เรื่อง : AREA 54

●   เข้าสู่ช่วงครึ่งแรกของปี 2024 สถานการณ์ของยอดจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้ายังคงมีแนวโน้มลดลงทั่วโลก ล่าสุดเยอรมนีซึ่งเป็นแหล่งผลิตรถยนต์ที่สำคัญในโซนยุโรป และกำลังค่อยๆ ปรับตัวเข้าสู่ยุคไฟฟ้า ยอดจำหน่ายลดลง -16.4% แม้ว่ายอดรวมของรถทุกประเภทจะเพิ่มขึ้น +5.4% ก็ตาม… ในจำนวนนี้แบรนด์หรูอย่าง Audi และ Mercedes-Benz ก็มีตัวเลขลดลง ในขณะรถราคาเบาลงอย่าง Peugeot, SEAT และ Skoda เติบโตขึ้น

●   ที่สำคัญ การบุกตลาดโลกโดยเฉพาะในยุโรปโดยรถจากประเทศจีนนั้นได้ผล เพราะ BYD มียอดเพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วนถึง +427% หมายความว่าชื่อชั้นของแบรนด์นั้นเริ่มไม่มีความสำคัญเท่ากับราคาในสายตาของผู้บริโภคในโซนยุโรปอย่างชัดเจน

●   ในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ผู้เล่นหลักอย่าง Tesla เคยสามารถเก็บยอดจำหน่ายในยุโรปไปได้ทั้งหมด 185,238 คัน คิดเป็นอัตราส่วนเพิ่มขึ้น +117% เมื่อเทียบกับปี 2022 ทว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2024 นี้ ยอดขายของ Tesla ดิ่งลงเหลือเพียง 21,249 คัน (นับจากเดือนมกราคม – มิถุนายน) คิดเป็นสัดส่วน -41.6% และหากดูเฉพาะตัวเลขของเดือนมิถุนายน Tesla มียอดจำหน่ายในเยอรมนีเพียง 4,648 คัน ในขณะที่ MG มียอดแซงหน้าขึ้นไปที่ 5,158 คัน (นับรวมรถในกลุ่ม NEVs)

2025 Tesla Model 3 Performance

●   อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมนั้น ตลาดรถยนต์ในเยอรมนีหลังเข้าสู่ช่วงครึ่งแรกของปี 2024 มีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมถึง 1,470,000 คัน คิดเป็นสัดส่วน +5.4% หากดูเฉพาะตัวเลขของเดือนมิถุนายนนั้น ยอดจำหน่ายจะอยู่ที่ 297,329 คัน เพิ่มขึ้น +25.8% เช่นกัน นั่นเท่ากับว่าตลาดรถยนต์นั่งโดยรวมนั้นยังคงขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดีอยู่ เพียงแต่ความต้องการของรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้นเริ่มหดตัวลง

●   เมื่อดูตัวเลขแบบเจาะเป็นแบรนด์ ใช่ว่าแบรนด์หรูจะย่ำแย่ไปทั้งหมด BMW มียอดจำหน่ายที่ 114,690 คัน (+2.7%), Volkswagen มียอดจำหน่าย 289,218 คัน (+11%), Porsche นั้นทำได้ดีเมื่อเทียบกับราคาโดยเฉลี่ยในตลาดไฮเอนด์ที่ 21,885 คัน (+19.2%) และ Volvo ซึ่งมียอด 31,763 คัน (+59.6%) นับว่าทำได้ดีที่สุดจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่าง Volvo EX30

●   สำหรับฝั่งที่ตัวเลขลดลง Audi มียอดจำหน่ายที่ 104,164 คัน (-17.1%) Mercedes-Benz ยอดจำหน่าย 126,847 คัน (-12.7%), Jaguar ยอดจำหน่าย 1,371 คัน (-15.5%) ตามมาด้วย Maserati ซึ่งกำลังพบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากสุดๆ ด้วยตัวเลขยอดจำหน่ายเพียง 300 คัน (-56.9%) และ Lynk & Co จากสวีเดน ขายได้เพียง 40 คัน (-97.6%)

●   ด้านรถที่มีราคาเหมาะสมสำหรับเราๆ ซึ่งเป็นมนุษย์ทั่วไป Peugeot มียอดจำหน่าย 32,665 คัน (+40.6%), SEAT มียอดจำหน่าย 83,426 คัน (+37.9%), Skoda มียอดจำหน่าย 104,248 คัน (+24.9%), Opel มียอดจำหน่าย 77,235 คัน (+15.5%)

2024 Toyota Yaris

แบรนด์เอเชีย ยังยืนอยู่ได้

●   แบรนด์ญี่ปุ่นที่ยังยืนหยัดในตลาดเยอรมนี Toyota ดีที่สุดในกลุ่ม ยอดจำหน่าย 44,779 คัน (+18.9%), Mitsubishi มียอดจำหน่าย 16,748 คัน (+123.3%), Nissan มียอดจำหน่าย 16,455 คัน (+4.9%), Suzuki มียอดจำหน่าย 12,488 คัน (+8.0%), Honda มียอดจำหน่าย 3,590 คัน (+37.1%), Subari มียอดจำหน่าย 2,237 คัน (+7.9%) และ Lexus มียอดจำหน่าย 2,209 คัน (+56.0%)

●   ด้านแบรนด์จากเกาหลีใต้ KIA ทำได้ดีที่สุด ยอดจำหน่าย 35,912 คัน (+1.8%), Hyundai แม้ตัวเลขจะมากกว่าที่ 49,616 คัน แต่คิดเป็นสัดส่วนลดลง -0.8% ปิดท้ายด้วย SsangYong ยอดจำหน่าย 1,107 คัน (+3.0%)

●   แบรนด์จีน นำโดย Great Wall Motor 1,375 คัน (+118.9%), Nio ยอดจำหน่าย 234 คัน (-33.1%), Maxus ยอดจำหน่าย 44 คัน (+214.3%), Aiways ยอดจำหน่าย 23 คัน (-41.0%) และ XPeng ซึ่งเพิ่งเริ่มจำหน่าย มียอดขาย 31 คัน

●   ส่วน BYD ซึ่งมาแรงสุดๆ ด้วยตัวเลข 1,202 คัน (+427%) หลายท่านอาจจะคิดว่าทำไมตัวเลขยอดจำหน่ายแค่ 1.2 พันคันมีความสำคัญ? อย่าลืมว่า BYD เพิ่งเริ่มลุยยุโรปจริงๆ จังๆ เท่านั้น และในปี 2023 ที่ผ่านมา พวกเขาก็กลายเป็นผู้ผลิตระดับโลกที่มียอดจำหน่ายรถไฟฟ้าทั่วโลกเป็นอันดับ 2 เป็นรองแค่เพียง Tesla ในตลาด EV ดังนั้นสงครามราคาในยุโรปเพิ่งเริ่มยกแรกเท่านั้น ●

2025 Volkswagen ID.3 GTX

25 แบรนด์ที่มียอดจำหน่าย 6 เดือนแรกเกินหลักหมื่นคันในเยอรมนี

The post ยอดขายรถ EV ในเยอรมนีลดลงหลังเข้าสู่ครึ่งแรกของปี 2024 appeared first on motortrivia.