motortrivia

●   หลังโชว์ตัวไปในงาน Motor Expo 2023 ช่วงปลายปีที่ผ่านมา วันนี้คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ ประเทศไทย ก็ประกาศเปิดราคาจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Kawasaki Ninja e-1 ในไทยอย่างเป็นทางการที่ 276,000 บาท ใครสนใจคาวาซากิระบุว่าตัวรถจะมาแบบจำนวนจำกัดครับ

●   Ninja e-1 มากับภาพลักษณ์ในแบบฉบับบมอเตอร์ไซค์ตระกูล Ninja ไซส์ 125 cc ตัวรถพัฒนาขึ้นบนเฟรมแบบ Trellis frame เช่นเดียวกับ Ninja H2 ระยะฐานล้อ 1,370 มม., ช๊อคฯ หน้าแบบ Telescopic เส้นผ่านศูนย์กลาง 41 มม., ช๊อคฯ หลังแบบ Bottom-Link Uni-Trak, gas-charged สามารถปรับสปริงพรีโหลดได้ 4 ระดับ ระบบเบรคแบบดิสค์เบรคหน้า/หลัง จานเบรคหน้าขนาด 290 มม. คาลิเปอร์เบรคแบบ 2 ลูกสูบ แม่ปั๊มเบรกบน, จานเบรคหลังขนาด 220 มม. คาลิเปอร์เบรค 2 ลูกสูบ, ล้อหน้าขนาด 100/80-17 M/C 52S และล้อหลังขนาด 130/70-17 M/C 62S

●   อุปกรณ์มาตรฐานทันยุคสมัยด้วยระบบไฟ LED รอบคัน, มาตรวัดฟูลดิจิทัลแสดงผลด้วยจอ TFT ขนาด 4.3 นิ้ว ตัวจอมีสีดำและขาว โดยสีจอจะเปลี่ยนเป็นสีดำเมื่อแสงน้อยลง หรือสามารถตั้งค่าสีได้ตามต้องการ การแสดงผลมี โหมดการขับขี่ (Riding mode indicator), e-Boost gauge, เกจวัดอุณภูมิแบตเตอรี่, เกจวัดระดับแบตเตอรี่, นาฬิกา, การแจ้งเตือนจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ (Bluetooth, เมล, สมาร์ทโฟน), ตำแหน่งเกียร์ (N, D, F, R), เกจวัดความเร็ว, เกจวัดระยะทาง, ระยะทางที่เหลือที่สิ่งได้, ทริป และอื่นๆ

●   ตัวระบบรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่น RIDEOLOGY และมีฟังก์ชั่นการใช้งาน อาทิ Vehicle Info แสดงข้อมูลรถผ่านแอพฯ, Riding Log แสดงเส้นทางการขี่, Telephone Notice เตือนผู้ขี่เมื่อมีสายหรืออี-เมลเข้า, Tuning-General Setting ตั้งค่าหน้าจอผ่านแอพพลิเคชั่น, Communication (Sharing) แชร์โปรไฟล์ผู้ขี่ – ตำแหน่ง และบันทึกการขี่ผ่าน RIDEOLOGY, Ranking การจัดอันดับระยะทางที่ใช้ในการเดินทางของผู้ขี่ที่ใช้แอพฯ RIDEOLOGY และ Maintenance Log ตรวจสอบประวัติการบำรุงรักษาตามระยะ

●   ระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าชนิดไร้แปรงถ่าน (Brushless Electric Motor) กำลังสูงสุดผลิตได้ 9 กิโลวัทท์ หรือประมาณ 12 แรงม้า (PS) แบตเตอรี่แพคชนิดลิเธียม-ไอออน แบบถอดได้ 2 แพค (Dual Removable Batteries) รองรับการชาร์จได้ 3 แบบระหว่าง 1. ใช้อแดปเตอร์ชาร์จตรงเข้าแบตเตอรี่ 2. ใช้อแดปเตอร์ชาร์จผ่านแท่นชาร์จ หรือ 3. ใช้อแดปเอตร์ชาร์จผ่าน Off-board ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 72 กม. จากการทดสอบตามมาตรฐาน WMTC Class 1 (โหมด Eco)

●   การสตาร์ทใช้วิธีเปิดสวิทซ์กุญแจ ตัวบอกตำแหน่งเกียร์จะโชว์ตำแหน่ง N เป็นลำดับแรก เมื่อเอาขาตั้งขึ้นและกดปุ่ม Drive Ready ตัวบอกตำแหน่งเกียร์จะโชว์ตำแหน่ง D โหมดในการขี่มี 2 โหมด ประกอบด้วยโหมด Road ใช้ความเร็วสูงสุดได้ 88 กม./ชม. และโหมด Eco ใช้ความเร็วสูงสุดได้ 64 กม./ชม. ผู้ขี่สามารถเปลี่ยนโหมดได้ตามจ้องการด้วยกดสวิทซ์บนแฮนด์ด้านซ้าย

●   ใครต้องการพละกำลังในช่วงเร่งแซง สามารถใช้ฟังก์ชั่น e-Boost ได้ 15 วินาทีด้วยการกดสวิทช์ที่แฮนด์ด้านขวา จากนั้นมาตรวัดจะแสดงตัวเลขนับถอยหลังให้จาก 15 วินาที เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาในการใช้งาน ตัวระบบจะออกจากโหมด e-Boost โดยอัตโนมัติ และใช้เวลาคูลดาวน์ 75 วินาที เพื่อป้องกันความร้อนที่มากเกินไป

●   ทั้งนี้ โหมด e-boost จะเพิ่มความเร็ว จาก 64 กม./ชม. เป็น 75 กม./ชม. ในโหมด Eco และจาก 88 กม./ชม. เป็น 99 กม./ชม. ในโหมด Road… อย่างไรก็ตาม เมื่อระดับแบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 35% ระบบจะตัดเข้าสู่โหมดจำกัดพลังงาน (หน้าจอจะมีไอคอนเต่าโชว์) และจะไม่สามารถใช้งานฟังก์ชั่น e-Boost ได้

●   นอกจากนี้ยังมีโหมด Walk (with Reverse) เพื่อเพิ่มความสะดวกในขณะจอด ผู้ขี่สามารถเปลี่ยนไปใช้ Walk Mode ได้ด้วยกดปุ่มค้างไว้เมื่อรถหยุดนิ่ง และคันเร่งถูกปิด เมื่อ Walk Mode เปิดทำงาน คันเร่งจะช่วยเดินหน้าด้วยความเร็วประมาณ 5 กม./ชม. และเมื่อบิดคันเร่งเกินตำแหน่งตั้งต้นของคันเร่ง ตัวรถจะถอยหลังด้วยความเร็วประมาณ 3 กม./ชม.

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติม หรือชมคันจริงก่อนตัดสินใจได้ที่โชว์รูมคาวาซากิทั่วประเทศ หรือลงทะเบียนรับข้อเสนอได้ที่ kawasaki.co.th/th/subscribe หรือค้นหาตัวแทนจำหน่าย kawasaki.co.th/th/dealer หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซท์ kawasaki.co.th/th/motorcycle/ninjae1 หรือแอด Line OA: @KawasakiTHA หรือเฟซบุ๊ค : facebook.com/KawasakiMotorsThailand ●

2025 Kawasaki Ninja e-1

The post มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Kawasaki Ninja e-1 เปิดราคาในไทย appeared first on motortrivia.