อเมริกา
เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ: เสียงผู้สนับสนุน กับเดิมพันที่หวังเอาไว้กับ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’
วีโอเอไทยเกาะติดเวทีหาเสียงของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในช่วงเดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในตอนที่สอง เป็นเรื่องราวจากฝั่งผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เมืองเลโทรบ รัฐเพนซิลเวเนีย รัฐสมรภูมิที่มีนัยสำคัญต่อผลการเลือกตั้ง
วีโอเอไทยเกาะติดเวทีหาเสียงของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในช่วงเดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในตอนที่สอง เป็นเรื่องราวจากฝั่งผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เมืองเลโทรบ รัฐเพนซิลเวเนีย รัฐสมรภูมิที่มีนัยสำคัญต่อผลการเลือกตั้ง
ผู้สนับสนุนหลักพันเดินทางมางานหาเสียงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ท่ากาศยานอาร์โนลด์ พาล์มเมอร์ เมืองเลโทรบ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา ท่ามกลางการตรวจตราความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของตำรวจและเจ้าหน้าที่อารักขาบุคคลสำคัญ หรือ Secret Service
ในช่วงเวลาที่เหลือราวสองสัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งคามาลา แฮร์ริส และโดนัลด์ ทรัมป์ ต่างเดินสายเรียกคะแนนเสียงในรัฐสมรภูมิเจ็ดรัฐอย่างต่อเนื่อง และสำหรับเพนซิลเวเนีย ที่มีจำนวนผู้แทนเลือกตั้งหรือ electoral college มากที่สุด ความนิยมที่จะแปรเปลี่ยนเป็นคะแนนเสียงเลือกตั้ง ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเส้นทางเข้าสู่ทำเนียบขาว
ทรัมป์ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง เน้นย้ำนโยบายหลายข้อ เช่น สนับสนุนอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมัน ลดภาษีผู้ผลิตสินค้าในสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีกับจีน การนำผู้อพยพออกจากสหรัฐฯ ครั้งใหญ่ ไม่เพียงเท่านั้นยังใช้เวลาโจมตีคามาลา แฮร์ริส คู่แข่งชิงตำแหน่งผู้นำสูงสุดทั้งในระดับตัวบุคคลและเรื่องนโยบาย
อเล็กซานเดรีย ไวส์ ผู้มาร่วมงานวัย 18 ปี กล่าวว่าสภาพเศรษฐกิจในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาในรัฐบาลไบเดนทำให้กังวลว่าเธอจะไม่มีชีวิตที่ดีขึ้นนักเมื่อเข้าสู่ตลาดแรงงานสืบเนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น
แม้แฮร์ริสจะมีนโยบายช่วยเหลือคนชั้นกลางและคนทำงานเช่นกัน แต่เธอไม่เชื่อในตัวของคู่แข่งฝ่ายเดโมแครต ด้วยเหตุผลว่า หากทำได้จริงก็ควรทำได้ตั้งแต่ตอนนี้ที่เธอมีอำนาจแล้ว
ไวส์กล่าวว่า “ฉันคิดว่าเรื่องใหญ่ที่สุดคือการเป็นคนหนุ่มสาวในโลกวันนี้ เหมือนว่าการอยากซื้อบ้าน แต่งงาน มีลูก ภายใต้เศรษฐกิจแบบนี้ และถ้าหากทรัมป์ไม่ได้ (เป็นประธานาธิบดี) มันก็คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”
ด้านแอนดรูว์ ไอเคอร์ คนงานอุตสาหกรรมเหล็กกล้าในพื้นที่ ต้องการให้ทรัมป์ผ่อนปรนข้อกติกาเรื่องการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อให้ภาคส่วนที่ขึ้นชื่อของเพนซิลเวเนียสามารถแข่งขันกับผู้เล่นในตลาดโลกได้
เขากล่าวว่า “มันต้องผ่อนคลายมากกว่านี้ เมื่อคุณมีจีน มีอินเดีย ประเทศเหล่านี้ที่ไม่เล่นในเกมเดียวกับเรา เราอยู่กันคนละสนามเลย ตราบใดที่พวกเขาทำในสิ่งที่ทำอยู่ สิ่งที่เราทำที่สหรัฐฯ ก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไรเลย ผมอยากเห็นทรัมป์มีท่าทีแข็งกร้าวขึ้นในเรื่องนี้สักหน่อย”
บนเวทีหาเสียงเมื่อวันเสาร์ กลุ่มสหภาพท้องถิ่นแรงงานอุตสาหกรรมเหล็กกล้า ยังรับรองเห็นชอบให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีอีกด้วย
เพนนี ซูเกอร์ บอกว่า สนับสนุนทรัมป์มาตั้งแต่การลงการเมืองครั้งแรกของเขา และเชื่อมั่นว่าทรัมป์จะช่วยกอบกู้อเมริกาได้
เธอกล่าวว่า “หนึ่ง สร้างความเข้มแข็งให้ชายแดน เราจำเป็นต้องมีประเทศที่เป็นอิสระอย่างประเทศอื่นในโลก การค้ามนุษย์ ถ้าเรากวดขันชายแดน ก็อาจจะแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ที่ดำเนินอยู่ด้วย และมันก็เป็นสิ่งที่สำคัญกับทั่วโลก ไม่ใช่แค่สหรัฐฯ ทิศทางใดก็ตามที่สหรัฐฯ ไป โลกก็ไปทางนั้น เราเหมือนเป็นปราการสุดท้ายของเสรีภาพ”
แม้ผู้ร่วมงานจำนวนมากจะเป็นคนขาว แต่ก็มีผู้ร่วมงานที่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย บางคนกล่าวว่าชอบนโยบายด้านการปราบปรามการเข้าเมืองผิดกฎหมายและนโยบายต่างประเทศของทรัมป์
ชายนามสกุลหลิว ย้ายจากประเทศจีนมาเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ปัจจุบันมีสัญชาติอเมริกัน เห็นด้วยกับนโยบายที่ทรัมป์เสนอ และหนึ่งในนั้นคือเรื่องการกวดขันผู้คนเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย รวมถึงชาวจีนที่ใช้ช่องทางชายแดนตอนใต้หลบหนีเข้ามาที่สหรัฐฯ
นายหลิว ชาวอเมริกันเชื้อสายจีน ผู้ไม่ขอเปิดเผยชื่อต้น กล่าวว่า “ที่จีนบ้านเกิดของผม เขามีกลุ่มที่พยายามจัดส่งคนผ่านเข้ามาทางเม็กซิโก เขาให้เดินเป็นแถวเข้ามาที่สหรัฐฯ ซึ่งนั่นไม่ถูกต้อง และควรจะต้องมีการส่งกลับ ควรปิดกั้นเอาไว้เพราะว่ามันผิดกฎหมาย แต่ว่ารัฐบาลนี้พยายามที่จะเปิดชายแดน
ข้อมูลเดือนสิงหาคม 2024 ของเจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดนสหรัฐฯ พบผู้ลักลอบข้ามแดนราว 58,000 คน น้อยลงจากจุดสูงสุดในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว 77%
ศูนย์วิจัย Pew Research Center ระบุว่า ตัวเลขที่ลดลง เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ และเม็กซิโกเพิ่มความเข้มงวดต่อการลักลอบข้ามแดน รวมถึงการมีคำสั่งฝ่ายบริหารจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ทำให้ผู้ข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย ขอลี้ภัยและอาศัยในสหรัฐฯ ได้ยากยิ่งขึ้น
เจย์ มูน ชาวเอเชียนอเมริกันกล่าวว่า เห็นด้วยกับการปราบปรามการเข้าเมืองผิดกฎหมาย และนโยบายต่างประเทศของทรัมป์ เช่นการคุยกับคิม จอง อึน แห่งเกาหลีเหนือ และการนำทรัพยากรมาสร้างความเข้มแข็งให้สหรัฐฯ เพื่อสร้างโลกที่สงบสุข คือทางออกสำหรับการหยุดยั้งสงครามที่ดำเนินอยู่
มูนกล่าวว่า “มันคือสันติภาพผ่านความเข้มแข็ง ถูกไหมครับ ถ้าเราดูอ่อนแออย่างที่รัฐบาลนี้เป็น มันก็ไม่ใช่สันติภาพผ่นความเข้มแข็ง ไม่มีสันติภาพจากความอ่อนแอ ผมไม่รู้เหมือนกัน แต่คุณก็เห็นว่าทำไมพวกเขาก่อสงครามในช่วงรัฐบาลไบเดน ไม่ใช่แค่ไบเดน แต่ก็เป็นรัฐบาลของคามาลาด้วย ใช่ไหมครับ”
ส่วนในเมืองเอียรี ห่างไปจากเลโทรบประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง ทรรศนีย์พรรณ์ คิงส์ เจ้าของร้านอาหารไทย บอกว่าจะลงคะแนนเสียงให้ทรัมป์ แม้คนไทยบางคนอาจจะมองว่าทรัมป์เป็นคนก้าวร้าวก็ตาม
“คิดส่วนตัว ว่าทรัมป์น่าจะ...เขาเป็นนักธุรกิจ เศรษฐกิจอาจจะดีขึ้น” ทรรศนีย์พรรณ์กล่าว
เมืองเลโทรบเป็นส่วนหนึ่งของเขตปกครองเวสต์มอร์แลนด์ โดยผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีปีครั้งที่แล้ว ทรัมป์ได้รับคะแนนมากกว่าไบเดน ที่ราว 130,000 เสียงต่อ 72,000 เสียง ตามข้อมูลผลโหวตอย่างเป็นทางการ