motortrivia

●   อีซูซุ ประเทศไทย เข้าร่วมโครงการสร้างสรรค์อนาคตของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา หรือ “The Global South Future-Oriented Co-Creation Project (large-scale demonstration in ASEAN member countries)” ของ METI* เพื่อทดลองโซลูชั่นสลับแบตเตอรี่ (Battery-swapping Solution) ในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะช่วยแก้ปัญหาด้านโลจิสติคส์และพลังงาน เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในประเทศไทย

*กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม หรือ Ministry of Economy, Trade and Industry ของประเทศญี่ปุ่น

●   มร. ชินสุเกะ มินามิ (Shinsuke Minami) ประธาน บริษัท อีซูซุมอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น สำนักงานใหญ่เมืองโยโกฮามา จังหวัดคานางาวะ และ มร. คัตสึยะ นาคานิชิ (Katsuya Nakanishi) ประธาน บริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น สำนักงานใหญ่เขตชิโยดะ กรุงโตเกียว ได้ร่วมกันยื่นสมัครโครงการนี้ ซึ่งเป็นโครงการทดลองขนาดใหญ่ในอาเซียนของกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) เพื่อขอรับเงินสนับสนุนประจำปี 2023 โดยตั้งแต่ปีงบประมาณ 2025 อีซูซุและมิตซูบิชิ จะดำเนินโครงการทดลองในประเทศไทยเพื่อแนะนำโซลูชั่นสลับแบตเตอรี่ และการเชื่อมต่อภาคส่วนต่างๆ เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานไฟฟ้า

●   โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และสนับสนุนกลุ่มประเทศเหล่านี้ให้เป็นพื้นที่ในการดำเนินโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาของกลุ่มประเทศดังกล่าว รวมถึงใช้ประโยชน์จากศักยภาพการเติบโตของตลาดในภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายที่จะนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมในญี่ปุ่น และเสริมสร้างอุตสาหกรรมในประเทศด้วย

●   อีซูซุ และ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมกันพัฒนาธุรกิจรถเพื่อการพาณิชย์ในประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ในกลุ่มประเทศอาเซียนมาตั้งแต่ปี 1957 โดยอีซูซุได้จัดตั้งโรงงานหลักในการผลิตรถปิกอัพในประเทศไทย 2 แห่ง และสร้างห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งด้วยการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศกว่า 90% เพื่อประกอบและผลิตรถ นอกจากนี้ ดีลเลอร์อีซูซุได้ดูแลลูกค้าผ่านกิจกรรมการขายและการตลาด ทั้งรถปิกอัพและรถบรรทุกมาอย่างยาวนาน โดยได้รับความไว้วางใจจากคนไทยในวงกว้าง และมีส่วนแบ่งตลาดในสัดส่วนสูง ทั้งยังมีส่วนสนับสนุนการพัฒนาและการขยายตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยมาตลอด

●   จากนโยบายส่งเสริมความเป็นกลางทางคาร์บอนผ่าน “โซลูชั่นส์อันหลากหลาย” (multi-pathways) ที่ระบุไว้ในแผนบริหารจัดการระยะกลางของอีซูซุ (การเปลี่ยนผ่านของอีซูซุ : การเติบโตสู่ปี 2030 หรือ IX) ประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญที่สุดของทั้ง 2 บริษัท และเป็นผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์อาเซียนโดยรวม ได้รับเลือกให้ดำเนินการในโครงการทดลองนี้

●   โครงการทดลองนี้ จะใช้เครื่องมือการใช้งานจริงของโซลูชั่นสลับแบตเตอรี่ที่เรียกว่า “EVision Cycle Concept” ซึ่งอีซูซุได้เปิดตัวไปในงาน Japan Mobility Show 2023 เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งใช้เวลาสลับแบตเตอรี่ภายในเวลาไม่กี่นาที ช่วยหลีกเลี่ยงเวลาเสียเปล่าที่เกิดจากการชาร์จแบตเตอรี่แพค นอกจากนี้ การแยกตัวรถและแบตเตอรี่ออกจากกัน ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการจัดการพลังงานรูปแบบอื่นได้ เช่น การสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

●   โครงการนี้จะเริ่มขึ้นตั้งแต่ปีงบประมาณ 2025 เป็นต้นไป โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง 5 บริษัท รวมถึง อีซูซุ, มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น, บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ และจะได้รับความร่วมมือจากบริษัท Commercial Japan Partnership Technologies Asia (CJPT-Asia) จำกัด ในการสนับสนุนกิจกรรมความเป็นกลางทางคาร์บอนซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของประเทศไทยด้วย

●   อีซูซุระบุว่า ด้วยเป้าหมายในการสร้างสังคมที่เป็นกลางทางคาร์บอนทั่วโลก โครงการทดลองนี้จะส่งเสริมเทคโนโลยีสลับแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ให้มีความแพร่หลายมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันกำลังเผชิญกับความท้าทายในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานไฟฟ้า และเพื่อดำเนินการสร้างระบบพลังงานใหม่ รวมถึงพลังงานหมุนเวียนที่สถานีสลับแบตเตอรี่ ดังนั้นอีซูซุ และ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น จึงมุ่งมั่นจะร่วมกันพัฒนาและลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมรถเพื่อการพาณิชย์ในประเทศไทยต่อไป

●   และนอกจากโครงการนี้ ปัจจุบัน บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ได้ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เริ่มทดสอบการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ผสม HVO หรือ Hydrogenated vegetable oil ซึ่งเป็นน้ำมันไบโอดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่ สังเคราะห์จากน้ำมันพืชใช้แล้ว สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้สูงสุดถึง 30% ด้วย

●   สนใจติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซท์ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai ●

The post Isuzu ประเทศไทย ร่วมทดสอบโซลูชั่น Battery-swapping appeared first on motortrivia.