Leapmotor C10 รถไฟฟ้าที่ลงตัวกับการใช้งานส่วนใหญ่
เรื่อง – วีดิโอ : นาธัส แสงสุริยะ ● Leapmotor เป็นรถจากประเทศจีนในเครือ Stellantis ที่มีรถในเครือหลายยี่ห้อ เช่น อัลฟ่า โรมิโอ, ซีตรอง, จี๊ป, เปอร์โยต์, มาเซราติ, โอเปิ้ล และ RAM โดย Leapmotor ทำตลาดในเมืองไทยผ่านตัวแทนจำหน่ายที่คุ้นเคยก
เรื่อง – วีดิโอ : นาธัส แสงสุริยะ
● Leapmotor เป็นรถจากประเทศจีนในเครือ Stellantis ที่มีรถในเครือหลายยี่ห้อ เช่น อัลฟ่า โรมิโอ, ซีตรอง, จี๊ป, เปอร์โยต์, มาเซราติ, โอเปิ้ล และ RAM โดย Leapmotor ทำตลาดในเมืองไทยผ่านตัวแทนจำหน่ายที่คุ้นเคยกันดีอย่าง พระนครยนตรการ ซึ่งอยู่ในธุรกิจยานยนต์ไทยมากว่า 50 ปี ปัจจุบันมี 11 บริษัทในเครือ ทั้งการผลิตชิ้นส่วน, การประกอบ (บริษัท บางชัน เยนเนอเรล เอเซมบลี จำกัด), การนำเข้าและจัดจำหน่าย, การเช่ารถยนต์ (บริษัท ไทยเพรสทิจ เร้นท์ เอ คาร์ จำกัด), ศูนย์บริการ และการให้สินเชื่อ ครอบคลุมอุตสาหกรรมยานยนต์ครบวงจร
ภายนอกเรียบง่ายทันสมัย
● สำหรับ Leapmotor รุ่น C10 เป็นครอสโอเวอร์ขนาดกลาง สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม 800V ชื่อ Leap 3.0 Architecture ชูจุดเด่นเรื่องการขับที่ให้ฟีลลิ่งความเป็นรถยุโรป จากระบบช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ที่ได้รับการวิจัยและพัฒนาโดยทีมวิศวกรของมาเซราติ รถยุโรประดับหรูในเครือ Stellantis ตัวรถออกแบบเน้นความโค้งมนกลมกลืนตลอดคัน ชุดไฟหน้าและไฟเดย์ไทม์ LED ไฟหน้ามีระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ, ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า, ไฟสูงอัตโนมัติ มีระบบ Follow Me Home และมีไฟตัดหมอกด้านหน้า กระจังหน้าแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ (AGS) ส่วนชุดไฟท้ายก็เป็นแบบ LED มีลูกเล่นไฟวิ่ง กับชุดแถบไฟ LIGHT BAR คาดยาวตลอดด้านหลัง มีไฟตัดหมอกหลังและไฟถอยหลังอย่างละ 2 ดวง
● ด้านข้างดูสวยสมส่วน ให้ล้อแม็กรุ่น TRIDENT ขนาดใหญ่ 20 นิ้ว ยาง 245/45 R20 มีระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง TPMS กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว มีฟังก์ชั่นพับอัตโนมัติพร้อมระบบไล่ละอองน้ำด้วยความร้อน, ปรับมุมลงต่ำเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง และสัมพันธ์กับหน่วยความจำของเบาะนั่ง ที่เปิดประตูแบบซ่อน, กระจกประตูคู่หลังแบบ PRIVACY, หลังคาพาโนรามิกรูฟพร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า, แร็คหลังคา, เสาอากาศแบบครีบฉลาม, สปอยเลอร์หลังคา พร้อมที่ปัดน้ำฝนหลังแบบซ่อน และประตูท้ายไฟฟ้า
● ตัวรถมีความยาว 4,739 มิลลิเมตร กว้าง 1,900 มิลลิเมตร สูง 1,680 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,825 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 190 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,980 กิโลกรัม
● ภายนอกมีให้เลือก 5 สี คือ เขียว GLAZED GREEN, ขาว PEARLY WHITE, เทาเข้ม CANOPY GREY, เทาอ่อน TUNDRA GREY และดำ METALLIC BLACK
ห้องโดยสารกว้างขวางคุณภาพดี
● ภายในสไตล์มินิมอล มี 2 สีให้เลือกได้อย่างอิสระ ไม่อิงกับสีภายนอก คือ CRIOLLO BROWN โทนสีออกส้ม และ MIDNIGHT AURORA สีเทาเข้ม ใช้วัสดุแบบ Soft Touch เป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ใช้วัสดุสังเคราะห์ที่ให้สัมผัสนุ่มนวล ผ้าหุ้มเบาะซิลิโคนที่ปลอดภัยต่อเด็กตามมาตรฐาน OEKO-TEX@ STANDARD 100 หลังคากระจกพาโนรามิกซันรูฟบานใหญ่ ไม่มีคานคั่นกลาง ขนาด 2.1 ตารางเมตร
● ชุดมาตรวัดแบบ HD ขนาด 10.25 นิ้ว ส่วนจอกลางระบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว ความละเอียด 2.5K ระบบปฏิบัติการ LEAP OS 4.0 Qualcomm SnapdragonTM 8155 ทำงานร่วมกับกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา พร้อมระบบแสดงภาพรถแบบโปร่งใส มีระบบนำทางแบบ Real-Time รองรับคำสั่งเสียงแบบ 2 โซน มีการปล่อยสัญญาณ WI-FI 4G ในรถ ระบบตัดเสียงรบกวนด้วยไมโครโฟน 2 ตัว พร้อมลำโพงคุณภาพสูง 12 ตัว มีไฟแอมเบี้ยนไลท์ปรับสีได้ หรือจะให้ปรับตามจังหวะเพลงก็ได้
● พวงมาลัย 2 ก้านมัลติฟังก์ชั่นปรับ 4 ทิศทาง ยังมีก้านบนคอพวงมาลัยที่คุ้นเคย ฝั่งขวาเป็นเกียร์ ฝั่งซ้ายเป็นไฟเลี้ยวและที่ปัดน้ำฝนหน้า-หลัง เบาะผู้ขับแบบปรับไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชันเลื่อนเบาะอัตโนมัติ ไปยังตำแหน่งที่กำหนดไว้ เบาะผู้โดยสารด้านหน้าก็ไฟฟ้า มีระบบทำความร้อนและระบายอากาศ หมอนรองศีรษะถอดได้ พนักพิงปรับเอนได้ 180 องศาสำหรับการนอนในรถ เห็นห้องโดยสารดูเรียบๆ แต่มีช่องเก็บของถึง 18 จุด และที่วางแก้ว 8 ตำแหน่ง
● ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 2 โซน ช่องแอร์แบบซ่อน พร้อมกรองแอร์แบบคอมโพสิตประสิทธิภาพสูง คอนโซลกลางแบบ 2 ชั้น ด้านบนมีแท่นชาร์จไร้สาย ด้านล่างมีช่องจ่ายไฟฟ้า USB-A, USB-C และ ช่อง 12 โวลต์ กระจกไฟฟ้าแบบ One-Touch พร้อมระบบป้องกันการหนีบ เบาะหลังกว้างขวางทั้งพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะ พนักพิงเบาะหลังปรับเอน 2 จังหวะด้วยระบบกลไก และแยกพับได้แบบ 60:40 มีช่องแอร์สำหรับเบาะแถวหลังพร้อม ช่องจ่ายไฟฟ้า USB-A, USB-C ที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุ 435 ลิตร และเพิ่มเป็น 900 ลิตรเมื่อพับพนักพิงเบาะหลังลง ใช้วัสดุคุณภาพดี ดูแน่นหนาแข็งแรง ฟังก์ชั่นครบครันทั้งไฟส่องสว่าง ม่านบังสายตา ตะขอเกี่ยว และช่องใส่ของ
จัดเต็มระบบความปลอดภัย
● ปลอดภัยตั้งแต่โครงสร้างที่ทนทานต่อแรงบิดได้ถึง 42,500 นิวตันเมตรต่อองศา ออกแบบให้เซลล์แบตเตอรี่ยึดติดอยู่กับแชสซีส์ 2.0 แข็งแรงปลอดภัย และเพิ่มระยะต่ำสุด ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย E-NCAP ระดับ 5 ดาว ระบบความปลอดภัยมีทั้งถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ประกอบด้วยด้านคนขับ ถุงลมนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับเบาะคู่หน้า ม่านถุงลมนิรภัย (แถว 1 และ 2, ด้านซ้ายและขวา) และถุงลมนิรภัยด้านข้างของที่นั่งด้านใน ทำงานร่วมกับ เข็มขัดนิรภัยแบบจำกัดแรงดึงกลับ 2 จุดของเบาะนั่งแถวหน้า เข็มขัดนิรภัยแบบจำกัดแรงดึงกลับ 3 จุดด้านหลัง รองรับการติดตั้งเบาะนั่งเด็กระบบ ISOFIX ระบบปลดล็อกอัตโนมัติเมื่อเกิดการชน ระบบแจ้งเดือนลืมปิดประตู และระบบล็อกป้องกันเด็กเปิดประตูแบบกลไก 2 ชั้น
● ระบบความปลอดภัยขั้นสูง ADAS L2 จัดเต็มทั้ง ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบแปรผัน (ACC), ระบบควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลน (LCC), ระบบช่วยเหลือผู้ขับในสภาพจราจรหนาแน่น (TJA), ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW), ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB), ระบบตรวจสอบจุดอับสายดา (BSD), ระบบเตือนการเปิดประตู (DOW), ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน (ELK), ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDW), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA), ระบบเตือนการชนด้านหลัง (RCW), ระบบเตือนการถอยหลังและช่วยเบรกขณะออกจากช่องจอด (RCTA + RCTB), ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ISA), ระบบแจ้งเตือนผู้ขับเกิดภาวะง่วงซึม (DDAW) และระบบเตือนผู้สูญเสียสมาธิแบบขั้นสูง (ADDW) ซึ่ง 2 ระบบหลังดูจะขยันทำงานมากไปนิด แค่ละสายตามองจอกลางนานแค่แว่บเดียว ระบบก็เตือนแล้ว
แรงพอสนุก ช่วงล่างดี
● ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร กำลัง 160 กิโลวัตต์ หรือ 218 แรงม้า (PS) แรงบิด 320 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้แบตเตอรี่ LFP ความจุ 69.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขับได้ 477 กิโลเมตร (NEDC) หรือ 420 กิโลเมตร (WLTP) รองรับการชาร์จออนบอร์ด 6.6 กิโลวัตต์ ชาร์จไฟฟ้า DC 84 กิโลวัตต์ ชาร์จ DC จาก 30-80 เปอร์เซ็นต์ ใน 30 นาที มีระบบจ่ายไฟฟ้าออก VEHICLE TO LOAD หรือ V2L
● ระบบกันสะเทือนอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต ด้านหลังมัลติลิงก์ ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ มีระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC), ไดนามิกเบรก (DBF), ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะออกตัวบนทางลาดชัน (HHC), ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (ARP), ระบบป้องกันรถไหลอัตโนมัติ (AVH), ระบบช่วยหยุดรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ (MCB), ระบบเบรกโอเวอร์ไรด์ (BOS) และระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (ESS)
คุณธวัชชัย จึงสงวนพรสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท พระนครยนตรการ จำกัด
ลองขับอย่างปลอดภัยในสนามแข่ง
● กิจกรรมทดลองขับ LEAPMOTOR C10 Media Driving Experience 2024 จัดขึ้นในสนามแข่งปทุมธานี สปีดเวย์ เพื่อให้ได้ลองสมรรถนะด้านต่างๆ อย่างเต็มที่และปลอดภัย เริ่มจากปรับท่านั่งให้ถูกต้องและสบาย ปรับแล้วรู้สึกว่าเป็นรถที่นั่งสบาย มุมข้อเท้าที่กดคันเร่งและเบรก ไม่พับชันมาก สุภาพสตรีร่างเล็กก็น่าจะขับได้สบาย ทัศนวิสัยรอบคันโปร่งโล่ง เบาะกระชับหนานุ่มกำลังดี อยากได้เพิ่ม 2 อย่างคือ เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าปรับระดับได้ กับกระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ
● อัตราเร่งที่ได้ลองทั้งในโหมด Normal, Eco และ Sport ซึ่งก็เป็นไปตามคาดคือ โหมด Sport จะเร่งได้ทันใจที่สุด แต่ที่น่าแปลกใจคือ หลังจากผ่านสถานีอัตราเร่งไปแล้ว ลองใช้โหมด Sport ต่อเนื่อง ดูว่าไม่มีรถตามหลังแล้วลองขับความเร็วต่ำ ก็ไม่มีอาการกระชากกระตุกเหมือนโหมด Sport ในรถบางรุ่น ยังขับความเร็วต่ำได้อย่างนุ่มนวล ลองขับไหลๆ แล้วเร่งออกตัว ก็ทันใจกว่าอีก 2 โหมด คิดว่าถ้าขับใช้งานจริง ขับในเมืองที่รถติด จะใช้โหมด Sport ก็น่าจะได้ จุดที่แตกต่างเมื่อใช้โหมด Sport ก็คือ รู้สึกว่าพวงมาลัยหนักขึ้นเล็กน้อย และเมื่อผ่อนคันเร่งการหน่วงก็เพิ่มขึ้นด้วย
● พ้นจากลองอัตราเร่ง เป็นสถานีเปลี่ยนเลนกะทันหัน ไม่ได้ใช้ความเร็วสูงมากนัก รู้สึกว่าตัวรถมีอาการโคลงไม่มาก เปลี่ยนเลนได้คล่องและเบาแรง จากนั้นขับไปจอดรอสัญญาณจากเจ้าหน้าที่ เข้าสู่สถานี Handling มีโค้งแคบให้ลอง แต่ก็ใช้ความเร็วเกินจากการใช้งานปกติไปไม่มากนัก ลองเติมคันเร่งหนักๆ ในขณะที่พวงมาลัยยังหมุนคาอยู่ที่องศาค่อนข้างเยอะ รู้สึกถึงการพุ่งของรถที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่มีทีท่าว่าจะเสียการทรงตัว รถยังอยู่ในการควบคุม แค่ต้องออกแรงบังคับพวงมาลัยเพิ่มขึ้นหน่อย และตัวรถไม่โคลงมากจนน่าหวาดเสียว
● ต่อเนื่องด้วยการลองเรื่องการเก็บเสียงและความสั่นสะเทือน ใช้ความเร็วประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับผ่านเชือกที่คาดกั้นถนนไว้ ตัวรถซับแรงได้ดีเมื่อเทียบกับขนาดยาง 245/45/20 มีความรู้สึกหนักแน่น ค่อนไปทางแข็งนิดๆ และไม่ยวบยาบ ต่อด้วยการหักหลบฉุกเฉิน ก็ยังรู้สึกว่าพวงมาลัยเบาไปนิดอยู่ดี ทำให้ช่วงแรกที่ขับยังไม่ค่อยมั่นใจ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในโหมด Normal หรือ Eco พวงมาลัยจะหวิวๆ ไปนิดเวลาเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน ขับวนหลายรอบสร้างความเคยชิน ก็รู้สึกดีขึ้นพอสมควร
● ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ ทำงานได้ตามมาตรฐาน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะปรับระบบหน่วงไว้เยอะหน่อย ขับในสนามหลายรอบ แทบไม่ต้องยกเท้ามาเหยียบเบรกเลย แค่ผ่อนคันเร่งล่วงหน้าก่อนเข้าโค้ง รถก็ชลอความเร็วให้เข้าโค้งได้อย่างปลอดภัย เมื่อออกจากโค้งก็กดคันเร่งต่อได้เลย ระบบนี้ทำให้ขับได้สบายขึ้น ไม่ต้องสลับเท้าขวาไปมา ลดความเมื่อยล้าเวลารถติดได้เป็นอย่างดี
● เรื่องเมนูหน้าจอและฟังก์ชั่นการใช้งานอื่นๆ ได้ลองเปิดลองใช้แค่ช่วงสั้นๆ ลองย้ายไปนั่งเบาะหลัง กับความสูงผู้โดยสาร 169 เซนติเมตร รู้สึกโปร่งโล่งสบาย ส่วนหนึ่งน่าจะเพราะหลังคากระจกบานใหญ่ และพื้นที่ด้านหลังก็กว้างขวางเกินขนาดรถ พื้นห้องโดยสารด้านหลังแบบเรียบ พนักพิงเบาะหลังปรับมุมเอนได้ พื้นที่วางขาวางเท้าเหลือเฟือ ไม่ต้องซุกเท้าเข้าใต้เบาะหน้า หลังคาไม่ได้ลาดลงมาก ทำให้พื้นที่เหนือศีรษะกว้างขวาง ระยะหัวไหล่ก็กว้าง แต่ถ้านั่งหลัง 3 คน ก็น่าจะลดความสบายลงไปพอสมควร
กลมกล่อมกับการใช้งาน
● Leapmotor C10 รูปลักษณ์ภายนอกเรียบง่าย ไม่หวือหวา ดูได้นานโดยไม่เบื่อ มิติตัวรถกำลังกระชับ ไม่ใหญ่เทอะทะ และไม่เล็กจนกระทบพื้นที่ใช้สอยภายใน ยกสูงสไตล์ครอสโอเวอร์ ขึ้นลงสะดวกไม่ต้องตะกาย ระยะต่ำสุด 190 มิลลิเมตร ช่วยให้อุ่นใจเวลาขับผ่านน้ำรอการระบาย พละกำลังไม่แรงดุเดือด แต่ขับสนุก ตอบสนองดีผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหลัง เหลือเฟือกับการใช้งานตามสไตล์รถ ห้องโดยสารกว้างขวาง วัสดุดี อุปกรณ์ครบ ช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ หนึบแน่น ขับได้อย่างมั่นใจ เปิดราคาน่าสนใจ 1.098 ล้านบาท
● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่เว็บไซท์ : www.leapmotor-international.co/th หรือติดต่อ Leapmotor Thailand Customer Support โทร. +66-2-561-5000 เวลาทำการฝ่ายบริการลูกค้า จันทร์ – อาทิตย์ 8:00 – 18:00 น. หรืออี-เมล : customerservice@pnagroup.com ●
Group Test : 2024 Leapmotor C10
The post Leapmotor C10 รถไฟฟ้าที่ลงตัวกับการใช้งานส่วนใหญ่ appeared first on motortrivia.