2025 McLaren W1 ซูเปอร์คาร์ไฮบริดที่แรงที่สุดของแบรนด์แมคลาเรน
เรื่อง : AREA 54 ● แมคลาเรน สานต่อความสำเร็จของซูเปอร์คาร์ “1 series” อย่าง McLaren F1 และ McLaren P1 ด้วยการเปิดตัว McLaren W1 ซูเปอร์คาร์พลังไฮบริดรุ่นใหม่ซึ่งมีพละกำลังมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสายการผลิตของแบรนด์แมคลาเรน ตัวรถผลิตขึ้นบนแพลท
เรื่อง : AREA 54
● แมคลาเรน สานต่อความสำเร็จของซูเปอร์คาร์ “1 series” อย่าง McLaren F1 และ McLaren P1 ด้วยการเปิดตัว McLaren W1 ซูเปอร์คาร์พลังไฮบริดรุ่นใหม่ซึ่งมีพละกำลังมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสายการผลิตของแบรนด์แมคลาเรน ตัวรถผลิตขึ้นบนแพลทฟอร์มน้ำหนักเบารุ่นใหม่ และมีอากาศพลศาสตร์ที่ดีที่สุดโดยใช้หลักการ Ground Effect แบบเดียวกับรถ Formula 1 ซึ่งตัวแข่ง MCL38 ของแมคลาเรนในฤดูกาล 2024 นั้นนับเป็นรถที่เร็วที่สุดบนแทร็ค ณ ปัจจุบัน
● แมคลาเรนพัฒนา W1 ขึ้นบนแพลทฟอร์มใหม่ MCLA หรือ McLaren Carbon Fibre Lightweight Architecture ตัวรถยังคงอยู่ในรูปโฉมของสปอร์ตตัวถังคูเป้ ประตูแบบ Gull-wing เลย์เอาท์เครื่องยนต์แบบวางกลางตามยาว ขับเคลื่อนล้อหลัง (Longitudinal mid-engine, rear-wheel-drive)
● ขนาดตัวมีความยาว 4,635 มม. กว้าง 2,191 มม. สูง 1,182 มม. ความยาวฐานล้อ 2,680 มม. น้ำหนักตัวประมาณ 1,399 กก. อัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนัก 899 แรงม้า/ตัน (power-to-weight ratio) นับว่าดีที่สุดในรถคลาสเดียวกัน
● อุปกรณ์มาตรฐานในห้องโดยสารมี มาตรวัดฟูลดิจิทัล, จอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว รันด้วยระบบปฏิบัติการ MIS II (McLaren Infotainment System) รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay, พอร์ท USB Type-A / Type-C, ที่วางแก้วแบบสไลด์, เบาะหุ้มหนังสลับ Alcantara, ชุดระบบซาวด์ซิสเต็มของ Bowers & Wilkins พื้นที่บรรทุกสัมภาระมีขนาด 117 ลิตร… พอใส่กระเป๋าเดินทางจิ๋วๆ ได้ 2 ใบ
● ไฮไลท์สำคัญคือแพคเกจแอร์โรไดนามิคส์ ซึ่งแมคลาเรนออกแบบให้แพคเกจรอบคันสามารถ “เปลี่ยนรูปร่างของรถได้” (shape shift) ตามโหมดในการขับ เช่น ในโหมด Race ปีกหลังแบบ Active Long Tail wing ซึ่งทำงานแบบแอคทีฟ จะช่วยขยายพื้นที่ดิฟฟิวเซอร์ให้ช่วยจัดระเบียบอากาศจากใต้ท้องรถเพื่อสร้าง Ground Effect ในการการยึดเกาะ นอกเหนือไปจากการทำหน้าที่เป็น DRS (Drag Reduction System) ช่วยเพิ่มความเร็วบนทางตรง หรือปิดและยกตัวเพื่อทำหน้าที่เป็น Air brake เป็นต้น
● นอกจากนี้ ในโหมด Race ชุดระบบ Active Chassis Control III จะทำการลดความสูงตัวรถด้านหน้าลง 1.46 นิ้ว ด้านหลัง 0.7 นิ้ว ยังผลให้แพคเกจแอร์โรไดนามิคส์ สามารถสร้างดาวน์ฟอร์ซ ทางด้านหน้าได้สูงสุด 350 กก. และด้านหลัง 1,000 กก. ช่วยให้ตัวรถสามารถรักษาเสถียรภาพได้อย่างมั่นคงในโค้งความเร็วสูง
● ช่วงล่างใช้แดมเปอร์ที่พ่วงกับช๊อคฯ แบบก้านกระทุ้ง (Pushrod) ชุดเบรคสมรรถนะสูง MCCR+ (McLaren Carbon Ceramic Racing+) คาลิเปอร์หน้า 6 ลูกสูบ หลัง 4 ลูกสูบ ส่วนยางเลือกได้หลายออปชั่น เช่น Pirelli P Zero Trofeo RS ยางสเปคแทร็คที่วิ่งได้บนถนนหลวง, Pirelli P Zero R หรือยางฤดูหนาว Pirelli P Zero Winter 2 ไซส์ยางหน้าขนาด 265/35 ส่วนด้านหลัง 335/30
● ระบบขับเคลื่อนไฮบริด ใช้เครื่องยนต์เบนซินอลูมิเนียมบล็อคใหม่ รหัส MHP-8 แบบ V8 ความจุ 4.0 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงตรง กระบอกสูบเคลือบพลาสมา อัดอากาศด้วยทวิน-เทอร์โบชาร์จ จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า McLaren F1 E-Motor ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ คลัทช์คู่ เดินหน้า 8 จังหวะ และใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่เป็นเกียร์ถอยหลัง (E-Reverse) โดยมอเตอร์ไฟฟ้าและคอนโทรลยูนิท จะถูกออกแบบให้ควบควมเป็นแพคเกจเดียวกัน
● แบตเตอรี่แพคมีความจุ 1.384 กิโลวัทท์-ชม. โหมดไฟฟ้าล้วนวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 2.6 กม. พอแค่ให้ย่องออกจากบ้านไปปากซอยเงียบๆ
● กำลังสูงสุดผลิตได้ถึง 1,258 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 136.5 กก.-ม. อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 2.7 วินาที 0 – 200 กม./ชม. ภายใน 5.8 วินาที วิ่งควอเตอร์ไมล์ได้ภายใน 9.6 วินาที ท๊อปสปีดจำกัดเอาไว้ที่ 350 กม./ชม. เพื่อความปลอดภัย… ระยะเบรคจากความเร็ว 200 กม./ชม. จนถึงจุดหยุดนิ่ง 100 ม.
● และ W1 ยังทำความเร็วได้ถึง 300 กม./ชม. ภายในเวลาไม่ถึง 12.8 วินาที และทำเวลาต่อรอบได้ดีกว่า McLaren Senna ซึ่งเป็นรถสเปคสนามโดยเฉพาะที่แทร็ค Nardo ด้วย หมายความว่า W1 คือรถที่เร็วที่สุดของแบรนด์แมคลาเรนที่สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายบนถนนหลวง
● แมคลาเรนเปิดราคาจำหน่าย W1 เริ่มต้นที่ 2.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 70.3 ล้านบาท จำนวนการผลิตจำกัดเอาไว้ที่ 399 คันเท่านั้น… แน่นอนว่าทั้งหมดมีเจ้าของไปเรียบร้อยแล้ว ทุกคันสามารถเลือกการตกแต่งแบบเฉพาะตัวได้โดยใช้บริการจากแผนก MSO (McLaren Special Operations) ●
2025 McLaren W1
The post 2025 McLaren W1 ซูเปอร์คาร์ไฮบริดที่แรงที่สุดของแบรนด์แมคลาเรน appeared first on motortrivia.