กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังพยายามตามล่าผู้ต้องสงสัยที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในการสร้างหรือดัดแปลงภาพการละเมิดทางเพศที่มีเด็กเป็นเหยื่อ ท่ามกลางความกังวลว่าเทคโนโลยีนี้จะทำให้เกิดการนำเสนอเนื้อหาผิดกฎหมายมากขึ้น ที่ผ่านมาในปีนี้ กระทรวงฯ ได้ดำเนินการทางอาญา 2 คดี ต่อผู้ต้องหาในมูลความผิดที่ใช้ AI สำหรับเนื้อหาที่ละเมิดทางเพศต่อเยาวชน หัวหน้าหน่วยอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์และทรัพย์สินทางปัญญาของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เจมส์ ซิลเวอร์ กล่าวว่า "สิ่งที่เรากังวลคือการทำให้เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ" เขาคาดว่าน่าจะเกิดกรณีลักษณะเดียวกันเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวว่ากระทรวงต้องการหยุดยั้งและป้องกันการกระทำเหล่านี้ แม้การปราบปรามเนื้อหาละเมิดทางเพศต่อเด็กโดยใช้ AI เป็นหัวข้อที่ค่อนข้างใหม่ ทางด้านกฎหมายในสหรัฐฯ  ซิลเวอร์กล่าวว่า ในกรณีที่ผู้กระทำผิดอาจรอดข้อหาเกี่ยวกับเนื้อหาละเมิดเด็ก แต่อาจไม่สามารถพ้นข้อหาผลิตและเผยเเพร่สื่อลามก เมื่อ 2 ปีที่เเล้วศาลสูงสหรัฐฯ ตัดสินว่ากฎหมายรัฐบาลกลางฉบับหนึ่ง ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ โดยกฎหมายดังกล่าวตั้งข้อหาอาญาต่อการเเสดงภาพซึ่งรวมถึงที่ถูกสร้างขึ้นจากคอมพิวเตอร์ และเป็นภาพที่มีลักษณธของกิจกรรมทางเพศของผู้เยาว์ นักรณรงค์ด้านความปลอดภัยของเด็กและเจ้าหน้าที่ฝ่ายอัยการของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า ผู้กระทำผิดใช้ AI เป็นเครื่องมือเปลี่ยนรูปทั่วไปของเด็ก ๆ ให้กลายเป็นสื่ออนาจาร บุคลากรเหล่านี้เตือนว่าการเเพร่ข้อเนื้อหาที่ผลิตโดย AI ทำให้เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายทำงานยากขึ้นในการระบุตัวเหยื่อ ศูนย์ปกป้องเยาวชน National Center for Missing and Exploited Children ซึ่งเป็นองค์กรไม่เเสวงหาผลกำไร ระบุว่าโดยเฉลี่ยแต่ละเดือน หน่วยงานของเขาจะได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้ AI ที่มีเหยื่อเป็นเด็กประมาณ 450 ครั้ง  สำหรับการฉวยประโยชน์จากเด็กทางอินเตอร์เน็ตโดยรวม รอยเตอร์รายงานว่า ตัวเลขการเเจ้งเหตุอยู่ที่ 3 ล้านกรณี ต่อเดือนเมื่อปีที่เเล้ว ที่มา: รอยเตอร์