และเสียงเครื่องยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีเรนจ์การหยุดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่กว้างขึ้น และยังมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียที่ลดลงเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ W12 สูบด้วย แนวคิดหลักๆ ในการออกแบบเครื่องยนต์ V8 ของเบนท์ลีย์คือ มีแรงบิดสูง และคายมลพิษต่ำ โดยเครื่องยนต์ V8 รุ่นปัจจุบันผลิตกำลังสูงสุดได้ 550 แรงม้า (PS, 542 bhp, 404 kW) แรงบิดสูงสุด 78.4 กก.-ม. เริ่มที่รอบต่ำเพียง 2,000 รอบ/นาที และยังทีการเสริมกำลังด้วยเทอร์โบชาร์จแบบ Twin-scroll ยังผลให้เครื่องยนต์ V8 เจนเนอเรชั่นนี้มีกำลังสัมพัทธ์ (หรือแรงม้าสัมพัทธ์ในเชิงความจุ หรือ Specific Horsepower หรือ Specific Output) มากกว่า 135 แรงม้า/ลิตร

●   ส่วนในบ้านเรา เบนท์ลีย์ แบงค็อก จะยังคงจำหน่าย Bentley Bentayga Hybrid และ Bentley Flying Spur Hybrid (ปลั๊ก-อิน ไฮบริด) ซึ่งใช้เครื่องยนต์ V6 ความจุ 3.0 ลิตร จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้าต่อไปอีกระยะหนึ่ง ราคาเริ่มต้นที่ 13.7 ล้านบาท ข้อเสนอพิเศษมีโปรแกรม Crafting Your Dream Offers ออกแบบแผนการเงินเองได้ พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน, สิทธิ์ต่อการรับประกัน หรือ Bentley Extended Warranty สูงสุด 4 ปี และบริการผู้ช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง Bentley Roadside Assistance นาน 3 ปี

●   สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ เบนท์ลีย์ แบงค็อก (บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด) โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 หรือแอด LINE Official Account : @bentleybangkokaas  ●

The post Bentley ยุติการรับจองรุ่นรถที่ติดตั้งเครื่องยนต์ V8 ในเอเชีย แปซิฟิก appeared first on motortrivia.