นโยบายผู้อพยพเป็นหนึ่งในแก่นแกนของการหาเสียงของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และในวันที่อำนาจใกล้หวนสู่มือ แนวทางควบคุมชายแดนแบบเข้มข้นขึ้นก็เริ่มก่อรูปก่อร่าง ตัวอย่างที่ทรัมป์พูดเอาไว้ระหว่างการหาเสียง เกี่ยวกับแนวทางกวดขันพื้นที่ชายแดน คือการกักขังผู้อพยพมากขึ้น รวมถึงส่งตัวผู้ที่ข้ามแดนมาโดยไม่มีเอกสารถูกต้องเพิ่มขึ้นด้วย เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทรัมป์ปราศรัยว่าจะขับคนออกจากประเทศขนานใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน หนึ่งในแผนการที่ทรัมป์น่าจะทำ มีตั้งแต่การขยายสถานกักกันคนเข้าเมือง และหวนกลับไปสู่แนวทาง “Remain in Mexico” ที่ให้ผู้อพยพเข้าสหรัฐฯ อยู่ที่เม็กซิโกระหว่างรอกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง โธมัส โฮแมน ผู้ที่ทรัมป์เสนอชื่อให้ทำหน้าที่ "ผู้คุมชายแดน" คนใหม่ กล่าวว่านโยบายควบคุมชายแดนอย่างเข้มข้น มีขึ้นเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยของชาติและสาธารณะ โฮแมนกล่าวว่า “ในจุดที่เข้าใกล้กับวิกฤตผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายครั้งใหญ่ที่สุดที่เราเคยเห็นในชาติ จะต้องมีปฏิบัติการส่งคนกลับประเทศขนานใหญ่” เดวิด เบียร์ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบัน Cato Institute มองว่าการส่งคนกลับประเทศขนานใหญ่จะยิ่งทำให้ความปลอดภัยในสังคมลดน้อยลง เบียร์กล่าวว่า “ผู้อพยพมีแนวโน้มที่จะแจ้งเหตุอาชญากรรมต่อตำรวจมากกว่าคนที่เกิดในสหรัฐฯ โดยเฉลี่ย แต่การศึกษาแสดงให้เห็นหลายครั้งแล้วว่าเมื่อเพิ่มการบังคับใช้ (นโยบายตรวจคนเข้าเมือง) แบบไม่เลือกหน้าในพื้นที่นั้นลดอัตราการแจ้งเหตุอาชญากรรมที่สูงอยู่แล้ว หรือสูงกว่า(ทั่วไป) ในหมู่ผู้อพยพ” ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลเดโมแครตหรือรีพับลิกัน หากผู้อพยพไม่มีประวัติอาชญากรรม ก็มักจะได้รับการปล่อยตัวระหว่างรอการพิจารณาให้เข้าเมือง แต่ในรัฐบาลใหม่ แนวทางนี้อาจเปลี่ยนแปลงไปเป็นการบังคับกักขัง เดวิด ลีโอโพล ทนายความด้านกฎหมายคนเข้าเมือง กล่าวกับวีโอเอว่า “ถ้าผมเป็นผู้พำนักถาวรถูกต้องตามกฎหมาย เป็นคนถือกรีนการ์ด ผมจะต้องมั่นใจเลยว่ากรีนการ์ดของผมอยู่กับตัว” ทีมงานของทรัมป์เคยโต้แย้งว่ามาตรการเข้มงวดข้างต้นจะเป็นเครื่องป้องปรามไม่ให้อาชญากรข้ามแดนเข้ามา แต่เบียร์พบว่าผลกลับไม่เป็นไปตามนั้นในรัฐบาลทรัมป์ 1.0 เขากล่าวว่า “การส่งคนกลับประเทศขนานใหญ่จะไปลดทอนการให้ความสำคัญกับผู้ละเมิดกฎหมายร้ายแรง เมื่อรัฐบาลทรัมป์ขึ้นสู่อำนาจครั้งที่แล้ว พวกเขายกเลิกเกณฑ์ทั้งหมดที่มุ่งเป้าไปยังผู้ละเมิดกฎหมายร้ายแรงและผู้ต้องคดีอาญาเป็นอันดับแรก และผลที่ได้รับ ก็ไม่น่าประหลาดใจเลยว่า ICE (หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง) เพิ่มยอดการจับกุมผู้ไม่ใช่อาชญากรเป็นสองเท่า” ผู้เชี่ยวชาญจาก Cato Institute กล่าวว่าในช่วงเวลาเดียวกัน จำนวนอาชญากรที่ข้ามแดนเข้าสหรัฐฯ เพิ่มจำนวนขึ้นถึงสามเท่า ทรัมป์กล่าวว่าจะเดินหน้าออกมาตรการตรวจคนเข้าเมืองตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ในวันที่ 20 มกราคม 2025 รายงานต้นฉบับจากเอลีน แบร์รอส ผู้สื่อข่าววีโอเอ