หน่วยงานสอดเเนมเกาหลีใต้กล่าววันศุกร์ว่าเกาหลีเหนือได้ส่งทหารไปสนับสนุนการทำสงครามของรัสเซียต่อยูเครน หากว่าเกิดขึ้นจริง การกระทำดังกล่าวถือเป็นการมีส่วนร่วมของประเทศที่สามในสงครามนี้และน่าจะยิ่งทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันยิ่งขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือและโลกตะวันตก ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน ประธานาธิบดียูเครนโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีกล่าวว่ารัฐบาลของเขามีข้อมูลข่าวกรองที่ชี้ว่าทหารเกาหลีเหนือจำนวน 10,000 คนกำลังเตรียมที่จะร่วมกองทัพรัสเซียในการต่อสู้กับยูเครน หน่วยงานข่าวกรองเกาหลีใต้ หรือ NIS (National Intelligence Service) ระบุในเเถลงการณ์ว่าเรือรบของรัสเซียได้ลำเลียงทหารเกาหลีเหนือ 1,500 คนมาสู่ท่าเรือเมืองวลาดิวอสตอกของรัสเซียระหว่างวันที่ 8 - 13 ต.ค. และว่ากรุงเปียงยางอาจส่งทหารไปรัสเซียเพิ่มมากขึ้นอีกไม่นานนี้ด้วย NIS ระบุว่าทหารเกาหลีเหนือที่ถูกส่งไปช่วยรัฐบาลมอสโก ได้รับคำสั่งให้สวมชุดทหารและใช้อาวุธของรัสเซีย ทั้งยังใช้เอกสารระบุตัวตนปลอม เเละเสริมว่าทหารเหล่านี้น่าจะถูกส่งไปรบภาคพื้นดินหลังได้รับการฝึกเพื่อปรับตัวกับพื้นที่ ทั้งนี้ เท่าที่ผ่านมา NIS สามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเกาหลีเหนืออย่างได้ผลบ้าง แต่ก็มีบางครั้งที่ไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้รัฐบาลเปียงยางบริหารประเทศอย่างเป็นความลับที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หากว่าข่าวนี้ได้รับการยืนยัน ถือว่าเป็นการเข้าร่วมสงครามของเกาหลีเหนือครั้งใหญ่ครั้งเเรกในต่างเเดน โดยเกาหลีเหนือมีทหาร 1.2 ล้านคน มากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือไม่ได้เข้าร่วมสงครามครั้งใหญ่ตั้งเเต่สงครามเกาหลีปี 1950-53  เมื่อถูกถามถึงรายงานฉบับนี้ของ NIS เลขาธิการนาโต้ มาร์ค รุตเทอ กล่าวว่ายังไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของรายงานชิ้นนี้ในเวลานี้ "แต่มันอาจเปลี่ยนไปจากนี้ได้"   โฆษกทำเนียบรัฐบาลรัสเซีย ดมิทรี เพสคอฟ ระบุว่าเรื่องนี้ "เป็นข่าวปลอมอีกชิ้นหนึ่ง" เท่านั้น ส่วนสื่อทางการเกาหลีเหนือยังไม่ความเห็นในเรื่องนี้ ผู้เชี่ยวชาญบางรายไม่คิดว่า หากเกาหลีเหนื่อส่งทหารไปช่วยรัสเซียจริง จะเป็นประโยชน์ต่อกองทัพมอสโกได้มาก ส่วนหนึ่งเพราะทหารเกาหลีเหนือขาดประสบการณ์ในสนามรบ แต่ในทางกลับกันสิ่งที่รัฐบาลเปียงยางจะได้กลับมาจารัสเซียอาจจะเป็นข้อดีอย่างมีนัยสำคัญ เลฟ-เอริค อีสลีย์ ศาสตราจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่งประเทศที่มหาวิทยาลัย Ewha Womans University ที่กรุงโซลกล่าวว่า "ในทางการทูตเกาหลีเหนืออาจสูญเสียความสัมพันธ์กับประเทศยุโรปในอนาคตอันใกล้ สิ่งที่จะได้เเลกเปลี่ยนกลับมาจากรัสเซียที่จะเป็นเทคโนโลยีการทหาร อาจเพียงพอที่จะเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของเกาหลีใต้ได้" นักวิเคราะห์ฮอง มิน จากสถาบัน Seoul’s Korea Institute for National Unification กล่าวว่าเทคโนโลยีจากรัสเซียที่รัฐบาลเปียงยางอาจจะได้รับ น่าจะอยู่ในกลุ่ม ขีปนาวุธข้ามทวีป เรือดำน้ำพลังงานิวเคลียร์และระบบป้องกันที่ยิงจากพื้นสู่อากาศ เป็นต้น มินกล่าวว่าเครื่องมือเหล่านี้อาจช่วงป้องปรามสหรัฐฯและเกาหลีใต้ที่กดดันเกาหลีเหนือได้ และว่าทหารเกาหลีเหนืออาจได้เรียนรู้ด้านเทคโนโลยีกลาโหมใหม่ ๆ จากการร่วมรบกับรัสเซียด้วย แต่อาจารย์อีสลีย์แสดงความไม่เเน่ใจว่าเกาหลีเหนือส่งทหารไปรัสเซียตามที่หน่วยงาน NIS รายงานหรือไม่ ส่วนนักวิเคราะห์บางรายในรายงานของเอพีระบุว่าทรัพยากรของเกาหลีเหนือน่าจะถูกใช้ไปในกับความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีมากแล้ว อีสลีย์กล่าวว่าเขาจะรู้สึกแปลกใจถ้ารัฐบาลเปียงยางส่งกำลังพลนับหมื่นคนไปในฐานะทหารรับจ้าง และว่าที่น่าจะเป็นไปได้คือการส่งคนงานก่อสร้าง วิศวกร และเจ้าหน้าที่ข่าวกรองทหารไปช่วยรัสเซียมากกว่า ที่มา: เอพี