Tesla Cybercab แท๊กซี่อัตโนมัติของเทสล่า วางแผนผลิตปี 2027
เรื่อง : AREA 54 ● เทสล่า จัดอีเวนท์พิเศษ “We, Robot” ที่สตูดิโอของ Warner Bros. ในแคลิฟอร์เนีย นำเสนอแนวคิดการใช้ชีวิตในอนาคตที่พึ่งพาระบบอัตโนมัติ และปัญญาประดิษฐ์เต็มรูปแบบ พร้อมเผยโฉม 3 ต้นแบบ/โปรโตไทป์ระบบอัตโนมัติ ประกอบด้วยรถแท็กซี่ไร้คนขับ
เรื่อง : AREA 54
● เทสล่า จัดอีเวนท์พิเศษ “We, Robot” ที่สตูดิโอของ Warner Bros. ในแคลิฟอร์เนีย นำเสนอแนวคิดการใช้ชีวิตในอนาคตที่พึ่งพาระบบอัตโนมัติ และปัญญาประดิษฐ์เต็มรูปแบบ พร้อมเผยโฉม 3 ต้นแบบ/โปรโตไทป์ระบบอัตโนมัติ ประกอบด้วยรถแท็กซี่ไร้คนขับ Tesla Cybercab หรือ Tesla Robotaxi, รถโดยสารสาธารณะไร้คนขับ Tesla Robovan และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์เอนกประสงค์ Tesla Bot หรือ Optimus เจนเนอเรชั่นที่ 2
● งานนี้ Elon Musk ได้เตรียม Cybercab เอาไว้ประมาณ 20 คัน ให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสการใช้บริการรถ Robotaxi เป็นระยะทางสั้นๆ พร้อมระบุว่า คันจริงของ Cybercab สามารถขึ้นสายการผลิตได้ภายในปี 2026 – 2027 โดยมีราคาจำหน่ายต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 9.96 แสนบาทเท่านั้น
Tesla Cybercab
● เริ่มกันที่ Cybercab รถยนต์พลังงานไฟฟ้าไร้คนขับในกลุ่ม Robotaxi ซึ่งอยู่ในรูปโฉมของรถ 2 ประตู 2 ที่นั่ง ประตูเปิดแบบปีกผีเสื้อ (Butterfly doors) ฝาท้ายแบบรถลิฟท์แบค พื้นที่บรรทุกสัมภาระมีความจุมากกว่ารถในคลาสเดียวกัน งานออกแบบเน้นความเรียบง่ายด้วยการผสมผสานส่วนต่างๆ ระหว่าง Cybertruck, Model 3 และ Model Y เข้าด้วยกัน
● ห้องโดยสารออกแบบเรียบง่าย ไม่มีพวงมาลัยในการควบคุม และไม่มีกระจกมองข้าง หรือกระจกมองหลัง มีเพียงจอทัชสกรีนขนาดใหญ่สำหรับควบคุมเพื่อสั่งการการทำงานฟังก์ชั่นต่างๆ ของรถ ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้ Cybercab ยังไม่สามารถผลิตในเชิงปริมาณเพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าได้ จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยให้เรียบร้อยเสียก่อน
● ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของ Cybercab ยังไม่มีรายละเอียดในเวลานี้ เบื้องต้นตัวรถจะไม่มีพอร์ทชาร์จบนตัวถัง เนื่องจากเทสล่าตั้งเป้าจะใช้เทคโนโลยีรชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายชนิดแม่เหล็กเหนี่ยวนำ (Inductive charging) แทนที่การเสียบปลั๊กชาร์จแบบทั่วไป
● เดิมที ในช่วงปี 2020 หลังการทำตลาด Tesla Model Y สองผู้บริหารของเทสล่าอย่าง Franz von Holzhausen และ Lars Moravy เคยตั้งเป้าว่าจะให้ Elon Musk ออกแบบและผลิต Robotaxi โดยใช้แพลทฟอร์มร่วมกันกับรถในสายการผลิตที่มีราคาถูกลงอย่าง Tesla Model 3 เพื่อให้ทั้งคู่สามารถใช้สายการผลิตเดียวกันได้ ทว่าภายหลัง Musk และวิศวกรของเทสล่าได้หันไปพัฒนา Robotaxi บนแพลทฟอร์มใหม่ทั้งหมด ซึ่งนั่นทำให้ Cybercab มีต้นทุนต่ำลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
● คู่แข่งสำคัญของ Cybercab ก็คือ Waymo One ของบริษัท Waymo LLC ซึ่งวิ่งทดสอบเก็บข้อมูลบนนถนนจริงมาแล้วหลายปี และน้องใหม่อย่าง Verne ของบริษัท Rimac Automobili
Tesla Robovan
● ต่อด้วย Robovan รถโดยสารอัตโนมัติไร้คนขับ ซึ่งสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้สูงสุด 20 คน เบื้องต้นรถรุ่นนี้ยังเป็นเพียงรถต้นแบบที่ไม่มีกรอบเวลาในการผลิตที่แน่ชัด แนวคิดหลักๆ ของเทสล่าคือการใช้งานเป็นรถโดยสารสาธารณะ หรือสามารถใช้งานในเชิงพาณิชย์ด้วยการยกเบาะออกไปทั้งหมดเพื่อดัดแปลงให้เป็นรถขนส่งสินค้าอัตโนมัติก็ได้
● ตัวรถมากับงานออกแบบเรียบง่ายสุดๆ ในสไตล์ Pod ไร้ซุ้มล้อทั้งหน้าและหลัง ด้านข้างมีแผงกระจกขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง พื้นต่ำช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ทุพลภาพที่นั่งวีลแชร์ ด้านหน้าและด้านหลังมีพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่สำหรับรองรับสัมภาระของผู้โดยสารหลายคน
● ห้องโดยสารคล้ายๆ โบกี้รถไฟ ตกแต่งแบบเลาน์จ มีชุดไฟแอมเบียนท์โอบรอบ เลย์เอาท์เบาะแบบหันหน้าเข้าหากัน แยกโซนเป็น 3+4 และ 3+4 เพื่อเว้นช่องทางเข้า-ออกไปยังเบาะหลัง (ผู้แปลไม่แน่ใจว่าเมื่อใช้เลย์เอาท์แบบ 20 ที่นั่งจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร)… แน่นอนว่า Robovan ก็จะไม่มีพวงมาลัยและแป้นเหยียบใดๆ สำหรับควบคุมรถเช่นกัน
● อย่างไรก็ตาม Elon Musk ระบุว่า Robovan จะเป็นส่วนหนึ่งในแผนงานเครือข่ายสัญจรอัตโนมัติ หรือ “Tesla Network” ในอนาคต ซึ่งการจำหน่ายก็น่าจะเป็นลักษณะขายฟลีท และเรายังต้องรอความชัดเจนกันต่อไปอีกอย่างน้อยๆ ก็หลังปี 2027
Tesla Bot (Optimus)
● ปิดท้ายด้วย Tesla Bot หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Optimus” ฮิวแมนนอยด์โรบอท เจนเนอเรชั่น 2 ซึ่งรับหน้าที่ดูแล Dance Party ในอีเวนท์นี้ ทั้งเต้นโชว์ และให้บริการต่างๆ กับผู้ร่วมงาน
● Optimus นั้นเป็นหุ่นยนต์ที่เทสล่าเริ่มพัฒนาในช่วงก่อนปี 2020 และเผยโฉมเป็นครั้งแรกในงาน Tesla AI Day ปี 2021 ก่อนที่จะมีตัวโปรโตไทป์ในชื่อ Bumblebee ที่เคลื่อนไหวและใช้งานได้จริงในปี 2022 จุดประสงค์ของ Musk คือการเพิ่มศักยภาพในด้านธุรกิจของเทสล่า ซึ่ง “มีความสำคัญมากกว่าธุรกิจยานยนต์” ในระยะยาว รวมถึงใช้บริการให้ Optimus “ทำอะไรก็ได้ที่มุษย์ไม่อยากทำ”
● ในเบื้องต้น Optimus มีความสูงประมาณ 173 ซม. น้ำหนักราว 57 กก. สามารถยกสิ่งของได้สูงสุด 20 กก. ตัวระบบควบคุมใช้ AI ชุดเดียวกับที่เทสล่าพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ควบคุมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในรถยนต์ของเทสล่า เป้าหมายหลักๆ ในช่วงแรกคือการใช้งาน Optimus ให้ทำงานที่มีรูปบบการทำซ้ำ และอันตราย เช่น การทำงานในโรงงาน เป็นต้น
● ปัจจุบัน Optimus เจนเนอเรชั่น 2 สามารถเลียนแบบท่างทางของมนุษย์ได้มากยิ่งขึ้น ทำงานได้รวดเร็วขึ้น 30% เมื่อเทียบกับเจนเนอเรชั่นแรก น้ำหนักตัวลดลง และมีการเพิ่มความสามารถขององศาอิสระในเชิงฟิสิกข์ของมือ (DOF : degrees of freedom) รวมทั้งเพิ่มเซ็นเซอร์ตรวจจับแรงกดให้ทำงานได้ละเอียดอ่อนมากกว่าเดิม ช่วยให้การจับแก้ว, ไข่ หรืออื่นๆ ที่มีความบอบบาง ไม่แตกเสียหาย
● ตามข่าวเดิมในช่วงปลายปี 2023 เทสล่าวางแผนจะจำหน่าย Optimus เจนเนอเรชั่น 2 ภายในช่วงปี 2027 ราคาเริ่มต้นราวๆ 20,000 จนถึง 30,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6.63 – 9.94 แสนบาทครับ ●
2024 Tesla : We, Robot Concepts
The post Tesla Cybercab แท๊กซี่อัตโนมัติของเทสล่า วางแผนผลิตปี 2027 appeared first on motortrivia.