ในวันศุกร์ ศาลสูงสุดของสหรัฐฯ รับฟังข้อโต้แย้งในคดีที่เเพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ติ๊กตอก (TikTok) ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือของบริษัทจีน ไบต์เเดนซ์ (ByteDance) ยื่นอุทธรณ์หลังจากที่ทางการอเมริกันออกคำสั่งห้ามประกอบกิจการในสหรัฐฯ เว้นเเต่บริษัทแม่จะขายหุ้นออกจากติ๊กตอก ที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐฯ ให้เหตุผลว่าเเพลตฟอร์มดังกล่าวที่มีผู้ใช้ในประเทศราว 170 ล้านคนมีความเสี่ยงด้านความมั่นคง แต่ติ๊กตอกกล่าวว่าแนวทางของรัฐบาลอเมริกันขัดกับรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงออก สื่อสหรัฐฯ เช่นเอ็นบีซีและซีบีเอส รายงานว่า หากตีความจากข้อมูลและคำถามที่ศาลใช้ประกอบการพิจารณา ดูเหมือนว่าศาลอาจอนุญาตให้แอปฯ ดังกล่าวถูกแบนในสหรัฐฯ และสื่อ Yahoo! News รายงานว่าผู้พิพากษาหลายคนตั้งคำถามว่าเหตุใดติ๊กตอกจึงไม่แยกตัวออกจากไบเเดนซ์ หากว่าในที่สุดเเล้วศาลมีความเห็นว่าติ๊กตอกควรถูกแบนตามที่รัฐบาลกลางออกกฎหมาย เเพลตฟอร์มนี้ต้องหยุดดำเนินการในสหรัฐฯ วันที่ 19 ม.ค. โดยจะไม่สามารถถูกอัพโหลดได้อีกต่อไป  ส่วนผู้ที่ใช้แอปฯ ดังกล่าวอยู่แล้ว โปรเเกรมติ๊กตอกจะยังไม่หายไปจากอุปกรณ์ที่ดาวน์โหลดไว้ แต่ในที่สุดเเล้วจะไม่สามารถใช้ติ๊กตอกได้ หากว่า ไบต์เเดนซ์ ยอมขายหุ้นของติ๊กตอก เพื่อปลดล็อกความกังวลว่าเเพลตฟอร์มนี้มีปัญหาด้านความมั่นคงเนื่องจากมีบริษัทเเม่สัญชาติจีน ติ๊กตอกก็จะสามารถใช้ได้ต่อไป ทั้งนี้นักลงทุนหลายคนเช่น เควิน โอเเลรี ชาวแคนาดาซึ่งเป็นที่รู้จักจากรายการ Shark Tank แสดงความสนใจซื้อกิจการติ๊กตอก ส่วนในกรณีที่ ศาลสูงสหรัฐฯ ยังไม่ประกาศคำวินิจฉัย ก่อนวันที่ 19 ม.ค. แอปฯ นี้จะถูกห้ามใช้เป็นการชั่วคราว โดยว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยื่นขอศาลในวันที่ 27 ธ.ค. ให้ศาลสูงเลื่อนการวินิจฉัยไปจนกว่าตนเริ่มเข้าบริหารประเทศในวันที่ 20 ม.ค. เพื่อว่าจะได้สามารถช่วยเจรจาเรื่องการซื้อติ๊กตอกจากไบต์แดนซ์ ในเวลาเดียวกันนี้ แอปฯ เลมอเนต (Lemon8) ที่ไบต์เเดนซ์เป็นเจ้าของ ลงโฆษณาบนติ๊กตอกให้คนย้ายมาใช้เเพลตฟอร์มดังกล่าวแทนเเล้ว ที่มา: วีโอเอ, เอ็นบีซี, ซีบีเอส และ Yahoo! News