ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า กุญแจสู่การยุติสงครามของรัสเซียในยูเครนพร้อมกับการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกก็คือ ความสามัคคีของชาติยุโรป การกดดันรัสเซียต่อไปและการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ยูเครน เซเลนสกีกล่าวในช่วงเยือนกรุงบรัสเซลส์เพื่อขึ้นพูดต่อหน้าที่ประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) และร่วมประชุมกับรัฐมนตรีกลาโหมนาโต้ ว่า “รัสเซียจะหันหน้าเข้าหาการทูต ต่อเมื่อมองเห็นว่า ไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยการใช้กำลังแล้ว” การประชุมต่าง ๆ ในบรัสเซลส์คือ เวทีล่าสุดที่ผู้นำยูเครนใช้ในการนำเสนอ “แผนแห่งชัยชนะ” ของตนให้กับพันธมิตรชาติตะวันตก ในระหว่างขึ้นกล่าวต่อหน้าที่ประชุมรัฐสภายูเครนเมื่อวันพุธ เซเลนสกี เผยโครงร่างแผนการที่จะยุติปฏิบัติการรุกรานของรัสเซียที่ดำเนินมาถึง 32 เดือนนี้ซึ่งรวมถึง คำเรียกร้องให้นาโต้เชิญยูเครนเข้าร่วมกลุ่มโดยไม่มีเงื่อนไข และการเคลื่อนกำลังป้องปรามที่ไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อต้านการรุกรานของรัสเซีย มาร์ค รุตเทอ เลขาธิการนาโต้ กล่าวในวันพุธว่า การก้าวขึ้นมาเป็นสมาชิกองค์กรนี้ของยูเครนที่จะเกิดขึ้นในที่สุดเป็นเรื่องที่ “ย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว” เมื่อเวลาที่เหมาะสมมาถึง แต่เพราะกรุงเคียฟยังไม่สามารถเข้ามาร่วมกลุ่มได้ในช่วงที่ยังทำสงครามอยู่ รุตเทอจึงปฏิเสธที่จะประเมินว่า การเป็นสมาชิกของยูเครนนั้นจะเกิดขึ้นได้จริงเมื่อใด   การสู้รบที่ยังดำเนินต่อไป กองทัพยูเครนเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า ได้ยิงโดรนที่รัสเซียส่งมาโจมตีในช่วงคืนก่อนหน้าตกลงไป 22 ลำจากทั้งหมด 56 ลำ กองทัพอากาศยูเครนระบุว่า การสกัดโดรนที่ว่านั้นเกิดขึ้นในน่านฟ้าเหนือเกือบ 10 เขตปกครอง เช่น เชอร์นิฮิฟ เคียฟ มีโคลาอิฟ โอเดสซาและซูมี โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงานว่า การโจมตีนี้ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่ออาคารและโครงสร้างพื้นฐานพลังงาน รวมทั้งยานพาหนะต่าง ๆ แต่ไม่มีการระบุถึงการเสียชีวิตหรือการได้รับบาดเจ็บของผู้คน ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวในวันพฤหัสบดีว่า ได้ยิงโดรนยูเครนตกลง 6 ลำเหนือแคว้นโอร์โยล และ 4 ลำเหนือแคว้นเคิร์สก รวมทั้ง 3 ลำที่เหนือแคว้นบริแยงสก์ และเจ้าหน้าที่ในแคว้นเหล่านี้ไม่ได้รายงานเหตุความเสียหายหรือตัวเลขผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บใด ๆ     ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์