มข.เดินหน้า Health care ดูแลคนไทย สร้างระบบ AI ช่วยงานวิจัยด้านสุขภาพ
"เศรษฐกิจโมเดลใหม่ ที่เรียกว่า BCG (Bio-Circular-Green Economy)"สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของ SDGs ประกอบด้วยด้านสุขภาพการแพทย์ ด้านเกษตรอาหาร ด้านพลังงานและวัสดุชีวภาพ ด้านการท่องเที่ยวเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยมีด้าน circular และ digital เป็นฐ
- Dec 07 2020
- 186
- 9967 Views
"เศรษฐกิจโมเดลใหม่ ที่เรียกว่า BCG (Bio-Circular-Green Economy)"สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของ SDGs ประกอบด้วยด้านสุขภาพการแพทย์ ด้านเกษตรอาหาร ด้านพลังงานและวัสดุชีวภาพ ด้านการท่องเที่ยวเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยมีด้าน circular และ digital เป็นฐาน cross cutting technology platform โดยพิธีลงนามความร่วมมือ Thailand A.I. University Consortium-NVIDIA By PMU-C โครงการที่ทางหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) หรือ PMU-C กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ได้ผลักดันให้ภาคีเครือข่ายมหาวิทยาลัยปัญญาประดิษฐ์ไทย (Thailand A.I. University Consortium) ทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยCMKL มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยมหิดล มีส่วนร่วมและเข้าร่วมเป็นเครือข่าย NVAITIC ของบริษัท NVIDIA ผู้ผลิต GPU machine กลไกสำคัญของหน่วยประมวลผลทางด้านปัญญาประดิษฐ์ของโลก เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพให้แก่นักวิจัยไทยในการสร้างสรรค์ และนำปัญญาประดิษฐ์ (A.I. : Artificial Intelligence) เข้ามาช่วยในการสร้างองค์ความรู้ในงานวิจัยใหม่ๆ นวัตกรรม และ เครื่องมือทางการแพทย์
ศ.ดร.มนต์ชัย ดวงจินดา รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา และประธานกรรมการศูนย์เครื่องมือวิจัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมีนโยบายให้ทุกคณะ ไม่ว่าจะเป็น คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะมนุษยและสังคมศาสตร์ และคณะอื่นๆ ได้ขับเคลื่อนนักวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ A.I. ในทุกมิติ โดยเฉพาะมิติด้านการแพทย์สุขภาพ (Medical Health) และด้านเกษตรและอาหาร โดยจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน
"ตอนนี้ A.I. มีความสำคัญอย่างมากในการเข้ามาช่วยงานวิจัย การจัดเก็บ การประมวลข้อมูลและสร้างนวัตกรรม โดยเฉพาะข้อมูลทางการแพทย์และสุขภาพที่มีจำนวนมาก ซึ่งการที่ทาง มข.ได้เข้าร่วมเป็น 1 ในมหาวิทยาลัยเครือข่าย NVAITIC ของบริษัท NVIDIA ที่มีภาคีเครือข่ายมหาวิทยาลัยปัญญาประดิษฐ์ไทย และมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลกกว่า 40 แห่ง จะเป็นใช้ A.I. มาช่วยจัดการ Data ให้เกิดประสิทธิภาพในงานวิจัย การรักษาโรคต่างๆ อีกทั้งจะเป็นการสร้าง Ecosystem ให้เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยไทยร่วมด้วย" ศ.ดร.มนต์ชัย กล่าว
นักวิจัยไทย เก่ง มีศักยภาพมีการศึกษาค้นคว้าเรื่องของการแพทย์สุขภาพ และการจัดการทางการแพทย์มากมาย แต่ที่ผ่านมายังไม่มีระบบการจัดเก็บข้อมูลร่วมกัน เป็นต่างคนต่างเก็บ เมื่อจะนำมาใช้ข้ามมหาวิทยาลัยก็เป็นเรื่องยาก ความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้น ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ งานวิจัย และร่วมกันพัฒนา A.I. นวัตกรรมเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ได้จริง ลดการพึ่งพาจากต่างประเทศ
โครงการนำร่องของมข. จะดำเนินการสร้างระบบเตือน ระบบการรักษาที่แม่นยำ การประมวลผลจากภาพ ในส่วนของโรคพยาธิใบไม้ในตับ โรคมะเร็งท่อน้ำดี โรคระบาดที่มีแมลง ยุงเป็นพาหะโรคไข้เลือดออก เนื่องจากโรคเหล่านี้ เป็นโรคที่มีการระบาดในพื้นที่ภาคอีสาน และทางมข.เองได้มีฐานข้อมูล (Data) เรื่องนี้ อันจะนำไปสู่การสร้างสุขภาพ และลดอัตราการป่วยในโรคดังกล่าว
ศ.ดร.มนต์ชัย กล่าวต่อว่า สมัยก่อนกว่าจะวิเคราะห์ได้ว่าแมลง ยุง หรือสินค้าการเกษตรจะเป็นพาหะโรคหรือไม่ ต้องใช้เวลา แต่หลังจากนี้ ทุกอย่างจะง่าย รวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น จะมีการสร้างระบบ A.I. ผู้ช่วยนักวิจัย ผู้ช่วยแพทย์ในการประมวลผล ว่าแมลง ยุง หรือผลิตภัณฑ์การเกษตรเหล่านั้นจะมีเชื้อ เป็นพาหะโรคหรือไม่ เพียงวิเคราะห์จากภาพถ่าย และข้อมูลที่มีเป็นแสนๆ เรื่อง ประมวลผลออกมาอย่างชัดเจน แม่นยำ เพราะต้องยอมรับว่าด้วยข้อมูลที่มีอยู่มากมาย A.I. จะเข้ามาช่วยแพทย์ นักวิจัยให้ทำงานได้รวดเร็วมากขึ้น ขณะเดียวกันยังสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลจากมหาวิทยาลัยอื่นๆ ช่วยการวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
"มข.มุ่งเน้นการส่งเสริม สุขภาพคน ชุมชน เกษตรกรรม อาหาร โดยศึกษาวิจัยในทุกด้านและสร้างสรรค์นวัตกรรม เครื่องมือทางการแพทย์ต่างๆ โดยมข.ได้มีการจัดตั้งศูนย์จริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยศูนย์นี้จะทำหน้าที่ตรวจสอบจริยรรมมนุษย์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม เครื่องมือทางการแพทย์ที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการป้องกัน การรักษาชีวิตคน อีกทั้งการจะผลักดัน Health care and Tourism หรือการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้ได้นั้น จะต้องทำให้เกิดความเชื่อมั่นทั้งการบริการ การรักษาทางการแพทย์ รวมถึงเครื่องมือออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องได้มาตรฐาน ช่วยให้โรงพยาบาลไทยมีเครื่องมือทางการแพทย์ใช้เอง ลดต้นทุนการนำเข้าที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล" ศ.ดร.มนต์ชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม มข.ได้มีการจัดโครงการเสริมสร้างศักยภาพและขับเคลื่อนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศระดับทวิภาคีและพหุภาคี : ปัญญาประดิษฐ์ด้านการดูแลสุขภาพ (AI for Healthcare) เพื่อความเป็นเลิศด้านการแพทย์ เสริมความเข้มแข็งด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยใช้นวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ ผ่านเครือข่ายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศ ตลอดจนเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางด้านวิชาการกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก และจะมีการเชื่อมโยงกับภาคเอกชน เพื่อจัดทำงานวิจัยที่สามารถใช้ได้จริงในเชิงอุตสาหกรรมทางการแพทย์ต่อไป
ด้าน รศ.ดร.สิรี ชัยเสรี ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) หรือ PMU-C กล่าวว่า บพข. ได้มีการสนับสนุนทุนวิจัยและการสร้างสรรค์นวัตกรรม เทคโนโลยีต่างๆ ให้แก่มหาวิทยาลัย ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ เป็นนิมิตรหมายที่ดีในการสร้างความร่วมมือของกลุ่มมหาวิทยาลัยที่มีองค์ความรู้ เชี่ยวชาญงานวิจัยทางด้านการแพทย์ และวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งอุตสาหกรรมทางการแพทย์ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อน เพิ่มขีดความสามารถให้แก่ประเทศ
"มหาวิทยาลัยไทยมีผลงานวิจัยจำนวนมาก แต่ที่ผ่านมาจะเป็นลักษณะต่างคนต่างทำ ทำให้มีข้อมูล Data จำนวนมากและกระจัดกระจาย เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีการจัดเก็บแตกต่างกัน อาจทำให้ไม่เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน แต่ต่อไปเมื่อมีภาคีเครือข่ายมหาวิทยาลัยปัญญาประดิษฐ์ไทย (Thailand A.I. University Consortium) ในครั้งนี้ โดยเริ่มจากมหาวิทยาลัยในกลุ่มแพทย์และวิศวกรรมศาสตร์ ก่อนจะขยายไปกลุ่มเกษตรศาสตร์ จะทำให้มหาวิทยาลัยต่าง สามารถใช้ A.I. ในการสร้างระบบต่างๆ ช่วยงานวิจัย และการแพทย์ได้ดีมากยิ่งขึ้น อีกทั้งจะเป็นการสร้างภาคีเครือข่ายมหาวิทยาลัยไทยในการสร้างนวัตกรรมภายใต้งานวิจัยที่สามารถใช้ได้จริง" รศ.ดร.สิรี กล่าว
ในโครงการดังกล่าว ได้มีการจัดงบประมาณสนับสนุนมหาวิทยาลัย ประมาณ 188 ล้านบาท ต่อปี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของนักวิจัยไทย ยกระดับงานวิจัยทางการแพทย์ และวิศวกรรมศาสตร์ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมทางการแพทย์ ซึ่งเป็นจะกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักของไทย โดยใช้ AI เข้าช่วย