ความก้าวหน้าล่าสุดของ Aruba ESP ช่วยให้องค์กรขนาดใหญ่สามารถเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยได้ครอบคลุมจาก Edge ไปจนถึง Cloud
ด้วยการผสานแนวทาง Zero Trust และ SASE เข้าด้วยกัน องค์กรขนาดใหญ่จึงสามารถเร่งการปรับปรุงประสิทธิภาพของ WAN และเสริมความมั่นคงปลอดภัยให้ระบบเครือข่ายให้ดียิ่งขึ้น, พร้อมเปิดรับการใช้งานระบบ Cloud และ IoT ที่ก้าวหน้า ไปจนถึงช่วยการทำ Digital Transforma
- Apr 28 2021
- 147
- 4567 Views
ด้วยการผสานแนวทางZero Trust และ SASE เข้าด้วยกัน
องค์กรขนาดใหญ่จึงสามารถเร่งการปรับปรุงประสิทธิภาพของ WAN และเสริมความมั่นคงปลอดภัยให้ระบบเครือข่ายให้ดียิ่งขึ้น,
พร้อมเปิดรับการใช้งานระบบ Cloud และ IoT ที่ก้าวหน้า ไปจนถึงช่วยการทำ Digital Transformation ให้องค์กรได้อย่างรวดเร็ว
กรุงเทพมหานคร,วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2564 – อรูบ้า (Aruba) บริษัทในเครือฮิวเลตต์แพคการ์ดเอ็นเตอร์ไพรส์ (NYSE: HPE) ได้จัดงานงานสัมมนาออนไลน์ Aruba Atmosphere
2021 งานสัมมนาใหญ่ระดับโลกจาก Aruba ที่ลูกค้าในประเทศไทยจะได้พบกับผู้บริหารระดับสูงจาก Aruba ที่จะมาเผยวิสัยทัศน์ด้าน Data, AI และAutomation ในระบบเครือข่ายเพื่อรับการมาของ Edge ที่มี Solution ความปลอดภัยสูงสุด งานเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ด้านเครือข่ายระดับโลก งาน Aruba
Atmosphere Digital ATMD’21 ภายใต้ธีมงาน “ Your
Journey, Your Edge ” ที่จะส่งมอบเนื้อหาและประสบการณ์อันน่าทึ่งต่างๆ
ผ่านงาน Atmosphere Digital ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าไม่เพียงแค่เข้าใจถึงโอกาสในการรับรู้เทคโนโลยี่ใหม่ แต่ยังมอบแนวทางปฏิบัติอย่างชัดเจนว่าองค์กรของลูกค้าในไทยสามารถก้าวเข้าสู่ศตวรรษแห่ง Edge ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร
รายละเอียดงานและช่องทางการบรรยายในงานเป็น Online
Web Conference ตั้งแต่เวลา 09.30 – 12.00 น. โดยบรรยายเป็นภาษาอังกฤษและมี subtitle ภาษาไทย ในTheme งาน “Your Journey, Your
Edge” คือการเดินทางขององค์กรต่างๆ
ท่ามกลางการปรับตัวมากมายในยุค Digital Transformation ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบเครือข่ายภายในองค์กร ระบบเครือข่ายระหว่างสาขา หรือเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งไม่ว่าองค์กรของลูกค้าจะอยู่ส่วนไหนในการเดินทางก็ตามAruba ก็จะคอยอยู่ที่นั่นเพื่อพาไปยังจุดหมายปลายทาง
โดยมีKeynote คนสำคัญ คือ คุณ Keerti Melkote, Founder และ CEO ของ Aruba ซึ่งจะบรรยายภายใต้หัวข้อ“Your Journey, Your Edge : How Edge-to-Cloud Powers Transformation” นั่นคือบรรยายถึงการเดินทางในยุคDigital Transformation ซึ่งระบบเครือข่ายแบบ Edge-to-Cloud นั้นสามารถช่วยได้และ Keynote คนถัดมาคือ คุณ Partha Narasimhan, Chief Technology Officer หรือ CTO จากAruba บรรยายภายใต้หัวข้อ “Define Your Edge Journey : Reach Your Destination with Aruba ESP” ซึ่งจะช่วยนิยามการเดินทางของEdge ในแบบของเราเอง และนำพาไปสู่จุดหมายปลายทางด้วย Aruba ESP นอกจากนี้ภายใน Virtual Event นอกจากมีบรรยายจากKeynote ต่าง ๆ แล้ว ก็ยังมี Zone ต่างๆที่ให้ข้อมูลน่าสนใจ ที่ลูกค้าสามารถเข้าไปเลือกชมได้ เหมือนอยู่ในงานสัมมนาจริง ๆ
ไม่ว่าจะเป็น Innovation Zone โดย Aruba จะมีการ update innovationให้ได้ศึกษากันมากกว่า 15 เรื่อง
Airheads Community ที่รวบรวมข้อมูลจากกรณีศึกษาต่าง ๆ มาเล่าสู่กันฟัง หรือ AIRHEADS
LOUNGE ซึ่งเป็นประชาคมสำหรับวิศวกร
Aruba ประกาศการขยายความสามารถในการผสานด้านระบบความมั่นคงปลอดภัย
และ ผลิตภัณฑ์ต่างๆให้ครอบคลุม Edge ไปจนถึง Cloud ภายใต้ Aruba ESP (Edge
Services Platform) ได้แก่ การผสานแพลตฟอร์มClearPass Policy Manager สำหรับควบคุมการเข้าถึงระบบเครือข่ายเข้ากับแพลตฟอร์มAruba
EdgeConnect SD-WAN หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิมว่าSilver Peak, การผสาน Aruba Threat Defense เข้ากับแพลตฟอร์ม EdgeConnect และการขยายระบบนิเวศของAruba ESP ให้สามารถรองรับพันธมิตรด้านระบบความมั่นคงปลอดภัยที่หลากหลายยิ่งขึ้นได้
เพื่อให้ลูกค้าระดับองค์กรขนาดใหญ่มีอิสระในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่ดีที่สุดจากพันธมิตรเหล่านี้
ซึ่งรวมถึง Secure Access Service Edge (SASE) บนระบบ Cloud ได้อย่างอิสระตามต้องการ ด้วยความสามารถใหม่ของAruba ESP ที่ประกาศเปิดตัวในวันนี้จะทำให้องค์กรธุรกิจทำ Digital
Transformation จาก Edge ไปจนถึง Cloudได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
องค์กรธุรกิจต่างต้องเผชิญกับความท้าทายนานับประการท่ามกลางการแพร่ระบาดของCOVID-19 และการเกิด New Normal ในเรื่อง “การทำงานได้จากทุกที่”
ทำให้การเลือกใช้บริการบน Cloud ยิ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้เร่งให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงศูนย์ข้อมูลแบบเดิมและเครือข่ายที่มีMPLS และ VPN เป็นหัวใจสำคัญไปสู่สถาปัตยกรรมSASE แบบ Cloud-Native อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
เพื่อให้องค์กรธุรกิจมีบริการระบบเครือข่ายที่มั่นคงปลอดภัยและเปลี่ยนแปลงได้อย่างยืดหยุ่นยิ่งกว่าเดิม
ในขณะที่ยังคงสามารถปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กรได้อย่างทั่วถึง
ในขณะเดียวกัน การทำ Digital Transformation เองนั้นก็ได้ทำให้เกิดการใช้งานอุปกรณ์IoT ภายในระบบเครือข่ายมากขึ้นอย่างมหาศาล เกิดเป็นความท้าทายใหม่
ๆ ที่ไม่สามารถตอบโจทย์ได้ด้วยการใช้การรักษาความมั่นคงปลอดภัยจากบน Cloud เพียงอย่างเดียวได้อีกต่อไป เนื่องจากอุปกรณ์ IoT โดยมากนั้นไม่สามารถทำการติดตั้งซอฟต์แวร์ใด
ๆ เพิ่มเติมได้ ทำให้ฝ่าย IT ไม่สามารถติดตั้งซอฟต์แวร์รักษาความมั่นคงปลอดภัยหรือปรับแต่งให้อุปกรณ์ทำการส่ง
แทรฟฟิคไปยังบริการด้าน Cloud Security ได้
ดังนั้นแนวทางการรักษาความมั่นคงปลอดภัยแบบ Zero Trust จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นต้องใช้ที่ระบบเครือข่ายในระดับสาขา(WAN Edge) ด้วย
เพื่อให้องค์กรนั้นสามารถใช้งาน Cloud และทำ Digital Transformation ได้อย่างเต็มศักยภาพ
องค์กรธุรกิจจึงต้องการ ระบบเครือข่ายในระดับสาขาที่ผสมผสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทั้งแบบOn-Premise และ Cloud เข้าด้วยกัน
เพื่อให้เกิดเป็นระบบ SASE ที่ปกป้องผู้ใช้งานซึ่งทำการเชื่อมต่อไปยังบริการSaaS และแพลตฟอร์ม Public Cloud ได้
ในขณะที่ยังคงปกป้องอุปกรณ์ IoT ได้ด้วย Zero Trust ที่ใช้การตรวจสอบยืนยันตัวตนเป็นหลัก โดยความสามารถในการเชื่อมผสานระบบใหม่ของAruba ESP ที่เปิดตัวมาในวันนี้ ลูกค้าองค์กรจะสามารถกำหนดนโยบายด้านความมั่นคงปลอดภัยในเชิงลึกตามการระบุยืนยันตัวตนได้ตั้งแต่Edge จนถึง Cloud เพื่อให้การเชื่อมต่อเครือข่ายมีความมั่นคงปลอดภัย
รวมถึงปกป้องผู้ใช้งานและอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปด้วยในเวลาเดียวกัน
รายงานที่เพิ่งถูกเปิดเผยเมื่อเร็วๆ
นี้จาก 650 Group บริษัทนักวิจัยทางด้านการสื่อสารได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของSASE พร้อมกับอธิบายถึงความจำเป็นที่องค์กรธุรกิจจะต้องเปลี่ยนแปลงแนวทางการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยี
โดยคุณ Chris DePuy นักวิเคราะห์เทคโนโลยีผู้ก่อตั้งแห่ง 650
Group ได้กล่าวว่า “ในขณะที่องค์กรธุรกิจได้เปลี่ยนไปสู่การใช้สถาปัตยกรรมZero Trust และ SASE นั้น
องค์กรเหล่านี้ก็ได้ทำการประเมินและติดตั้งใช้งานบริการด้านความมั่นคงปลอดภัยบน Cloudจากผู้พัฒนาหลายราย ซึ่งส่วนประกอบของระบบ SASE เองนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาจากผู้ผลิตเพียงรายเดียวแต่อย่างใด
แนวทางของ Aruba จึงถือเป็นแนวทางที่จะสร้างสมดุลระหว่างการเสริมความมั่นคงปลอดภัยในแบบOn-Premise ที่ระบบเครือข่ายในระดับสาขาในขณะที่ยังทำให้ลูกค้ามีอิสระที่จะเลือกใช้บริการด้านความมั่นคงปลอดภัยบนCloud ได้อย่างอิสระจากพันธมิตรอย่างเช่น Zscaler,
Netskope และ Check Point ซึ่งกลยุทธ์ในการเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตเทคโนโลยีหลายรายนี้ส่งผลให้องค์กรธุรกิจมีความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจต่อไปได้โดยใช้เทคโนโลยีจากผู้ผลิตรายเดิม
หรือเปลี่ยนไปสู่ระบบจากผู้ผลิตชั้นนำย่อมได้เช่นกัน”
การผสานระบบ ClearPass Policy Manager ร่วมกับAruba EdgeConnect
การผสานระบบของ ClearPass
Policy Manager เข้ากับ Aruba EdgeConnect SD-WAN Edge Platform ได้เสริมความสามารถในการติดตามและวิเคราะห์การใช้งานแอปพลิเคชัน(Application Intelligence) ได้ด้วยการเพิ่มการรับรู้ตัวตนของผู้ใช้งาน, อุปกรณ์ IoT,
บทบาทของผู้ใช้งานและอุปกรณ์ และสถานะด้านความมั่นคงปลอดภัยในปัจจุบัน
เพื่อใช้เป็นรากฐานให้กับการใช้งาน SASE ที่ระบบเครือข่ายในระดับสาขา โดยการผสานข้อมูลด้านบทบาท (Role) และสถานะความมั่นคงปลอดภัย(Security Posture) เข้ากับความสามารถในการทำ Dynamic
Segmentation แล้ว
องค์กรจะสามารถลดความซับซ้อนที่เกิดขึ้นในการบริหารจัดการ VLAN นับร้อยที่เคยต้องสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับผู้ใช้งานและอุปกรณ์ที่แตกต่างกันได้
ส่งผลให้การบริหารจัดการและดูแลรักษาระบบเครือข่ายมีความง่ายดายมากยิ่งขึ้น
การผสานระบบดังกล่าวนี้จะทำให้การกำหนดบทบาทนั้นสะท้อนไปถึงการควบคุมอย่างทั่วถึงและเป็นอัตโนมัติ
ซึ่งสามารถใช้ในการกำหนดสิทธิ์ได้ทั่วทั้งระบบเครือข่าย ณ
ตำแหน่งที่อุปกรณ์ของผู้ใช้งานทำการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายได้ในทันที
ไม่ว่าจะผ่านระบบ LAN หรือ WAN ก็ตาม
การผสานระบบ Aruba Threat Defense ร่วมกับ Aruba EdgeConnect
การผสานระบบของ Aruba Threat Defense ร่วมกับ Aruba EdgeConnnect SD-WAN Edge Platform ได้เพิ่มความสามารถในการทำ Intrusion Detection and Prevention (IDS/IPS) ชั้นสูงให้กับ EdgeConnectไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งใช้งานในแบบอุปกรณ์จริงหรือ Virtual ก็ตาม และทำให้แพลตฟอร์ม EdgeConnect สามารถใช้ระบบโครงสร้างในการจัดการภัยคุกคามของAruba ได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งเกิดการแบ่งปันข้อมูลภัยคุกคามระหว่าง Aruba Central และ EdgeConnect เพื่อให้สามารถตรวจสอบภัยคุกคามได้ทั่วทั้งระบบเครือข่าย โดยความสามารถในการทำ Unified Threat Management (UTM) นี้ก็จะส่งผลให้องค์กรสามารถเสริมความมั่นคงปลอดภัยให้กับการรับส่งข้อมูลภายในองค์กรไปพร้อมกับการปกป้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในทุกสาขาได้ อีกทั้งระบบดังกล่าวนี้ยังสามารถติดตั้งใช้งานได้แบบศูนย์กลางภายในองค์กรหรือติดตั้งใช้งานผ่านCloud ก็ได้เช่นกัน โดยการใช้ระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรับมือกับภัยคุกคามและการแบ่งปันข้อมูลภัยคุกคามร่วมกันบนAruba ESP นี้ ผู้จัดการด้านระบบเครือข่ายและความมั่นคงปลอดภัยก็จะสามารถบังคับใช้นโยบายในการรับมือกับภัยคุกคามได้ทั่วทั้งองค์กรจากศูนย์กลาง
อิสระในการเลือกใช้เทคโนโลยีจากพันธมิตรหลากหลายผู้ผลิต
เมื่อองค์กรธุรกิจได้เริ่มก้าวไปสู่การใช้สถาปัตยกรรมZero Trust และ SASE แล้ว พร้อมกับเพิ่มการประเมินและเลือกใช้งานบริการด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยบน Cloudจากผู้ผลิตที่หลากหลาย โดยยืนยันได้จากผลสำรวจด้านแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยฉบับใหม่ล่าสุดจากPonemon ด้วยการเปิดเผยว่ามากกว่า 70% ของผู้ถูกสำรวจนั้นจะมองหาโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยบน Cloud ที่ดีที่สุดมากกว่าที่จะเลือกใช้แนวทางสำเร็จรูปจากผู้ผลิตเพียงรายเดียว1เพื่อให้สามารถวางระบบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ Zero Trust และSASE ให้ครอบคลุมได้
ด้วยหน้าจอบริหารจัดการ workflow ใหม่ในชื่อ Aruba Orchestrator management console ที่มีชื่อเดิมว่าSilver Peak Unity Orchestrator ที่ในปัจจุบันมีการกำหนดข้อมูลค่าตั้งต้นเกี่ยวกับบริหารด้านความมั่นคงปลอดภัยบนCloud ของพันธมิตรทางด้าน Cloud Security เอาไว้ให้พร้อมใช้งานได้ทันที ด้วยเหตุนี้ผู้ดูแลระบบเครือข่ายจึงสามารถเชื่อมต่อสาขาต่างๆ ที่ใช้ Aruba เข้ากับ Point of Presence (POP) และ Cloud Data Center ของพันธมิตรรายต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยผู้ผลิตเทคโนโลยีด้านความมั่นคงปลอดภัยชั้นนำอย่างเช่นCheck Point, Forcepoint, McAfee, Netskope, Palo Alto Networks, Symantec และ Zscaler นั้นต่างล้วนเป็นพันธมิตรภายในระบบนิเวศทางด้านเทคโนโลยีของAruba ทั้งสิ้น
“การผสานระบบของClearPass Policy Manager และ Aruba Threat Defense เข้ากับEdgeConnect SD-WAN Edge Platform ทำให้เราสามารถใช้นโยบายด้านความมั่นคงปลอดภัยโดยอ้างอิงจากการระบุยืนยันตัวตนได้สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มAruba Secure Edge ทั้งหมด” คุณ David Hughes ผู้ก่อตั้งแห่ง Silver Peak และรองประธานอาวุโสแห่งธุรกิจ WAN ของ Arubaบริษัทในเครือ Hewlett Packard Enterprise กล่าว “การผสมสานที่ทรงพลังนี้จะทำให้ลูกค้าสามารถก้าวเดินต่อไปได้ด้วยระดับความเร็วที่ต้องการในการเปลี่ยนจากสถาปัตยกรรมระบบเครือข่ายที่มีData Center เป็นศูนย์กลางแบบดั้งเดิมที่มีระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการเชื่อมต่อไปยังภายนอกเท่านั้น ไปสู่ระบบ WAN ที่มี Cloud เป็นศูนย์กลางพร้อมระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่ใช้หลักการZero Trust และ SASE โดยลูกค้าองค์กรสามารถติดตั้งใช้งานแพลตฟอร์มEdgeConnect WAN Edge ภายในองค์กรเพื่อควบคุมนโยบายความมั่นคงปลอดภัยที่Edge ได้ และผสานระบบเข้ากับบริการด้านความมั่นคงปลอดภัยบน Cloudชั้นนำจากผู้ผลิตที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย โดยทั้งหมดนี้สามารถบริหารจัดการจากศูนย์กลางได้ผ่าน Aruba Orchestrator”
ผลิตภัณฑ์กลุ่มSecure WAN Edge ที่ครอบคลุม รองรับสถานที่ทำงานแบบ Hybrid Work ทั้งหมดได้
แพลตฟอร์ม Aruba ESP ได้นำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมที่สุดในอุตสาหกรรมแก่ลูกค้าของเรา ไม่ว่าจะเป็นโซลูชันระบบเครือข่ายมีสาย, ไร้สาย และ WAN Edge ที่มีความมั่นคงปลอดภัยซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถปรับตัวสู่ New Normalในปัจจุบันและอนาคตที่ยังไม่มีใครล่วงรู้ได้ โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม WAN Edge นั้นประกอบด้วย:
· Virtual
Intranet Access Client (VIA) – เพิ่มความยืดหยุ่นสูงสุดให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้จากทุกที่
ไม่ว่าจะเชื่อมต่อเครือข่ายส่วนตัวหรือสาธารณะก็ตาม
· Remote
Access Points (RAPs) – ลดความซับซ้อนในการสร้างพื้นที่ทำงานแบบเคลื่อนที่ได้ แบบระยะไกล
และ แบบชั่วคราว เชื่อมต่อไปยังเครือข่ายองค์กรได้อย่างมั่นคงปลอดภัย
· SD-Branch
– ผสานระบบอย่างอิสระและง่ายดายพร้อมการบริหารจัดการแบบรวมศูนย์สำหรับ WLAN, LAN และ SD-WAN พร้อมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยแบบ Zero
Trust
· EdgeConnect
– สร้าง QoE (Quality of Experience) ที่ดีตั้งแต่ Edge ถึง Cloud ด้วยแพลตฟอร์ม SD-WAN Edge ชั้นสูงและส่วนประกอบต่างๆ ของ SASE ที่บริหารจัดการร่วมกันได้
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผสานระบบเหล่านี้พร้อมประโยชน์ในการใช้งานสำหรับองค์กรธุรกิจ กรุณาเข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ Atmosphere ’21 – Journey to the Edge ในวันที่ 28 เมษายนนี้ โดยคุณสามารถทำการลงทะเบียนได้ที่นี่ https://www.arubanetworks.com/en-au/atmosphere/?utm_source=paiping&utm_campaign=atmdigital&utm_medium=organicsocial&utm_geo=APJ&utm_content=Digital_Disty&Partner
ข้อมูลเพิ่มเติม:
· Blog: Ponemon Survey Highlights Security Best Practices for
Implementing a Zero Trust or SASE Architecture
เกี่ยวกับ อรูบ้า (Aruba) บริษัทในเครือฮิวเลตต์แพคการ์ดเอ็นเตอร์ไพรส์
อรูบ้า (Aruba) บริษัทในเครือฮิวเลตต์แพคการ์ดเอ็นเตอร์ไพรส์คือผู้นำระดับโลกทางด้านโซลูชันระบบเครือข่ายอัจฉริยะสำหรับEdge-to-Cloudที่มั่นคงปลอดภัยซึ่งใช้ AI ในการเปลี่ยนระบบเครือข่ายให้เป็นอัตโนมัติ
และยังใช้ข้อมูลในการขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างทรงพลัง ด้วย Aruba ESP (Edge Services Platform) และทางเลือกในการใช้งานแบบ as-a-serviceทำให้อรูบ้าได้ใช้แนวทางแบบ Cloud-Native ในการช่วยให้ลูกค้าสามารถตอบ์โจทย์ด้านการเชื่อมต่อ, ความมั่นคงปลอดภัย
และความต้องการทางด้านการเงินได้ทั้งสำหรับการใช้งานในทั่วทั้งองค์กรธุรกิจ,สาขาของธุรกิจ, ศูนย์ข้อมูล
และการทำงานจากระยะไกล โดยครอบคลุมทั้งการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบมีสาย, เครือข่ายแบบไร้สาย และเครือข่าย WAN
ถ้าหากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมที่ https://www.arubanetworks.com/ โดยสำหรับการอัปเดต ข่าวสารแบบทันท่วงที กรุณาติดตามที่ Twitterและ Facebook และสำหรับการพูดคุยเชิงเทคนิคเกี่ยวกับการเชื่อมต่อเครือข่ายทุกที่ทุกเวลาและผลิตภัณฑ์ของอรูบ้า กรุณาเยี่ยมชม Airheads Social ที่ https://community.arubanetworks.com/
[1] Ponemon Institute, The
State of SD-WAN, SASE and Zero Trust Security Architectures, April 2021