อเมริกา
ไบเดนขอโทษต่อ 'บาป' ที่รัฐบาลเคยทำกับชาวอเมริกันพื้นเมือง
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดนกล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการต่อคนพื้นเมืองอเมริกัน สำหรับสิ่งที่เขาเรียกว่า เป็น "บาป" ของรัฐบาลกลางที่เคยทำไว้ในอดีต ภายใต้โครงการโรงเรียนประจำที่กินยาวนานหลายสิบปี และพรากเด็ก ๆ ของประชากรกลุ่มนี้จากพ่อเเม่ เขามีถ้อยเเถลงอ
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดนกล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการต่อคนพื้นเมืองอเมริกัน สำหรับสิ่งที่เขาเรียกว่า เป็น "บาป" ของรัฐบาลกลางที่เคยทำไว้ในอดีต ภายใต้โครงการโรงเรียนประจำที่กินยาวนานหลายสิบปี และพรากเด็ก ๆ ของประชากรกลุ่มนี้จากพ่อเเม่
เขามีถ้อยเเถลงอันเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ที่เขตปกครองของชาวอเมริกันพื้นเมือง โดยเรียกโครงการโรงเรียนประจำดังกล่าวว่าเป็น "รอยด่างในประวัติศาสตร์อเมริกัน" และว่าเรื่องนี้เป็น "บาปที่ติดอยู่ในใจของพวกเรา"
"พูดตามตรง มันไม่มีข้อเเก้ตัวว่าคำขอโทษนี้ใช้เวลายาวนาน 50 ปี ที่จะพูดออกมา" ไบเดนกล่าว
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวถึงการกระทำผิดต่อเด็ก ๆ อเมริกันพื้นเมือง และการเสียชีวิตของพวกเขา จากนโยบายของรัฐบาลกลาง
"ขณะที่ความมืดปกปิดเรื่องต่าง ๆ ได้ มันลบอะไรออกไปไม่ได้เลย" ไบเดนกล่าว "ผมขอโทษอย่างเป็นทางการในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ สำหรับสิ่งที่เราเคยทำไว้"
“เป็นเวลานานเกินไปที่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น โดยเเทบไม่มีคนสนใจ ไม่มีการเขียนถึงในหนังสือประวัติศาสตร์ และไม่มีการสอนเรื่องนี้ตามโรงเรียน" ไบเดนกล่าว
การเยือนเขตของชาวอเมริกันพื้นเมืองเกิดขึ้นชานนครฟินิกซ์รัฐแอริโซนา ซึ่งเป็นรัฐที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมเเครตกำลังขับเคี่ยวกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน ในการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ
เมื่อ 4 ปีก่อนไบเดน ชนะในรัฐนี้เหนือทรัมป์ ด้วยคะเเนนเพียงราว ๆ 10,000 เสียงเท่านั้น
เอพีรายงานว่าปีนี้การเเข่งขันระหว่างแฮร์ริสและทรัมป์ในแอริโซนาก็น่าจะคู่คี่กันมากเช่นเดียวกัน และในตอนนี้คณะหาเสียงของทั้งสองฝ่ายกำลังทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้ผู้สนับสนุนตนออกมาใช้สิทธิ์กันมากที่สุด
เป็นเวลาหลายทศวรรษ ที่ระบบโรงเรียนประจำของรัฐบาลกลาง ถูกใช้เป็นเครื่องมือให้เด็ก ๆ ปรับตัวให้เข้ากับสังคมคนผิวขาว ตามข้อมูลของทำเนียบขาว
การออกมาขอโทษครั้งนี้ของไบเดน ดูจะไม่เพียงพอสำหรับ เชส ไอรอน อายส์ ผู้อำนวยการโครงการ Lakota People’s Law Project และกองทุน Sacred Defense Fund
"คำขอโทษเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่ไม่ใช่การรับผิดชอบที่เเท้จริง และก็ไม่ใช่การเยียวยาที่เพียงพอสำหรับประวัติศาตร์อันยาวนานแห่งความรุนเเรงของการล่าอาณานิคม" เขากล่าว
ขณะเดียวกัน ราโมนา ชาเรตต์ ไคลน์ วัย 77 ปี สมาชิกของ Turtle Mountain Band of Chippewa และเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากโครงการโรงเรียนประจำระบุว่า "ประธานาธิบดีไบเดนสมควรได้รับคำชมจากการที่นำประเด็นนี้ และประเด็นอื่น ๆ ที่มีผลต่อชุมชนของเรามาสู่ความสนใจ"
เด็กอเมริกันพื้นเมืองอย่างน้อย 973 คนเสียชีวิต ภายใต้โครงการโรงเรียนประจำที่มีการกระทำผิด โดย ระบบดังกล่าวมีเด็กพื้นเมืองทั้งหมดอย่างน้อย 18,000 คน บางคนอายุเพียงเเค่ 4 ปี
นโยบายดังกล่าวดำเนินไปยาวนาน 150 ปี จนถึงปี 1969 ตามข้อมูลของรายงานการสืบสวนหาความจริงโดยกระทรวงกิจการภายในของสหรัฐฯ รายงานฉบับนี้เรียกร้องให้มีการขอโทษย่างเป็นทางการจากรัฐบาล ที่มา: เอพี