logologo

Easy Branches ให้คุณแบ่งปันโพสต์แขกของคุณภายในเครือข่ายของเราในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อเข้าถึงลูกค้าทั่วโลก เริ่มแบ่งปันเรื่องราวของคุณวันนี้!

Easy Branches

34/17 Moo 3 Chao fah west Road, Phuket, Thailand, Phuket

Call: 076 367 766

info@easybranches.com
วาไรตี้

รวมวิธีฟื้นฟูผิวหน้าไหม้แดด เสริมผิวให้แข็งแรงมากขึ้น กลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง!

แดดหน้าร้อนในประเทศไทย คือศัตรูตัวร้ายของคนชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะช่วงหน้าร้อนของไทย รังสียูวีในแสงแดดจะมีความเข้มข้นในระดับที่สูงมาก! ไม่ว่าจะเป็นยูวีเอ ยูวีบี เรียกได้ว่า แค่อยู่กลางแจ้ง หรือตากแดดเพียงแป๊บเดียวก็เกิดอาการร้อนแสบ หรือรู้สึกระคาย


  • May 02 2024
  • 135
  • 4636 Views

แดดหน้าร้อนในประเทศไทย คือศัตรูตัวร้ายของคนชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะช่วงหน้าร้อนของไทย รังสียูวีในแสงแดดจะมีความเข้มข้นในระดับที่สูงมาก! ไม่ว่าจะเป็นยูวีเอ ยูวีบี เรียกได้ว่า แค่อยู่กลางแจ้ง หรือตากแดดเพียงแป๊บเดียวก็เกิดอาการร้อนแสบ หรือรู้สึกระคายเคืองผิวขึ้นมาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น หลายคนอาจต้องเผชิญกับผิวหน้าไหม้แดด ซึ่งเป็นตัวการทำให้เกิดผิวหน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ทั้งยังมีผิวหน้าบอบบางในระยะยาว และเสี่ยงเกิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาได้ง่ายอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาผิวหน้าไหม้แดด ร้อนแสบผิวไม่หาย รวมถึงมีสีผิวไม่สม่ำเสมอ ในบทความนี้เราได้รวมวิธีฟื้นฟูผิวหน้าไหม้แดดมาฝากแล้ว พร้อมแนะนำวิธีป้องกันผิวจากแสงแดดให้ครอบคลุม อยากฟื้นฟูผิวหน้าให้เรียบเนียน และเสริมผิวให้แข็งแรงมากขึ้น ตามมาดูกันเลย!

รวมวิธีฟื้นฟู กู้ผิวหน้าไหม้แดด

1) ประคบเย็นเพื่อปลอบประโลมผิวหน้า

วิธีแรก เริ่มต้นด้วยการปลอบประโลมผิวหน้าไหม้แดด ผ่านการประคบเย็น ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นมากดเบาๆ ที่บริเวณใบหน้า หรือล้างหน้าด้วยน้ำเย็น โดยความเย็นนี้จะช่วยลดอาการอักเสบ อาการระคายเคืองของผิวหน้าที่เจอแสงแดดร้อนๆ มาเป็นเวลานาน ทั้งนี้ต้องระวังเรื่องระดับความเย็นที่ใช้ประคบผิว เพราะหากเป็นน้ำที่เย็นจัดจนเกินไป อาจกลายเป็นการกัดกร่อนผิว ทำให้ผิวบอบบาง และสร้างความระคายเคืองให้กับผิวหน้ามากกว่าเดิมได้

2) ว่านหางจระเข้ ไอเทมจากธรรมชาติลดอาการระคายเคือง

ว่างหางจระเข้เป็นไอเทมจากธรรมชาติที่ช่วยฟื้นฟูฟิวหน้าไหม้แดด หรือผิวบริเวณอื่นๆ ที่ถูกแดดเบิร์นมาได้ โดยเราสามารถนำส่วนที่เป็นวุ้นของว่านหางจระเข้มาทาลงบริเวณบนผิวหน้าไหม้แดด และรู้สึกแสบคันเป็นพิเศษ ประมาณ 10-15 นาทีเป็นอย่างต่ำ ก่อนจะล้างทำความสะอาดผิวด้วยน้ำเย็น ซึ่งจะช่วยให้ผิวหน้าของเราได้รับความชุ่มชื้นมากขึ้น ช่วยลดอาการแสบร้อนจากสภาวะผิวเบิร์นจากแสงแดดได้ดี  ทั้งยังทำมีส่วนช่วยให้ผิวใสขึ้นในระดับหนึ่งด้วย

3) หลีกเลี่ยงการเสียดสีบริเวณผิวหน้าไหม้แดด ไม่ให้อาการรุนแรงมากกว่าเดิม

เมื่อเกิดผิวหน้าไหม้แดด ชั้นผิวของเราจะมีการผลัดเซลล์ จึงมักจะเกิดอาการแสบร้อน คัน ระคายเคือง รวมถึงผิวลอกเป็นขุย และมีตุ่มใสๆ ขึ้น ซึ่งแนะนำให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจสร้างความระคายเคืองให้กับผิว หรือลดการเสียดสีของผอวบริเวณดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการเกา การถูผิวหน้าแรง การลอกผิว โดยเฉพาะการเจาะตุ่มใสๆ ออก เนื่องจากตุ่มใสๆ ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นปฏิกิริยาของผิวที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวชั้นถัดไปเกิดอาการระคายเคืองมากกว่าเดิม แนะนำให้รอตุ่มใสๆ เหล่านั้นแตกหรือจางหายไปเอง แล้วจึงค่อยใช้ปิโตรเลียมเจลทาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ประมาณ 2-3 ครั้งต่อวันเพื่อบรรเทาอาการแสบ หรือคันนั่นเอง

4) ใช้สกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์ที่เน้นความชุ่มชื้นเป็นประจำทุกวัน

อีกวิธีที่ขาดไม่ได้ หากอยากฟื้นฟูผิวหน้าไหม้แดดอย่างมีประสิทธิภาพ คือการใช้สกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์ที่เน้นความชุ่มชื้นเป็นประจำทุกวัน ทั้งในช่วงเช้าและเย็น เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิว ลดอาการระคายเคืองผิว เสริมให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น อย่างเช่นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และลดอาการอักเสบของผิว เช่น สารสกัดจากว่างหางจระเข้ แตงกวา ใบบัวบก คาโมมายล์ ฯลฯ

5) ดื่มน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายในสู่ภายนอก

ไม่เพียงแค่การบำรุงผิวฟื้นฟูจากภายนอกเท่านั้นที่ควรให้ความสำคัญ แต่การฟื้นฟูผิวจากภายในก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน อย่างการดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อย่างน้อยวันละประมาณ 8 แก้ว ก็จะช่วยฟื้นฟูหรือซ่อมแซมเซลล์ในชั้นผิวที่เสียไป หรืออ่อนแอลงให้กลับมาแข็งแรงมากขึ้นได้ ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ทำให้ผิวกลับมาดูใสมากขึ้น นอกจากนี้ในช่วงที่เกิดปัญหาผิวหน้าไหม้แดดควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เช่น ชา กาแฟ หรือโซดา เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเกิดภาวะสูญเสียน้ำ และความชุ่มชื้นไปนั่นเอง

6) หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดในช่วงที่ฟื้นฟูผิวหน้าไหม้แดด

อีกวิธีที่ควรให้ความสำคัญในช่วงที่ฟื้นฟูผิวหน้าไหม้แดด คือหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดโดยตรง และอยู่ท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลา 10.00 น. – 16.00 น. ที่จะมีค่ายูวีสูงเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าเกิดอาการระคายเคือง หรือไหม้มากกว่าเดิม เพราะในช่วงที่เรากำลังฟื้นฟูผิวหน้าไหม้แดดอยู่นี้เป็นช่วงที่ผิวของเรากำลังเกิดการผลัดเซลล์ ผิวหน้ามีความบอบบางมากกว่าปกติ แนะนำให้อยู่ในที่ร่ม หรือหากจำเป็นต้องออกไปเผชิญแสงแดดจริงๆ ควรหาไอเทมป้องกันให้มิดชิด เช่น การสวมหมวกป้องกัน การสวมแว่นกันแดด เป็นต้น

วิธีป้องกันผิวหน้าจากแสงแดดให้ครอบคลุม

ใครๆ ก็คงไม่อยากเผชิญกับปัญหาผิวหน้าไหม้แดดที่ทั้งแสบ ระคายเคือง ทั้งยังทำให้สีผิวคล้ำ ไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือการพยายามป้องกันผิวหน้าจากแสงแดดให้ครอบคลุม เมื่อจำเป็นต้องออกไปทำกิจกรรมข้างนอก หรือเจอกับแสงแดด และวันนี้เราได้นำวิธีป้องกันและเตรียมตัว เมื่อมีเหตุจำเป็นต้องออกแดดมาฝากทุกคนกัน

การทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพเป็นประจำทุกวัน

การทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เป็นป้องกันที่หลายคนคงคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่หากอยากป้องกันผิวหน้าจากแสงแดดได้อย่างครอบคลุมนั้น ควรให้ความสำคัญกับการเลือกผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดด้วย โดยแนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติและความเหมาะสมต่อสภาพผิวหน้า เพื่อช่วยป้องกันแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยควรมีค่า SPF 50+ ขึ้นไปและมีค่าPA (+) สามารถกันน้ำ กันเหงื่อได้ นอกจากนี้ควรทากันแดดในปริมาณที่มากพอ อย่างน้อย 2 ข้อนิ้วมือ และควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดด 30 นาที เพื่อให้ครีมกันแดดซึมเข้าสู่ผิวได้เต็มที่ ช่วยเสริมเป็นเกราะป้องกันให้ผิวเราได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

แต่งกายให้มิดชิด และหาไอเทมป้องกันแดด

การแต่งตัวให้มิดชิด ปกปิดผิวหน้า ช่วยให้ผิวหน้าของเราสัมผัสกับแสงแดดน้อยที่สุด โดยควรสวมใส่เสื้อผ้าที่มีความสบายตัว เนื้อผ้าสามารถป้องกัน UV ได้ เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ที่มีเส้นใยหรือคุณสมบัติช่วยป้องกันรังสียูวี หรือใช้ไอเทมป้องกันแดดอื่นๆ เช่น หมวก แว่นตากันแดด ร่มกัน UV  หรือผ้าคลุมหน้าเป็นต้น

เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม หากจำเป็นต้องออกไปเผชิญกับแสงแดด

หากจำเป็นต้องต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องเผชิญกับแสงแดดจริงๆ เป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลากลางวันหรือตอนบ่าย เพราะจะเป็นช่วงที่แดดมีค่ายูวีสูงมาก เสี่ยงต่อการเกิดผิวหน้าไหม้แดดได้ง่าย และเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง ในส่วนของช่วงเวลาที่สามารถเผชิญกับแสงแดดในค่อนข้างปลอดภัย คือ ช่วงก่อน 09.00 น. และแสงแดดตอนเย็นหลัง 16.00 น. โดยแสงแดดในช่วงเวลานี้จะมีวิตามิน D ที่ช่วยเรื่องการดูดซึมแคลเซียม ป้องกันโรคกระดูกพรุน ทั้งยังช่วยเรื่องการย่อยอาหารด้วย

ผิวหน้าไหม้แดด เป็นปัญหาผิวหน้าที่พบได้บ่อยในช่วงหน้าร้อนที่มีแดดแรงจัด ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่ควรละเลย หรือปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการฟื้นฟู เพราะหากปล่อยผิวหน้าไหม้แดดทิ้งไว้นาน

อาจทำให้ผิวหน้าสูญเสียสมดุล เกิดปัญหาผิวเบิร์น ผิวแห้งกร้าน ผิวบริเวณนั้นบอบบางลง และอาจเกิดการระเคืองได้ง่าย จนเกิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาได้ ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาผิวหน้าไหม้แดดขึ้น อยากได้ผิวที่เรียบเนียนกลับคืนมา พร้อมเสริมผิวให้แข็งแรงมากขึ้น จึงควรให้ความสำคัญกับการดูแลฟื้นฟูผิวหน้าเป็นพิเศษนั่นเอง ส่วนใครที่ไม่อยากเผชิญกับปัญหาผิวหน้าไหม้แดด ก็สามารถป้องกันตนเองได้ง่ายๆ ผ่านการสวมเสื้อผ้ามิดชิดและใช้ไอเทมป้องกันให้ครอบคลุม ไม่อยู่ท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานาน และอย่าลืมใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพเป็นประจำทุกวันด้วย!

ส่วนธุรกิจ หรือองค์กรไหนกำลังมองหาไอเทมกันแดดที่มีประสิทธิภาพสำหรับแจกให้กับลูกค้าคนสำคัญ หรือใช้ภายในองค์กร Giftwise Asia เป็นแหล่งรวมของพรีเมียมองค์กร รับทำหมวก ร่มกันยูวีที่มีประสิทธิภาพพร้อมให้คำปรึกษา ออกแบบ ผลิต และจัดส่ง ครบวงจรในที่เดียว รับรองว่าสินค้าทุกชิ้นที่ได้รับเป็นสินค้ามีคุณภาพ สามารถตอบโจทย์ภาพลักษณ์ขององค์กรได้อย่างโดดเด่นแน่นอน

 

สนใจผลิตสินค้าพรีเมียมแจกลูกค้ากับ Giftwise Asia

โทร : 02-096-3949

Line : @giftwise

Facebook : Giftwise Asia

 

The post รวมวิธีฟื้นฟูผิวหน้าไหม้แดด เสริมผิวให้แข็งแรงมากขึ้น กลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง! first appeared on สำนักข่าว บางกอก ทูเดย์.

ที่เกี่ยวข้อง


แบ่งปันหน้านี้

โพสต์ของแขกโดย Easy Branches

all our websites