ภาพ : จันทนา เจริญทวี

●   ฮอนด้า ประเทศไทย เปิดตัว Honda Civic รุ่นปรับโฉมใหม่ในงานมหกรรมยานยนต์ 2024 BIG Motor Sale เบื้องต้นการจำหน่ายจะแยกเป็น 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วยรุ่นมาตรฐาน EL+, รุ่นไฮบริด e:HEV EL+ และเวอร์ชั่นสปอร์ต e:HEV RS ใครสนใจตรงไปชมคันจริงได้ในงานระหว่างวันที่ 23 สิงหาคม – 1 กันยายน 2567 ที่ไบเทค บางนา

●   รุ่นย่อย EL+ มากับกระจังหน้าใหม่, กันชนหน้าแบบสปอร์ต, ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมกรอบตกแต่งสีดำ, ไฟท้ายใหม่แบบ LED รมดำ, เสาอากาศแบบครีบฉลาม, มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ, ท่อไอเสียแบบคู่, ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 17 นิ้ว และสีใหม่ น้ำเงิน Canyon River Blue Metallic

●   นายฮิเดโอะ คาวาซากะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เป็นระยะเวลากว่า 40 ปี ที่ฮอนด้ามุ่งมั่นดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เราทุ่มเทและให้ความสำคัญกับการลงทุน เพื่อพัฒนาและนำเสนอคุณค่าใหม่ ๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อส่งมอบให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการดำเนินงานเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ xEV อย่างมั่นคง เรายินดีที่จะแนะนำ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ให้แก่ลูกค้า ซึ่งครั้งนี้มาพร้อมการยกระดับหลากหลายด้าน เพื่อสะท้อนตัวตนของผู้ใช้งานในทุกมิติ และตอบสนองทุกความต้องการได้ลงตัวยิ่งขึ้น อาทิ ปรับโฉมดีไซน์ภายนอก เพิ่มฟังก์ชันและเทคโนโลยีล้ำสมัยให้ครบครัน พร้อมด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ซึ่งซีวิค จะไม่ได้เป็นเพียงแค่รถยนต์ที่ดีเยี่ยมคันหนึ่งเท่านั้น แต่จะมอบประสบการณ์ที่ดีตลอดการใช้งาน โดยจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่จะขับเคลื่อนชีวิตคุณไปสู่ทุกความสำเร็จ และทำให้คุณภูมิใจในการเป็นเจ้าของอย่างสูงสุด”

นายฮิเดโอะ คาวาซากะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

●   รุ่นย่อย e:HEV EL+ กระจังหน้าใหม่, กันชนหน้าแบบสปอร์ต, ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟ DRL LED และกรอบตกแต่งไฟหน้าสีเดียวกับตัวรถ, โลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย, ไฟท้ายใหม่แบบ LED รมดำ, เสาอากาศแบบครีบฉลาม, มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ, ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และสีใหม่ น้ำเงิน Canyon River Blue Metallic

●   รุ่นย่อย e:HEV RS พิเศษด้วยกระจังหน้าใหม่พร้อมสัญลักษณ์ RS่, กันชนแบบสปอร์ต, กระจกมองข้างสีดำ, มือจับประตูด้านนอกสีดำตกแต่งด้วยโครเมียม, เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ, ปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมสัญลักษณ์ RS ด้านท้าย, ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว สี Matte Black และท่อไอเสีย พร้อมปลอกท่อไอเสีย

●   ห้องโดยสารรุ่น EL+ และ e:HEV EL+ มาพร้อมวัสดุเบาะหนังแท้ และหนังสังเคราะห์สีดำ, ทุกรุ่นย่อยมีช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และเบาะหลังสามารถแยกพับแบบ 60:40 ในทุกรุ่นย่อย ส่วนห้องโดยสารรุ่น e:HEV RS พิเศษกว่าด้วยเบาะลายใหม่ Prime smooth วัสดุเบาะหนังกลับ และหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง, แผงคอนโซลหน้าและแผงประตูด้านข้างตกแต่งด้วยสีแดงแบบสปอร์ต

●   อุปกรณ์มาตรฐานมีจอทัชสกรีนขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay หรือ Android Auto แบบไร้สาย, รองรับระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri และ Android Auto ในทุกรุ่นย่อย, ระบบ Honda CONNECT ทุกรุ่นย่อย, พอร์ท USB Type-C รวม 4 ช่อง หน้า 2 หลัง 2 ทุกรุ่นย่อย, แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิด พร้อมไฟส่องสว่างด้านผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า, เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางทุกรุ่นย่อย และเพิ่มความสะดวกด้วย Google built-in มาให้ทุกรุ่นย่อย

●   สำหรับ Google built-in ที่เพิ่มเข้ามาใหม่นั้น รองรับการใช้งานผู้ช่วยเสมือน Google Assistant ผ่านคำสั่งเริ่มต้น “Ok Google” หรือกดปุ่มเสียงบนพวงมาลัยเพื่อเริ่มต้นใช้งาน, Google Maps, Google Play และสามารถลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google เพื่อใช้งานแอพฯ ยอดนิยมอย่าง YouTube Music หรือ Spotify ได้

●   และสำหรับ Honda CONNECT ในทุกรุ่น จะมี 8 ฟังก์ชันการใช้งานหลัก ประกอบด้วย My Service, Car Log, Wi-Fi, Airbag Deployment, Car Status, Remote Vehicle Control, Geo Fence & Speed Alert และ Find My Car

●   อุปกรณ์มาตรฐานเฉพาะรุ่นมี มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับแบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว (EL+และ e:HEV EL+), มาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับแบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว (e:HEV RS), ถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย (e:HEV EL+ และ e:HEV RS), ชุดลำโพง 8 ตำแหน่ง (EL+ และ e:HEV EL+), ชุดลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง (e:HEV RS), กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ (e:HEV EL+ และ e:HEV RS), เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง (e:HEV EL+ และ e:HEV RS), เบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ (EL+ และ e:HEV EL+) และระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ Honda Smart Key System พร้อม Honda Smart Key Card (e:HEV RS)

ระบบความปลอดภัย

●   ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบความปลอดภัย Honda SENSING ประกอบด้วย ระบบ Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถคันหน้าที่ความเร็วต่ำ, ระบบ Lead Car Departure Notification System เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่, ระบบ Collision Mitigation Braking System เตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรค, ระบบ Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกเลน พร้อมฟังก์ชั่นหน่วงพวงมาลัยเพื่อดึงรถกลับเข้าเลน, ระบบ Lane Keeping Assist System ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และระบบ Auto High-Beam ปรับไฟสูงอัตโนมัติ

●   เสริมด้วยฟังก์ชั่นใหม่ เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และหลัง 4 จุด (e:HEV EL+ และ e:HEV RS) ระบบ Honda LaneWatch แสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (e:HEV EL+ และ e:HEV RS), ระบบ Driver Attention Monitor ช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับ, กล้องมองภาพด้านหลัง Multi-angle Rearview Camera ปรับมุมมอง 3 ระดับ 130 องศา / 180 องศา และมุมมองจากด้านบน

●   นอกจากนี้ยังมี Emergency Stop Signal สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรคกะทันหัน, ระบบ Hill Start Assist ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบ Auto Brake Hold, ระบบ Front Passenger and Rear Seat Belt Reminder เตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า และผู้โดยสารด้านหลัง (e:HEV EL+ และ e:HEV RS), ไฟ Rear Seat Reminder แจ้งเตือนเบาะนั่งด้านหลัง, จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก ISOFIX & Child Anchor

●   ต่อด้วยเบรคมือไฟฟ้า Electric Parking Brake, ระบบ Walk Away Auto Lock ล็อครถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ, ระบบ Auto Door Lock by Speed ล็อคประตูรถอัตโนมัติ, กุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย, ถุงลม 6 ตำแหน่ง คู่หน้า Dual SRS, ด้านข้างคู่หน้า Side Airbags และม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags, เสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับด้วยโหมดมอเตอร์ไฟฟ้า AVAS (e:HEV EL+ และ e:HEV RS) ปิดท้ายด้วยอุปกรณ์อุดการรั่วซึมของยางชั่วคราว Temporary Puncture Repair Kit หรือ TPRK (e:HEV EL+ และ e:HEV RS)

2 ทางเลือกระบบขับเคลื่อน

●   ระบบขับเคลื่อนเลือกได้ระหว่างรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร DOHC VTEC Turbo ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 4,500 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 17.2 กม./ลิตร รองรับ E85 โหมดในการขับเลือกได้ 2 โหมดระหว่าง Normal หรือ ECON

●   รุ่นไฮบริด e:HEV ใช้เครื่องยนต์เบนซิน Atkinson-Cycle แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ E-CVT แบตเตอรี่แพคชนิดลิเธียม-ไอออน ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ออกแบบให้ควบรวมในชุดเกียร์ แยกเป็นมอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ขับเคลื่อน (Motor Drive) กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 2,000 รอบ/นาที ให้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 25 กม./ลิตร อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ 96 กรัม/กม. น้ำมัน 1 ถังวิ่งได้ไกลกว่า 800 กม.

●   โหมดในการขับเคลื่อนมี 3 โหมด ประกอบด้วย EV Drive Mode, Hybrid Drive Mode และ Engine Drive Mode พร้อมสวิทซ์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่สามารถเลือกโหมดได้อีก 4 โหมด ได้แก่ Individual Mode (โหมดใหม่ในรุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV RS), ECON, Normal หรือ Sport Mode (e:HEV EL+ และ e:HEV RS)

ราคาจำหน่าย

●   การจำหน่าย Civic ใหม่จะแยกเป็น 3 รุ่นย่อย EL+, e:HEV EL+ และ e:HEV RS สีภายนอกเลือกได้ 6 สีระหว่าง น้ำเงิน Canyon River Blue Metallic (สีใหม่เฉพาะรุ่น EL+ และ e:HEV EL+), แดง Ignite Red Metallic (เฉพาะรุ่น e:HEV RS), ขาว Platinum White Pearl, ดำ Crystal Black Pearl, เทา Meteoroid Gray Metallic และสีเงิน Lunar Silver Metallic

●   ส่วนสีภายในห้องโดยสารจะเป็นโทนสีดำใหม่ในรุ่น e:HEV RS พร้อมเบาะลายใหม่ ด้วยวัสดุหนังกลับและหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ในขณะที่รุ่น EL+ และ e:HEV EL+ จะเป็นเบาะหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์สีดำ

• Civic EL+ ราคา 1,039,000 บาท
• Civic e:HEV EL+ ราคา 1,099,000 บาท
• Civic e:HEV RS ราคา 1,239,000 บาท

●   ข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นที่ 0.99% พร้อมรับ ฮอนด้า เอ็กซ์คลูซีฟ แคร์ และข้อเสนอพิเศษ Honda Loyaly สำหรับลูกค้าฮอนด้าและครอบครัว รับดอกเบี้ยพิเศษลดลงอีก 0.30% เหลือดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 0.69% หรือเลือกรับ ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส เลือกผ่อนค่างวดเบาๆ หรือเลือกดาวน์ต่ำได้ และพิเศษกับแคมเปญ Honda Happy Trade-in ขายรถคันเดิมเพื่อออก Civic ใหม่ รับเพิ่มบัตรน้ำมันสูงสุด 30,000 บาท

●   นอกจากนี้ยังมีชุดแต่ง Modulo แบบใหม่ อาทิ ไฟตัดหมอกหน้า ราคา 10,500 บาท, ม่านบังแดดผู้โดยสารตอนหลัง ราคา 2,600 บาท, อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย ราคา 6,000 บาท, ฟิล์มกันรอยบริเวณที่เปิดประตู ราคา 600 บาท, ชุดโลโก้ H-Mark สีดำ ราคา 1,300 บาท (สำหรับรุ่น PET) และ 1,200 บาท (สำหรับรุ่น e:HEV), คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้าสีดำ ราคา 1,950 บาท เป็นต้น

●   ใครอยากได้แบบเป็นแพคเกจ ฮอนด้ายังมีแพคเกจชุดแต่งรอบคันให้เลือก 3 แพคเกจ ได้แก่ (1) Modulo Aero Package ราคา 21,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลัง (2) Modulo Aero Sporty Package ราคา 29,900 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง, สเกิร์ตหลัง และสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรค และ (3) Exhaust Pipe Finisher Package ราคา 1,950 บาท ประกอบด้วยปลอกท่อไอเสียสเตนเลส 2 ชิ้น (ราคาอุปกรณ์ตกแต่ง ไม่รวม VAT 7%)

●   สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.honda.co.th หรือ www.honda.co.th/civic หรือดูรายละเอียดของอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้ที่ hondaaccess.co.th/line-up/honda-civic หรือ facebook.com/hondathailand หรือแอด LINE : line.me/R/ti/p/@honda-thailand หรือติดต่อ Honda Call Center 24 ชม. โทร. 02-341-7777 ●

Grand Opening : 2024 Honda Civic

The post Honda Civic ใหม่ เปิดตัวในงาน BIG Motor Sale 2024 appeared first on motortrivia.